โลกเป็นโรงละครที่พวกมหาอำนาจทั้งหลายวางพล็อตไว้พร้อมที่จะแสดงได้ทุกเมื่อ มีมือที่มองไม่เห็นพร้อมกระจายขยายผลเรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้งให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ โดยใช้ชีวิตของประชาชนพลเมืองเป็นหมากในการรุกรับ ใครพลาดพลั้ง คนนั้น ‘พัง’เปิดฟ้าส่องโลกเพิ่งรับใช้กรณีที่อิหร่านเข้า SCO หรือองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ ในการประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ครั้งที่ 22 เมื่อ 15 กันยายน 2022 ที่กรุงซามาร์คันด์ สาธารณรัฐอุซเบกิสถาน อิหร่านได้เป็นสมาชิกถาวรของ SCO อย่างเป็นทางการหลังจากรอคอยมานานกว่า 17 ปี กระบวนการการเข้าเป็นสมาชิกถาวรของ SCO ลำดับที่ 9 ของอิหร่านจะสมบูรณ์ภายในเดือนเมษายน 2023ลงนามได้เพียงวันเดียว ก็มีเรื่องหวาดเสียวเกิดในอิหร่าน มาห์ซา อะมินี หญิงชาวเคิร์ดวัย 22 ปีถูกทำร้ายจนตายในระหว่างการถูกตำรวจศีลธรรมควบคุมตัว ข้อหาละเมิดกฎหมายที่กำหนดให้หญิงต้องสวมใส่ผ้าฮิญาบการตายของมาห์ซาทำให้ผู้คนออกมาประท้วง สำนักข่าวต่างประเทศแพร่ขยายกระจายข่าวและคลิปของประชาชนคนอิหร่านที่ประท้วงหลังงานศพของมาห์ซา ที่เป็นที่สนใจก็คือมีภาพหญิงคนหนึ่งถอดผ้าฮิญาบขึ้นไปโบก แล้วตะโกนว่า อ้า เผด็จการจงตาย ขณะที่เขียนเปิดฟ้าส่องโลกรับใช้ผู้อ่านท่านที่เคารพ ผู้ประท้วงในอิหร่านถูกจับไปแล้วมากกว่า 1,200 คน ตายกลายเป็นผีไปแล้วหลายสิบ ถึงขณะนี้ก็มีการประท้วงยาวนานมากกว่า 10 วันแล้วครับ ภาพข่าวความรุนแรงจากการประท้วงและการปราบปรามเผยแพร่ขยายไปทั่วโลก ผู้เสพข่าวได้ยินคนตะโกนด่าอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ว่า ‘เผด็จการ’ ความต้องการของประชาชนคนประท้วงคืออยากให้คาเมเนอีลาออกจากการเป็นผู้นำสูงสุดการประท้วงเป็น ‘สารตั้งต้นชั้นดี’ ที่รัฐบาลตะวันตกจะนำมาใช้ขยายผลในบริหารจัดการศัตรู รัฐบาลเยอรมนีถือโอกาสนี้เรียกตัวทูตอิหร่านประจำกรุงเบอร์ลินมาพบ อิหร่านก็เรียกทูตอังกฤษและนอร์เวย์เข้าพบเพื่อยื่นหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการเช่นกัน อิหร่านบอกว่าทั้งอังกฤษและเยอรมนีแทรกแซงกิจการของตนเห็นตะวันตกรวมตัวกันเล่นงานอิหร่านอย่างสนุก ทำให้ย้อนกลับไปในการประท้วงของประชาชนคนพม่า ที่ถูกรัฐบาลทหารปราบปรามจนตายไปมากมาย หลายคนอยากให้สหรัฐฯ เยอรมนี อังกฤษ นอร์เวย์ และชาติตะวันตกทั้งหลาย ช่วยกันพังเผด็จการทหารพม่าเหมือนที่ท่านทั้งหลายกำลังช่วยกันพังรัฐบาลอิหร่านความเคลื่อนไหวของฝั่งตะวันตกประสานกันแน่นเหนียว หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรปออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาลอิหร่านถึงการใช้กำลังกับผู้ประท้วง ประธานาธิบดีไบเดนของสหรัฐฯลุกขึ้นมากล่าวสดุดีผู้ประท้วงในอิหร่านกลางที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติฯ และประกาศว่าสหรัฐฯจะยืนเคียงข้างประชาชนและสตรีที่กล้าหาญของอิหร่าน ที่แสดงจุดยืนในการรักษาสิทธิขั้นพื้นฐานของพวกเขาน้ำผึ้งหยดเดียวทำให้อิหร่านกลายเป็นจำเลยของนานาประเทศ อิหร่านรู้ทันทีว่านี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่อิหร่านจะถูกลากลงไปรุมยำกลางถนน ผู้หญิงทั้งหลายในโลกได้กลายเป็นแนวร่วมของพวกตะวันตกในการต่อต้านอิหร่าน หลายคนมีความเชื่อว่า การฆ่าผู้หญิงที่ไม่คลุมศีรษะให้เรียบร้อยจนถึงแก่มรณกรรมครั้งนี้ จะนำไปสู่การนับหนึ่งของความล่มสลายหายไปของรัฐศาสนาของอิหร่านในปัจจุบันอีกประเทศหนึ่งซึ่งฟุตบอลเข้าเท้าฝ่ายตะวันตกไปแล้วก็คือรัสเซีย ขณะนี้มีกำลังพลของอูเครนประมาณ 7 แสนนายเรียงกายรายล้อมพร้อมรบกับรัสเซีย ทุนและการบริหารจัดการทั้งหมดมาจากตะวันตก ปูตินจึงต้องเรียกระดมพลเมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้ชายฉกรรจ์มากมายหนีตายออกไปนอกประเทศ สาเหตุหลักคือไม่อยากไปรบ แม้ว่ากองทัพจะประกาศกลุ่มอาชีพที่ได้รับการยกเว้นและเน้นเฉพาะผู้ที่มีประสบการณ์ทางทหารมาก่อน แต่คนจำนวนมากก็ไม่เอาด้วยกับปูตินและออกมาด่าปูตินกันยับ เอาละครับ ถึงจุดที่ผู้นำสูงสุดของอิหร่านและรัสเซียเผชิญวิกฤติศรัทธาจากประชาชนทั้งคู่มีทางเลือกไม่มาก หากพลาดก็คือ ‘พัง’.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.com