หน้าในหนังสือพิมพ์ 6 ตุลา เผชิญหน้าปิศาจ (นิทรรศการ คินใจ คอนเทมโพรารี สี่แยกบางพลัด) หัวข้อ “ตามหา (ย) บุคคลในภาพ หนึ่งในห้าภาพ คนเจ็บหนึ่ง คนตายหนึ่ง มีคำอธิบาย หลายคน ที่ยืนล้อม ช่วงเวลาล้อมปราบนั้น ไม่มีนักข่าวสักคนรวมอยู่”ผมระทึก...นิดหนึ่ง ยังนึกไม่ออก อะไรเป็นเหตุปัจจัยให้ถอนตัวออกจากในธรรมศาสตร์ ราวตีสอง...ก่อนตีสี่ เวลาที่กระสุนปืนไร้แรงสะท้อน ตูมแรก หล่นกลางสนามฟุตบอลที่รวมผู้ชุมนุมหลายพันพยายามปะติดปะต่อก็เวลาราวๆตีสองนั่นล่ะ พล.ต.อ.ศรีสุข มหินทรเทพ อธิบดีกรมตำรวจ มา สน.ชนะสงคราม ให้สัมภาษณ์ คุณสรรพสิริ วิริยศิริ ทีวีช่อง 9ตอนผมจดข่าวตาม “ผู้ชุมนุมมีความผิดข้อหาหมิ่น...” ตอนนั้นยังนึกว่าคนเป็นพัน ตำรวจจะจับได้ยังไง?หลายเหตุการณ์...ยังมัวและพร่า...แต่ก็พอเดาๆได้ว่า เพราะการปิดล้อมธรรมศาสตร์ทำให้ผมกลับเข้าชุมนุมอีกไม่ได้ จึงเสนอตัวตามข่าว จึงเป็นนักข่าวคนเดียวที่อยู่ด้านท่าพระจันทร์ใต้ชื่อเรื่อง ตามหา (ย) บุคคลในภาพ เขียนว่า 46 ปีผ่านไป พวกเขาและเธออยู่ที่ไหน ตอนนี้ยังสบายดีอยู่มั้ย เราอยากพบคุณ มาช่วยเล่าเรื่องราวในวันนั้น คืนวันที่ 5 ถึงเช้าวันที่ 6 ตุลาคม 2519ก็ให้บังเอิญ...ผมมีคนในใจ...ที่ไม่ได้ถ่ายภาพไว้...จากเหตุการณ์หนึ่ง ในหลายเหตุการณ์ ก่อนต่อเป็นภาพ 6 ตุลาฯ ราวต้นปี 2519 ชุมนุมหนึ่ง กลางหุบเขาแม่เลียง อ.เสริมงาม จังหวัดลำปางเหตุจากเหมืองแร่ต้นน้ำ...ชาวบ้านแม่เลียงร้องว่า ทำให้ข้าวในนาลดลง...ความขัดแย้งรุนแรงขึ้นถึงจุดระเบิด ชาวบ้านยิงสู้กับคนในรถเหมืองแร่...คนเหมืองตายสี่ ชาวบ้านตายหนึ่งรัฐบาลส่ง 5 ตัวแทนมาดูเหตุการณ์ ตั้งหลักที่ อ.เสริมงาม...แต่เข้าไปที่เกิดเหตุที่ห่างจาก อ.เสริมงาม 16 กม. ยังไม่ได้ ส.ส.พินิจ จันทร์สุรินทร์ และนักข่าว นสพ.สองฉบับ อาสา ทางการจัด ฮ.ให้บินเข้าไปแต่แทนที่จะไปลงที่แม่เลียงซึ่งเป็นที่ชุมนุมเลย ฮ.บินลงที่บ้านพงป่าป๋อ 4 กม.จะถึงจุดหมายมีการพูดจากับตัวแทนชาวบ้าน ผลไม่เป็นที่พอใจ ฮ.พาเราบินกลับเสริมงาม ผมโกรธที่เขาไม่บอกกล่าวก่อน ตัดสินใจลุยน้ำซ้อนมอเตอร์ไซค์ (ชาวบ้าน) เดินเท้า เริ่มต้นใหม่ลุยเข้าแม่เลียงเองสองทุ่มถึงที่ชุมนุม หีบศพ “อ้ายนวล กาวิโล” ตั้งตระหง่าน มีเสียงสะล้อ ซอ ซึง ขับกล่อม กลางลานขอนไม้จุดไฟให้ทั้งแสงสว่าง ให้ทั้งความอบอุ่นผมบอกชาวบ้านให้จัดตัวแทนไปคุยสงบศึกกับทางการก่อนเรื่องจะใหญ่โตขึ้นไปอีก ได้ข้อยุติตีสอง ผมกับชาญชัย สงวนวงศ์ นสพ.ประชาธิปไตย จะออกจากแม่เลียงเอาคำตอบชาวบ้านไปบอกหกทุ่ม อากาศกลางหุบเขายิ่งหนาว แรงไฟจากขอนไม้ไม่พอ...นักรบสาวมาดมั่น...ในชุดทหารป่า หมวกติดดาว สะพายปืนยาว เดินจากความมืดในราวป่าเข้ามาสนทนาเธอเป็นนักศึกษาแพทย์เชียงใหม่ปี 4 นี่คือภาพข่าวสำคัญ ผมขยับกล้องถ่ายรูป เธอส่ายหน้านักรบสาวอาวุธพร้อม นะเว้ยเฮ้ย! ในสภาพแวดล้อมนั้นใครจะไปกล้าเธอหายไปพักใหญ่ กลับมาอีกที เสื้อแจ็กเกตเก่าคร่ำกลิ่นเหงื่อของใครคนหนึ่งถูกยื่นให้“อยากถ่ายรูปก็ได้นะพี่” นี่คือไมตรีจิตยิ่งใหญ่ แต่คราวนี้ผมส่ายหน้าเสียเองภาพนักรบสาวคงเป็นข่าวหน้าหนึ่ง ตีพิมพ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า...แล้วอนาคตทางการศึกษาของเธอเล่างานข่าวแม่เลียงคืบหน้า พ.ต.ท.บุญเลิศ เลิศปรีชา รมช.มหาดไทย ตัวแทนรัฐบาล บินมาถึงแม่เลียง รู้ว่าเหมืองผิดจริง สั่งถอนประทานบัตร ข่าวชุมนุมแม่เลียงจบลงด้วยดีถึงวันนี้ผ่านเลย 46 ปีมานาน ผมเพิ่งนึกถึงเธอ นักรบสาวคนนั้น...ป่านนี้เธอยังสบายดีอยู่ไหม...ถ้าสบายดี เรียนต่อจนเป็นหมอใหญ่หรือไม่...บอกข่าวมาถึงกันบ้าง.กิเลน ประลองเชิง