ตอนที่ 2 ผมรับใช้ถึงเมื่อสหภาพโซเวียตแตก ประธานาธิบดีคลินตันของสหรัฐฯก็โยนความช่วยเหลือให้รัสเซีย 1,600 ล้านดอลลาร์ แต่ให้ในรูปโครงการ ซึ่งบางโครงการกลับทำให้คนรัสเซียแย่ลง โรงงานปิด ผู้คนตกงาน อัตราการตายเพิ่มขึ้น และอัตราการเกิดลดลงสายลับมหาอำนาจเดินกันขวักไขว่ไปมาตามสาธารณรัฐปกครองตนเองของรัสเซีย เพื่อสนับสนุนให้อีก 4 สาธารณรัฐแยกประเทศคือ อับฮาเซีย เซาท์ออสเซเตีย คาราบาฮ์ และดนีเตอร์ เยลต์ซินต้องวิ่งไปเจรจาเพื่อให้สาธารณรัฐเหล่านี้ยังคงอยู่กับรัสเซียเหมือนเดิมที่ไม่ยอมฟังเยลต์ซินก็คือนายดูดาเยฟ ประธานาธิบดีของสาธารณรัฐเชชเนีย จนเยลต์ซินจึงตัดสินใจมีสงครามกับเชชเนีย ทหารรัสเซียตายไปหลายแสน พวกเชชเนียก็บ้านแตกสาแหรกขาด เยลต์ซินเป็นคนแข็งนอกอ่อนใน เป็นโรคหัวใจและติดเหล้าอย่างมาก สหรัฐฯและยุโรปแนะนำให้เยลต์ซินทำอะไร แกก็ปฏิบัติตาม ยกเว้นการยอมให้มีการแยกประเทศสหรัฐฯและตะวันตกกลัวคอมมิวนิสต์จะกลับมามีอำนาจ เพราะตอนเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 1996 ขนาดทีมใหญ่ในการรณรงค์หาเสียงของสหรัฐฯเข้ามาช่วยเต็มที่แล้ว แต่เยลต์ซินก็ยังได้คะแนนแค่ร้อยละ 35 ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ นายซูกานอฟได้ร้อยละ 32 พลเอกเลเบดได้ร้อยละ 15 กอร์บาชอฟซึ่งตะวันตกหนุนเหมือนกัน โผล่หน้ามาสมัครกับเขาด้วย ได้คะแนนเพียงร้อยละ 1รัสเซียมีการเลือกตั้ง 2 รอบ รอบที่สองเอาคนที่ได้คะแนนสูงสุดมาแข่งกัน คราวนี้เยลต์ซินตั้งให้พลเอกเลเบดเป็นผู้อำนวยการสภาความมั่นคงแห่งรัฐ พร้อมให้คำมั่นสัญญาว่า หมดเยลต์ซินแล้ว จะให้เลเบดสืบทอดอำนาจ เยลต์ซินจึงชนะเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงร้อยละ 54 ซูกานอฟได้คะแนนร้อยละ 40 ซูกานอฟหาเสียงผิดเรื่องการยกย่องสตาลิน คนยังกลัวสตาลินก็เลยหันไปเทคะแนนให้เยลต์ซินสมัยที่ 2 ของเยลต์ซิน ค.ศ.1996-2000 รัสเซียจนลงกว่าเก่า เยลต์ซินต้องไปกู้ยืมเงินจากไอเอ็มเอฟมาใช้และให้นายพรีมาคอฟ อดีตผู้อำนวยการสถาบันเศรษฐศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นนายกรัฐมนตรี พรีมาคอฟเป็นคนที่ประชาชนให้ความเชื่อถือ แกต้องการปราบปรามคอร์รัปชันจริงจัง แต่จะไปจับใครยังไงก็เจอแต่คนใกล้ชิดเยลต์ซินและเครือข่ายของสหรัฐฯและตะวันตกทั้งนั้นที่โกง เยลต์ซินจึงปลดพรีมาคอฟ แล้วก็หาใครมาเป็นนายกฯ ไม่ได้ จึงมองไปที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งซึ่งมาจากเลนินกราด จบนิติศาสตร์ เคยเป็นเคจีบีปูตินจับพลัดจับผลูมาอยู่ในแวดวงของเยลต์ซิน เพราะชื่อเสียงความกตัญญูต่อนายเก่า ความละเอียดรอบคอบสุขุม ไม่พูด เอาจริงเอาจัง มีวินัย และฉลาด คุณสมบัติเหล่านี้ของปูตินสร้างความประทับใจให้เยลต์ซิน ถึงขนาดตอนหลังเยลต์ซินตั้งปูตินเป็นผู้อำนวยการองค์การกิจการรักษาความปลอดภัยแห่งสหพันธ์ และต่อมาเป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติมุสลิมรัสเซียก่อเหตุจะแยกประเทศอยู่บ่อยๆ เช่นกลุ่มก่อการร้ายเชชเนียไปยึดสาธารณรัฐดาเกสถานและประกาศสถาปนารัฐอิสลามแห่งคอเคซัสเหนือ ทว่าโดนปูตินปราบซะม่อยกระรอก ยังไม่เข็ด เมื่อต้นเดือนกันยายน 1999 มุสลิมรัสเซียไปวางระเบิดที่พักอาศัย 4 แห่งในกรุงมอสโก คราวนี้โดนปูตินปราบจนเหี้ยนเต้ มีคนตายไปในคราวนี้มากกว่า 200 คนสถานการณ์ในรัสเซียตอนนั้นมีแต่คนต้องการแยกประเทศ มองไปในแผ่นดินมีแต่พวกไอ้ปื๊ดที่อ่อนปวกเปียก และฟังคำสั่งพวกต่างชาติจนใกล้จะสิ้นชาติ มีเพียงคนเดียวที่เด็ดเดี่ยวมั่นคงซึ่งประชาชนคิดว่าน่าจะพอพึ่งพาอาศัยได้คือปูติน เยลต์ซินจึงตั้งปูตินเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อปูตินพิสูจน์ว่าทำงานได้ดี เยลต์ซินจึงลาออกและให้ปูตินรักษาการประธานาธิบดีเมื่อปลาย ค.ศ.1999.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.com