“บิ๊กตู่” เมินข่าว “ทศพร” สละเรือ ทิ้งหมดทุกตำแหน่ง ปธ.บอร์ด ปตท.-ปธ.คณะที่ปรึกษานายกฯ “บิ๊กป้อม” ตีมึนถามสื่อ “เป็นใคร” รองโฆษก รบ.แจงเหตุผลส่วนตัวอย่าโยงการเมือง แกนนำ พปชร.ชง “ลุงป้อม” ปิดหัวจ่ายดัดหลัง “งูเห่า” ชี้เป้าพวกแปรพักตร์ซบ ภท. “จุรินทร์” ไม่กดดันนายกฯปรับ ครม. ประกาศไม่เอาด้วยแก้ ม.112 “เสี่ยหนู” ประกาศคัดค้านถึงที่สุด กร้าวไม่ร่วมสังฆกรรมก้าวไกลทุกกรณี “โรม” ย้ำนโยบายปฏิรูปกองทัพ ตร.หญิง ยอมรับมีสัมพันธ์สมาชิกรัฐสภาจริง “ประวิตร” งานเข้า “หม่อมอุ๋ย” เปิดข้อมูล กมธ.ป.ป.ช. ไร้นาฬิกาหรู 20 เรือนในกองมรดก “ปัฐวาท” กระทุ้ง ป.ป.ช.รื้อคดี ศาล รธน.สั่งยุบ “ไทรักธรรม”กระแสวิพากษ์วิจารณ์พรรคก้าวไกล หลังประกาศ ชูนโยบายหาเสียง “การเมืองไทยก้าวหน้า” ที่จะผลักดัน นิรโทษกรรมคดีการเมือง และแก้ไขมาตรา 112 สร้างแรงสั่นสะเทือนทางการเมือง ล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ประกาศไม่ขอร่วมสังฆกรรมทางการเมืองกับพรรคก้าวไกลทุกกรณี “บิ๊กตู่” เมินข่าว “ทศพร” สละเรือเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 19 ต.ค. ที่ตึกภักดี บดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวระหว่างเป็น ประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารงาน เชิงพื้นที่แบบบูรณาการ (ก.น.บ.) ครั้งที่ 1/2565 ว่า จำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนหลายอย่างเพื่อให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 13 ให้เกิดกลไกการทำงานที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันต้องทำงานแบบพุ่งเป้ากลุ่มพื้นที่ที่มีหลายกลุ่ม เพื่อให้หลุดพ้นจากความลำบาก และมีการพัฒนาตนเอง และสังคมไปด้วยกัน ภายหลังการประชุมผู้สื่อข่าวสอบถามถึงกรณีนายทศพร ศิริสัมพันธ์ ลาออกจากประธานคณะกรรมการอิสระ และประธานกรรมการ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และมีข่าวเตรียมลาออก จากประธานคณะที่ปรึกษานายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า เขาลาออกก็คือลาออก เมื่อถามว่าไม่เกี่ยวกับ การปรับ ครม.ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบคำถามก่อนเดินขึ้นไปยังห้องทำงาน“บิ๊กป้อม” ไม่รู้ “ทศพร” เป็นใครขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายก รัฐมนตรี ย้อนถามผู้สื่อข่าวหลังซักถามเรื่องการลาออก จากตำแหน่งต่างๆของนายทศพร ว่า “เป็นใคร” ผู้สื่อข่าวจึงตอบว่าเป็นประธานคณะที่ปรึกษาของนายกฯ และอดีตประธานกรรมการ บริษัท ปตท. พล.อ.ประวิตรนิ่งคิดสักครู่ แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ก่อนจะขึ้นรถยนต์เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลไปเรื่องส่วนตัวอย่าโยงการเมืองน.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกฯชี้แจงว่าประเด็นเรื่อง นายทศพรลาออก ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะนำไปเชื่อมโยง ทางการเมือง เพราะเป็นเหตุผลส่วนตัวของนายทศพร เวลานี้นายกฯและรัฐบาลมุ่งเน้นทำงานตามกรอบของนโยบาย มุ่งเป้าหมายช่วยเหลือประชาชนเป็นหลัก อย่าไปพุ่งเป้าความขัดแย้ง หรือกระแสสังคมที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง โดยเฉพาะเวลานี้รัฐบาลต้องเตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปกมากกว่า เมื่อถามว่ามีเสียงวิจารณ์ว่าอาจถูกบีบให้ ลาออก น.ส.ทิพานันกล่าวย้ำว่า สาเหตุการลาออก น่าจะเป็นเหตุผลส่วนตัว ไม่ได้เกิดจากความขัดแย้งตามที่มีการคาดเดากันชง “ลุงป้อม” ดัดหลัง ส.ส.งูเห่าผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกระแสข่าว ส.ส.พลังประชารัฐหลายคนเตรียมย้ายไปอยู่พรรคอื่น ส่งผลให้แกนนำพลังประชารัฐบางส่วนเตรียมเข้าหารือนอกรอบกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เสนอให้หยุดการดูแล ส.ส.เหล่านี้ โดยเฉพาะกลุ่มที่ไปร่วมงานวันคล้ายวันเกิดนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตรดูแล ส.ส. และสนับสนุนการทำพื้นที่มาตลอดไม่น้อยหน้าพรรคอื่น และยังดูแลอยู่เหมือนเดิมแม้บางคนมีข่าวจะย้ายพรรคก็ตาม เมื่อชัดเจนว่า จะไม่อยู่แล้วจึงไม่จำเป็นต้องดูแลอีกต่อไป ควรหันมา ให้ความสำคัญกับคนที่ยังอยู่กับพรรคแทน และมีคน มาแสดงความประสงค์จะขอลงสมัคร ส.ส.แทนคนที่ จะไป เพราะมั่นใจว่า พปชร.ยังคงมีทรัพยากรพร้อม ที่จะสู้กับพรรคใหญ่ด้วยกัน โดยเฉพาะกลุ่มที่ผิดหวังไม่ได้ลงสมัครในนามพรรคใหญ่ฝ่ายค้าน พร้อมหันมา ลงในนามพลังประชารัฐแทน “จุรินทร์” ไม่กดดันปรับ ครม.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี ในส่วนของพรรคหลังจากนายกฯระบุให้รออีกนิดว่า เป็น ดุลพินิจของนายกฯว่าจะดำเนินการเมื่อไหร่ ตนให้ เกียรตินายกฯ ไม่ไปคาดคั้น ถือว่าภารกิจของพรรคประชาธิปัตย์เสร็จสิ้นแล้ว ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าว ว่า คนระดับแกนนำพรรคอาจย้ายออก นายจุรินทร์ตอบว่า ไม่มีใครย้ายออก และนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข รองหัวหน้าพรรค ปชป. ให้สัมภาษณ์ปฏิเสธไปแล้ว ไม่รู้ว่าข่าวมาจากไหน มีทั้งข่าวที่ปรารถนาดี และปรารถนาไม่ดี แต่ในภาพรวมทุกพรรค เมื่อเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง ย่อมเกิดปรากฏการณ์มีคนเข้าคนออก เห็นได้จากทุกพรรค แต่พรรคจัดเตรียมผู้สมัครไว้ครบหมดแล้ว และจะทยอยเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ที่จังหวัดสมุทรสาคร นครศรีธรรมราช พัทลุง นครราชสีมาประกาศไม่เอาด้วยแก้ ม.112เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าจะได้ ส.ส.ในภาคใต้ มากขึ้น นายจุรินทร์ตอบว่า มั่นใจ เคยพูดไว้หลาย ครั้งแล้วว่าต้องมากกว่าที่เคยได้ 22 ที่นั่งแน่นอน และกล้ายืนยันว่า ประชาธิปัตย์เป็นพรรคหนึ่งที่เสนอเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ทำงานยึดประโยชน์ส่วนรวมและประชาชนเป็นหลัก และยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พร้อมสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็น ประชาธิปไตยสมบูรณ์มากขึ้น โดยไม่แตะหมวดหนึ่ง หมวดสอง และยืนยันว่า เราไม่เอาด้วยกับการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ไม่มีประเทศไหน ที่ไม่มีบทคุ้มครองประมุขของประเทศภท.ลั่นจะคัดค้านให้ถึงที่สุดนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยมีอุดมการณ์การเมืองปกป้องสถาบันสำคัญของชาติเป็นข้อแรก ไม่มีนโยบาย ไม่มี ความคิดเรื่องแก้ไขมาตรา 112 ไม่เข้าใจว่าคนที่เสนอ แก้ไขมาตรา 112 เดือดร้อนอะไร ถ้าเราไม่คิดทำผิดกฎหมายทำไมต้องกลัว เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่รู้สึกว่ากฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นปัญหาอุปสรรคในการดำเนินชีวิต มีก็แต่กลุ่มคนที่คิดท้าทายทำผิดกฎหมาย แต่ก็กลัวโทษตามกฎหมาย มั่นใจว่าการแก้ไข กฎหมายอาญามาตรา 112 ไม่มีทางได้รับความเห็นชอบ จากรัฐสภา แต่เราไม่เอาและจะคัดค้านขัดขวางถึงที่สุดกร้าวไม่ร่วมรัฐบาลกับก้าวไกลนายอนุทินกล่าวอีกว่า พรรคเราจะไม่ร่วมมือ ร่วมทำงานกับพรรคการเมือง นักการเมือง หรือกลุ่ม การเมืองที่เสนอแก้ไขมาตรา 112 ทุกระดับ รวมไปถึง การจัดตั้งรัฐบาล หลังการเลือกตั้งครั้งหน้า หรืออีก กี่ครั้งก็ตาม เมื่อถามว่า แสดงว่าพรรคภูมิใจไทยจะไม่จัดตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกลที่เสนอแก้ไขมาตรา 112 นายอนุทินตอบว่า ไม่มีทางอย่างแน่นอน ไม่ใช่เฉพาะพรรคก้าวไกล แต่พรรคภูมิใจไทยจะไม่ร่วม จัดตั้งรัฐบาล ที่มีพรรคการเมืองที่มีนโยบาย มีแนวคิด แก้ไขมาตรา 112 รวมอยู่ด้วยเพราะมีอุดมการณ์ขัดแย้งกัน จนไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ “โรม” ย้ำนโยบายปฏิรูปกองทัพนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงข่าวกลุ่มผู้ประกอบการสร้างบ้านขายให้กับกำลังพลกองทัพบก ออกมาแฉว่ามีการหักหัวคิว แต่เมื่อไปร้องเรียนต่อกองทัพเองกลับถูกคุกคามเพื่อหวังทำลายหลักฐานว่า เหตุการณ์นี้ย้ำชัดว่าประเทศนี้ปล่อยให้กองทัพเป็นแดนสนธยาหาผลประโยชน์ได้มหาศาลของบรรดานายพล ทุจริตที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่ทหารชั้นผู้น้อยเท่านั้น แต่ลามมาถึงประชาชนผู้บริสุทธิ์ พรรคก้าวไกลขอย้ำกองทัพไทยต้องถูกปฏิรูปโดยเร็วที่สุด 5 ข้อตามที่แถลงนโยบายไป และขอเสนอให้ธนาคารของรัฐเป็นผู้พิจารณาปล่อยสินเชื่อเงินกู้แก่กำลังพล ไม่ใช่ให้พวกนายพลมารับผิดชอบ อันนำมาสู่การทุจริตแบบกรณีนี้ คืนที่ดินกองทัพให้ประชาชน คืนธุรกิจกองทัพให้รัฐบาล ไม่ให้กองทัพเอามาค้ากำไร เพราะอาจหมกเม็ดการทุจริตในธุรกิจเหล่านี้ได้อีกจ่อเรียก “บิ๊กตู่–บิ๊กช้าง” ชี้แจงเวลา 14.00 น. ที่จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชนและ การมีส่วนร่วมของประชาชน สภาฯ รับหนังสือจากนางพัสนีย์ บัวสันเทียะ น.ส.ธนาวดี มีทองเจริญ ผู้ประกอบการสร้างบ้านขายให้กับกำลังพลกองทัพบก นำโดยนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความเพื่อประชาชน ขอให้ตรวจสอบกรมสวัสดิการทหารบก กรณีการให้ข้าราชการทหารชั้นประทวนและชั้นสัญญาบัตรกู้ซื้อบ้าน พร้อมทั้งรายละเอียดการโอนค่าหัวคิวให้กับนายทหารชั้นผู้ใหญ่รวม 48 ราย มีการอ้างว่าหักเป็นค่าสวัสดิการกองทัพบกร้อยละ 5 และหักเงินทอนส่วนต่าง จำนวน 400,000 บาท นายณัฐชากล่าวว่า จะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของ กมธ. โดยจะเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม และผู้เสียหายเข้าชี้แจง จะติดตามเรื่องนี้จนถึงที่สุดกมธ.ทหารเล็งเชิญ “บิ๊กบี้” แจงนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ โฆษกคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า กมธ.เตรียมเชิญ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. พล.ต.สัมพันธ์ ดำรงกุล เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก และผู้รับเหมาที่ได้รับความเสียหาย เข้าชี้แจงต่อ กมธ.นายกฯยังไม่พูดถึง ครม.สัญจรนายอนุชา บูรพชัยศรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงคำเตือนจาก กกต.ในการจัด ครม.สัญจรว่า นายกฯยังไม่ได้พูดถึงเรื่องการจัด ครม.สัญจร ตอนนี้เน้นเรื่องการประชุมเอเปก ต้องเตรียมความพร้อมทุกส่วน รวมถึงความมั่นคง เมื่อถามว่าช่วงนี้รัฐบาลต้องรุกการประชาสัมพันธ์ เป็นพิเศษหรือไม่ นายอนุชาตอบว่า มีคณะกรรมการดูแลในส่วนต่างๆ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วม โดยเฉพาะข้อดีของประชาชนที่จะได้อะไรจากการประชุมครั้งนี้ และถือเป็นการประชุมครั้งสำคัญอย่างยิ่งต่อบทบาทของไทยในประชาคมโลกครั้งนี้ ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมต่างๆไม่ว่าจะมีทัศนคติทางการเมืองรูปแบบไหน เราต้องร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดีอุบเงียบผู้นำชาติเอเปกตอบรับเมื่อถามว่าระดับผู้นำประเทศยืนยันจะมาร่วม หรือแจ้งตอบรับมาแล้วหรือยัง นายอนุชาตอบว่า มีหลายประเทศที่ตอบรับมาชัดเจน แต่ด้วยธรรมเนียมปฏิบัติคงไม่สามารถระบุได้ว่าผู้นำคนใดจะมาได้ และผู้นำแต่ละประเทศยังไม่แจ้งในประเทศของเขาเองด้วยซ้ำ อยู่ดีๆจะมาบอกเราว่าจะมา อาจผิดธรรมเนียมปฏิบัติ เมื่อถามว่าเป็นเรื่องของการรักษาความปลอดภัยหรือไม่ นายอนุชาตอบว่า มีหลายส่วนไม่ใช่เฉพาะเรื่องการรักษาความปลอดภัย เป็นเรื่องความจำเป็นในพื้นที่ของแต่ละประเทศ สหรัฐฯชวนไทยทำเอ็มโอยูไซเบอร์วันเดียวกัน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ระหว่างเข้าร่วมงาน Singapore international Cyber week ที่ประเทศสิงคโปร์ ได้หารือกับนายอะเลฮันโดร มาโยกัส รมว.ความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐอเมริกา แลกเปลี่ยนข้อมูลด้านความปลอดภัยไซเบอร์ นายอะเลฮันโดร มาโยกัส ระบุว่าทางสหรัฐฯสนใจที่จะลงนาม MOU กับประเทศไทย เรื่องความร่วมมือป้องกันภัยไซเบอร์ หรือ Cyber security มุ่งเน้นไปที่วิธีจัดการอาชญากรรมออนไลน์ที่เกี่ยวกับเยาวชน ทั้งนี้ สหรัฐฯยังเน้นย้ำเรื่องการป้องกัน scams ที่สหรัฐฯมีผู้เชี่ยวชาญสามารถตรวจสอบเส้นทางการเงินได้เลย เพื่อไม่ให้คนตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมออนไลน์เหล่านี้ จึงเชิญชวนให้บริษัทในสหรัฐฯเข้ามาลงทุนเรื่องการตั้งธุรกิจดิจิทัลในไทย ที่ตอนนี้กำลังเติบโตด้วยดี ยังพบกับหอการค้าสหรัฐฯ พร้อมบริษัทด้าน cyber security ประมาณ 40 บริษัทที่ให้ความสนใจจะมาลงทุนในไทยด้วย“ตรีชฎา” ตอก รบ.อืดเป็นเรือเกลืออีกเรื่อง น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบในหลักการมาตรการแก้ปัญหาอาวุธปืนและยาเสพติด แต่เท่าที่ดูจากรายงานในที่ประชุม เสมือนยอมรับว่าการป้องกันปราบปรามอาวุธปืนและยาเสพติดไม่ประสบผลสำเร็จ 8 ปีที่ผ่านมารัฐบาลมักทำแบบวัวหายแล้ว ล้อมคอก นับตั้งแต่เกิดเหตุกราดยิงที่ จ.นครราชสีมา จนมาถึงโศกนาฏกรรมที่ จ.หนองบัวลำภู ตั้งคณะกรรมการมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน นับจำนวนคณะกรรมการ ไม่ได้ แต่การแก้ไขปัญหายังไม่เห็นผลเป็นรูปธรรม ถือเป็นการทำงานที่ล่าช้า ไม่ทันต่อสถานการณ์ และความสูญเสียที่พี่น้องประชาชนต้องได้รับ พล.อ.ประยุทธ์ถูกพิสูจน์เป็นที่ประจักษ์ว่าขาดวิสัยทัศน์และภาวะผู้นำ ไร้ศาสตร์และศิลป์ในการสู้รบปรบมือกับปัญหาของชาติตร.หญิงรับมีสัมพันธ์สมาชิกรัฐสภานายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โฆษกกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการบรรจุ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม เข้ารับราชการตำรวจ โดยใช้อำนาจการเมืองช่วยเหลือ ว่า ที่ผ่านมา กมธ.ป.ป.ช. เชิญ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. มาให้ข้อเท็จจริงในฐานะเจ้าของคดี ได้รับข้อเท็จจริงค่อนข้างชัดเจน ทั้งขั้นตอนการเข้ารับราชการของ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ และการย้ายไปช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอคำสั่งเอกสารที่เกี่ยวข้องมาให้ กมธ.ได้ฟังข้อเท็จจริงจาก ส.ต.อ.หญิง กรศศิร์ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ยอมรับถึงความสัมพันธ์กับสมาชิกรัฐสภาคนหนึ่ง ช่วงปี 2555-2562 มีการติดต่อกันเรื่อยจนมาถึงปัจจุบัน ซึ่งสมาชิกรัฐสภาคนดังกล่าวเป็น กมธ.ร่วมกับ ผบ.ตร.ในขณะนั้น ส่วนการได้รับบรรจุเข้ารับราชการตำรวจนั้น ไม่ทราบว่าเข้ารับราชการได้อย่างไร แต่ได้สมัครโดยบังเอิญ ขณะนั้นเปิดรับแค่ 2 ตำแหน่ง มีการยกเว้นอายุ พบว่าคุณสมบัติเข้าพอดีไม่เคยลงพื้นที่ช่วยราชการใต้นายธีรัจชัยกล่าวอีกว่า ส่วนการโยกย้ายไปช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ส.ต.ท.หญิงกรศศิร์ยอมรับว่าไม่เคยไปรับราชการในพื้นที่จริง อยู่ใน กทม.และราชบุรีเป็นหลัก เคยไปลงพื้นที่แค่ตอนไปรับคำสั่งเพียง 2 ครั้ง แบบไม่ได้ค้างคืน ส่วนการเดินทางไปต่างประเทศกับ กมธ.นั้น ออกค่าใช้จ่ายเองบางส่วน แต่ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่มีผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ จากข้อมูลที่ได้มาทำให้ กมธ.เห็นภาพชัดเจนขึ้น เชื่อว่า ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ไม่สามารถเข้ามารับราชการตำรวจและดำรงตำแหน่งใน กมธ.ได้เพียงคนเดียว ต้องมีความสัมพันธ์ในระบบอุปถัมภ์อื่น แต่ กมธ.ไม่ปักใจเชื่อทั้งหมด จะเชิญผู้ถูกพาดพิง และผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม การสืบสวนข้อเท็จจริงขณะนี้คืบหน้าไปมากแล้ว พอจะประมวลภาพรวมได้ เร็วๆนี้จะสรุปเรื่องได้ไร้นาฬิกาหรูในมรดก “ปัฐวาท”นายธีรัจชัยกล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าการตรวจ สอบประเด็นนาฬิกายืมเพื่อนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ กมธ.ป.ป.ช. เชิญ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกฯ ในฐานะผู้จัดการมรดก นายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ เพื่อนของ พล.อ.ประวิตรที่เสียชีวิตไป ที่ถูกอ้างว่าเป็นเจ้าของนาฬิกาหรู 20 เรือนที่ พล.อ.ประวิตรยืมมาใส่ เพื่อให้ข้อมูลถึงทรัพย์สินของนายปัฐวาท มีรายการนาฬิกาหรูอยู่ในบัญชีมรดกหรือไม่ ได้รับคำชี้แจงจาก ม.ร.ว.ปรีดิยาธรว่า ไม่มีนาฬิกาหรูอยู่ในบัญชีมรดกของนายปัฐวาท แต่ก่อนหน้านี้จะเป็นอย่างไรไม่ทราบ จึงมีข้อน่าสงสัยว่า พล.อ.ประวิตรยืมนาฬิกาใครมาใส่ หากไม่มีอยู่ในมรดกของนายปัฐวาท ถ้านายปัฐวาทเสียชีวิต เดือน ก.พ.2560 ตามกฎหมายเมื่อเจ้าของมรดกเสียชีวิต ทรัพย์มรดกย่อมตกแก่ทายาท คือลูกของนายปัฐวาทกระทุ้ง ป.ป.ช.รื้อคดีสอบใหม่นายธีรัจชัยกล่าวว่า แต่นาฬิกาหรูที่ตกเป็นข่าว อยู่กับ พล.อ.ประวิตร เดือน ธ.ค.2560 ห่างจากที่นายปัฐวาทเสียชีวิตไปแล้ว 10 เดือน จึงอธิบายยากว่าเป็นนาฬิกายืมเพื่อน ควรเป็นนาฬิกายืมลูกเพื่อนมากกว่า หรือถ้านาฬิกาหรูไม่ใช่ทรัพย์สินนายปัฐวาทแล้ว พล.อ.ประวิตรยืมนาฬิกาใครมาใส่ ข้อเท็จจริงที่ พล.อ.ประวิตรให้การจึงขัดกันเอง อธิบายยากว่าเป็นของนายปัฐวาท ดังนั้น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ควรหยิบยกคดีนาฬิกายืมเพื่อนมาพิจารณาใหม่ ว่า พล.อ.ประวิตรไปยืมนาฬิกามาจากใคร จะทำเรื่องเสนอต่อ กมธ.ป.ป.ช. ให้เชิญเลขาธิการ ป.ป.ช.มาให้ข้อมูล เพื่อสอบถามว่า ป.ป.ช.จะรื้อฟื้นคดีใหม่ได้หรือไม่ศาล รธน.ยุบพรรคไทรักธรรมช่วงบ่ายที่ศาลรัฐธรรมนูญ องค์คณะตุลาศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคไทรักธรรม ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรค การเมืองมาตรา 92 กรณีให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด จูงใจบุคคลสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมือง โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 สั่งยุบพรรคไทรักธรรม ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (3) และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรค ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ระหว่างเดือน ก.ย.2561 ถึงเดือน ม.ค.2562 มีกำหนดเวลา 10 ปีนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรค รวมทั้งห้ามผู้ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการบริหารพรรค และถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง หรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ ภายใน 10 ปี ทั้งนี้ พรรคไทรักธรรมมี ส.ส.เพียงคนเดียวคือ นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค