เป็นเวลา 10 ปีแล้วที่กล้องดาร์ก เอนเนอร์ยี คาเมรา (Dark Energy Camera) ของโครงการดาร์ก เอนเนอร์ยี เซอร์เวย์ (Dark Energy Survey–DES) ได้ส่องดูดวงดาวด้วยความละเอียดเพื่อตรวจสอบพลังงานมืด ซึ่งเป็นปรากฏ การณ์ที่เร่งการขยายตัวของอวกาศ การสำรวจพลังงานมืดในขณะนี้นักวิทยาศาสตร์กำลังวิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมตั้งแต่ปี 2556–2562 อย่างไรก็ตาม โครงการสำรวจพลังงานมืดไม่ใช่ภารกิจเดียวที่ได้ประโยชน์จากกล้องอันทรงพลังนี้ แต่กลุ่มวิจัยอื่นๆยังใช้กล้องนี้ช่วยสังเกตการณ์และสำรวจทางดาราศาสตร์เพิ่ม ใจกลางทางช้างเผือก Credit : CTIO/NOIRLab/DOE/NSF/AURA/STScl, W. Clarkson (UM-Dearborn), C. Johnson (STScl), and M. Rich (UCLA)ล่าสุดห้องปฏิบัติการเครื่องเร่งอนุภาคแห่งชาติแฟร์มี ในสหรัฐอเมริกา ได้เผยแพร่ภาพถ่ายทางดาราศาสตร์บางส่วนที่สร้างขึ้นโดยใช้กล้องดาร์กเอนเนอร์ยี คาเมรา โดยถ่ายภาพ ท้องฟ้าทางใต้จากบนยอดเขาสูงในเทือกเขาแอนดีส ในชิลี ได้มากกว่า 1 ล้านภาพ ภาพเหล่านี้ได้จับภาพวัตถุทางดาราศาสตร์ราว 2,500 ล้านวัตถุ มีทั้งกาแล็กซี กระจุกกาแล็กซี ดาวฤกษ์ ดาวหาง ดาวเคราะห์น้อย ดาวเคราะห์แคระ และ ซุปเปอร์โนวา ยกตัวอย่างเช่น ดาวหางเลิฟจอย (Lovejoy) ที่พบตั้งแต่ปี 2558 หรือกาแล็กซีชนิดก้นหอย NGC 1566 ที่บางครั้งเรียกว่า “สแปนิช แดนเซอร์” (Spanish Dancer) อยู่ห่างจากโลกราว 69 ล้านปีแสง หรือแม้แต่บริเวณใจกลางกาแล็กซีทางช้างเผือกของเรา ก็ทำให้เห็นส่วนกว้างที่ครอบคลุมส่วนโป่งนูนของทางช้างเผือกมากขึ้นนอกจากนี้ยังได้ภาพกาแล็กซีเมฆแมกเจลแลนใหญ่และเมฆแมกเจลแลนเล็ก ที่เป็นกาแล็กซีบริวารของทางช้างเผือก และเป็นสถานที่ที่เหมาะต่อการศึกษาการก่อตัวดาวฤกษ์ หรือภาพของ NGC 288 เป็นกระจุกดาวทรงกลมที่อยู่ห่างจากโลกประมาณ 28,700 ปีแสง เป็นต้น.(Credit : NGC 1566 Credit : Dark Energy Survey)