เป็นที่ทราบกันอย่างดีแล้วว่า ทีมงานซอกแซกแห่งคอลัมน์ “ซูม ซอกแซก” วันอาทิตย์ ของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐนั้น มีความชื่นชมและชื่นชอบในการฟังเพลงทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นลูกทุ่ง, ลูกกรุง, สุนทราภรณ์ เพลงสากลธรรมดา, เพลงสากลประเภทป๊อปประเภทร็อก ไปจนถึงเพลงคลาสสิกต่างๆเมื่อดนตรีประเภทใด หรือเพลงในลักษณะใดเกิดท็อปฮิต กลายเป็นเรื่องที่พูดถึงกันอย่างฮือฮาในแต่ละช่วงเวลา...ก็จะนำมาเขียนถึงอยู่เสมอไม่นานมานี้ก็เพิ่งจะเขียนถึงเพลง Sweet Caroline เพลงฮิตอมตะกว่า 50 ปี ของ นีล ไดมอนด์ ที่มีการนำมาร้องในสนามกีฬาเพื่อเชียร์กีฬา อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลประเภทมหาวิทยาลัยของสหรัฐฯ และล่าสุดก็กลายมาเป็นเพลงเชียร์ประจำทีม “สิงโตหญิง” หรือทีมนักฟุตบอลหญิงของอังกฤษที่คว้าแชมป์ยุโรปเมื่อ 2-3 เดือนที่แล้ว ซึ่งได้มีการนำเพลง Sweet Caroline มาขับร้องทั้งในสนามเวมบลีย์ และในวันแห่ถ้วยชนะเลิศไปรอบๆกรุงลอนดอนวันนี้ได้เวลาที่จะปรับโหมดเข้าสู่ “เพลงลูกทุ่ง” อีกครั้งละครับ เป็น “ลูกทุ่ง” ระดับโรงเรียนมัธยมที่เคยดังมากเมื่อ 20 กว่าปีก่อน และเลิกราไปพักหนึ่ง แต่เพิ่งจะกลับมาโด่งดังอีกหน เมื่อไม่นานมานี้เองรายการ “ชิงช้าสวรรค์ 2022” ของช่อง เวิร์คพอยท์ หรือช่อง 23 นั่นแหละครับ เป็นข่าวฮือฮามากในโซเชียลมีเดีย เมื่อสัปดาห์ที่แล้วจากผลการแข่งขันในรอบ น็อกเอาต์ 10 โรงเรียนที่จะคัดให้เหลือ 5 โรงเรียน ระหว่างโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ กับ โรงเรียนประโคนชัยพิทยาคม จังหวัดบุรีรัมย์ผลปรากฏว่า กรรมการให้เสมอกัน โดยกรรมการ 2 ท่านแรก ให้แพ้ชนะกันไปคนละโรงเรียน ได้คนละ 1-1 พอกรรมการท่านที่ 3 ครู หนึ่ง จักรวาล หรือ จักรวาร เสาธงยุติธรรม โปรดิวเซอร์ดนตรีมือต้นๆของประเทศไทยยุคนี้ ซึ่งรับหน้าที่ในการตัดสินด้านดนตรีท่านชี้ออกมาว่า “กินกันไม่ลง” ขอให้เสมอ จึงทำให้คะแนนของทั้งคู่เสมอกัน 1 ต่อ 1 เข้ารอบไปด้วยกันทั้งคู่เท่านั้นเอง กระแสในโซเชียลก็กระหึ่มขึ้นมาในบัดดล เล่นงานกรรมการเสียเละเป็นหมูบะช่อ เพราะส่วนใหญ่มองว่าโรงเรียนยุพราช เชียงใหม่เหนือกว่า ควรเป็นผู้ชนะที่สำคัญกติกา “เสมอ” ไม่ได้บอกล่วงหน้าไว้ จู่ๆมาออกเสมอเช่นนี้เป็นเพราะต้องการจะโหนกระแสของทั้ง 2 ทีม ไว้เรียกเรตติ้งหรือเปล่าบ้างก็มองว่าไม่ให้ความเป็นธรรมแก่โรงเรียนอื่นๆ ก่อนหน้านี้ ซึ่งจะต้องจบลงด้วยการน็อกเอาต์ หรือชนะเด็ดขาดเท่านั้น ทั้งๆ ที่สูสีกันมากหลายๆคู่ก็เคยมีหัวหน้าทีมซอกแซกเป็นแฟนรายการชิงช้าสวรรค์มาตั้งแต่รุ่นดึกดำบรรพ์ ที่ ช่อง 9 อสมท ประมาณ พ.ศ.2540 กว่าๆโน่นยุคโน้นเป็นแฟนของ โรงเรียนจ่านกร้อง จังหวัดพิษณุโลก ในฐานะที่เป็นคนนครสวรรค์ ใกล้ๆ จังหวัดพิษณุโลก มีความผูกพันด้านเศรษฐกิจสังคมกันอยู่ จึงพลอยเป็นแฟน จ่านกร้อง ไปด้วยมายุคนี้ที่เรียกว่า “ชิงช้าสวรรค์ 2022” มีการตระเวนไปออดิชันทั่วประเทศแล้วคัดเลือก รอบแรกมา 20 โรงเรียน จับคู่น็อกกัน จนเหลือ 10 โรงเรียนเมื่อจบรอบแรกพร้อมกับให้ 10 โรงเรียนมาจับคู่ต่อสู้กันต่อ เพื่อให้เหลือ 5 โรงเรียน ในรอบที่ 2 ที่เพิ่งจะเริ่มมาได้ 3 คู่เท่านั้น...ก็เกิดเหตุการณ์ “เสมอกัน” เมื่อสัปดาห์ที่แล้วโดยส่วนตัวแล้วหัวหน้าทีมชอบรายการนี้ เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้แก่เด็กๆต่างจังหวัด ได้มีทางเลือกในชีวิตของเขามากขึ้นการเข้าสู่วงการบันเทิงร้องเล่นเต้นระบำ ในยุคหลังไม่มีใครถือว่าเป็นอาชีพเต้นกินรำกินอีกแล้ว ในทางตรงข้าม กับชื่นชมและแสวงหา ไขว่คว้าที่จะเข้าสู่อาชีพนี้กันอย่างล้นหลามเอาเสียอีกรายการชิงช้าสวรรค์ จึงเท่ากับเป็นอีกช่องทางหนึ่ง ในการคัดกรองเด็กๆ ให้มีโอกาสไขว่คว้าและเดินไปสู่อาชีพที่ตนรักตนชอบแต่สิ่งที่คงต้องฝากไว้ก็คือ กระแสอยากให้ลูก “เป็นเจ้าคนนายคน” อย่างไรเสียก็ยังแรงกว่า “กระแสเต้นกินรำกิน” อยู่ดี เราจึงได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์รายการนี้อยู่ไม่น้อย ว่าเป็นการส่งเสริมเด็กๆที่ผิดทางหรือไม่?จะเอาเวลาที่ไหน เรียนหนังสือ? จะสอบได้คะแนนดีไหม? จะไปเรียนต่อสูงๆได้ไหม? มัวแต่ซ้อมเพลงซ้อมเต้นกันอยู่นั่นแหละจนบางครั้งก็มีข่าวว่าพ่อแม่ผู้ปกครองไปต่อว่าคุณครูถึงโรงเรียน และให้ลูกๆ ถอนตัวออกจากวงด้วยซํ้าที่สำคัญการแข่งขันที่นานวันเข้า ก็ยิ่งเว่อร์วัง อลังการมาก หะรูหะรามากขึ้น ต้องใช้เงินใช้ทองมากขึ้น เพราะนิสัยของคนไทยเรานั้น มีอยู่อย่างคือพอแข่งแล้วต้องเอาชนะทำให้การลงทุนมากขึ้นจนกลายเป็นว่า รางวัลที่ได้รับสัปดาห์ละ 2-3 หมื่นนั้น แทบไม่พอซื้อเสื้อผ้าเครื่องแต่งตัวเท่าที่หัวหน้าทีมนั่งดูการแสดงชุดหลังๆ นี่ก็รู้สึกเว่อร์วังอลังการขึ้นมากจริงๆ และก็ปรากฏว่าโรงเรียนเว่อร์วังก็มักชนะเสียด้วย อาจทำให้เกิดความเชื่อว่าต้องเว่อร์วังจึงจะชนะ จะยิ่งทำให้การลงทุนสูงขึ้นไปอีกจึงขอฝากให้ทุกโรงเรียนที่เข้าร่วมการแข่งขัน ได้คำนึงถึงคำวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้ไว้ด้วยเช่นกันโดยส่วนตัว (อีกครั้ง) ชอบกรรมการชุดนี้ ซึ่งมี ครู สลา คุณวุฒิ ครู หนึ่ง จักรวาล และ ครู เทียม ชุติเดชทองอยู่...โดยเฉพาะครูสลากับครูหนึ่งวิเคราะห์ได้ดีมาก ให้ความรู้และสามารถนำไปแก้ไขปรับปรุง เพื่อไปเป็นนักร้อง นักดนตรีอาชีพได้เลยในอนาคตพิธีกรเก่า โน้ต เชิญยิ้ม ทำหน้าที่ได้ดีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ส่วนพิธีกรน้องใหม่ เขมนิจ จามิกรณ์ ก็ทำหน้าที่ได้ดีเช่นกัน ทำให้รายการสนุกและน่าติดตามโดยตลอดถือเสียว่ารายการ “ทัวร์ลง” ครั้งใหญ่ครั้งนี้ เป็นบทเรียนให้ทุกๆ ฝ่ายได้รู้ว่ารายการนี้ มีคนดูเยอะนะจะบอกให้...ต่อไปต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง จะได้ไม่มี “กองทัพทัวร์” มาลงซํ้าอีกน่ะครับ.“ซูม”