เมื่อคนเรามีอายุมากขึ้น กระดูกโครงสร้างก็มีการเสื่อมตามสภาพตามการใช้งาน ดังนั้นจึงต้องมีการซ่อมแซมด้วยกระบวนการต่างๆ รวมถึงการผ่าตัด เช่น ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าหรือผ่าตัดเชื่อมข้อกระดูกสันหลังส่วนบั้นเอว ในคนที่ข้อเข่าเริ่มใช้การไม่ได้ อีกทั้งกระดูกสันหลังเสื่อมทรุด ก่อให้เกิดความเจ็บปวดรวมทั้งไปกดเบียดทับเส้นประสาทประเด็นที่ก่อให้เกิดความวิตกก็คือ กระบวนการผ่าตัดและความเครียดที่เกิดขึ้น จะเชื่อมโยงทำให้มีภาวะประสิทธิภาพการทำงานของสมองเลวลง โดยเฉพาะคนที่เริ่มเพาะบ่มโรคอัลไซเมอร์อยู่แล้ว โดยที่เพียงมีอาการไม่มาก หรือคล้ายกับลืมนู่นนิดนี่หน่อย แต่ยังคงทำงานปฏิบัติภารกิจในชีวิตประจำวันได้และการศึกษาที่ผ่านมาพบแล้วว่า ในช่วงระหว่างและหลังการผ่าตัดจะเกิดมีการอักเสบผ่านทั่วไปในร่างกายและมิหนำซ้ำพบว่ามีการเพิ่มเสริมเติมด้วยสารเอนโดท็อกซิน (endotoxin) ที่สร้างหรือผลิตจากแบคทีเรียที่อยู่ในลำไส้ทั้งนี้ ในคนที่เริ่มมีความผิดปกติของสมอง แม้ดูเหมือนจะหรือคล้ายจะเสื่อมเล็กน้อย จะมีความแปรปรวนของประชากรจุลินทรีย์หรือแบคทีเรียในลำไส้ (gut microbiota dysbiosis) พร้อมกันกับที่สารอักเสบที่ผลิตขึ้น จะทำให้ผนังลำไส้รั่วและปลดปล่อยการอักเสบเข้าไปในเลือดทั่วร่างกาย รวมทั้งสมอง โดยแบคทีเรียที่เพิ่มขึ้นจะเป็นกลุ่มที่เป็นแกรมลบ (gram negative) และแบคทีเรียชนิดที่สร้างกรดไขมันสายสั้น (short chain fatty acid producing bacteria) จะมีปริมาณลดลง ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากกระบวนการทั้งหลายทั้งปวงจะก่อให้เกิดการเพิ่มของปริมาณโปรตีนบิดเกลียวที่ผิดปกติที่ทำให้เกิดสมองเสื่อมคือโปรตีน ทาว (Tau)การศึกษาครั้งนี้ตีพิมพ์ในวารสารทางการผ่าตัด (Annals of Surgery) ในปี 2022 โดยคณะทำงานจากประเทศจีนหลายสถาบันทางด้านสมอง วิสัญญีวิทยา การผ่าตัดศัลยกรรม กระดูกและข้อ ร่วมกับสถาบันในอังกฤษ อิมพิเรียลคอลเลจโดยออกแบบการศึกษาเพื่อวิเคราะห์ความเปลี่ยนแปลงของประชากรแบคทีเรียในลำไส้ที่มีต่อการรั่วซึมของเยื่อบุผนังลำไส้ และตัวการการอักเสบที่เกิดขึ้นและการกระทบต้นทุนสมองผู้ร่วมการศึกษานี้ มีทั้งหมด 176 ราย และได้รับการผ่าตัดทางกระดูกและข้อ ได้แก่ เปลี่ยนข้อเข่าหรือการผ่าตัดเชื่อมข้อกระดูกสันหลังส่วนบั้นเอว ในช่วงระหว่างเดือนกันยายน 2018 ถึงธันวาคม 2019 และอายุโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 70 ปี ทั้งนี้ไม่รวมผู้ที่มีโรคทางเดินอาหาร ลำไส้ผิดปกติ หรือมีโรคติดเชื้อเฉียบพลันหรือเรื้อรัง ผู้ที่ได้รับยาต้านการอักเสบ หรือยากดภูมิคุ้มกัน รวมทั้งผู้ที่มีโรคทางสมองที่เป็นสมองเสื่อมอัลไซเมอร์ชัดเจน และในขณะผ่าตัดจะมีมาตรการควบคุมระดับออกซิเจนในเลือดและความดันโลหิตที่อยู่ในช่วงปกติตลอด ในการศึกษาประชากรแบคทีเรียในลำไส้ประกอบไปด้วย การเก็บอุจจาระก่อนผ่าตัด หลังผ่าตัดที่วันที่สามและวันที่เจ็ด หรือวันก่อนที่จะออกจากโรงพยาบาล เลือดที่นำมาวิเคราะห์เก็บขณะที่กำลังจะเข้าห้องผ่าตัด และในวันต่อมาเวลาเดียวกันกับที่เก็บอุจจาระการวิเคราะห์เลือดมีทั้งการหาระดับของเอนโดท็อกซิน ระดับของผนังกั้นเยื่อบุลำไส้ (tight junction protein) (claudin-1 และ occludin) ระดับของสารอักเสบ CRP IL-6 IL-10 และการหากลุ่มแบคทีเรียในอุจจาระ 16S ribosomal RNA gene sequencing จาก V3-V4 hypervariable regionsการทดสอบต้นทุนทางสมองหรือการทดสอบทางพุทธิปัญญาใช้แบบทดสอบ MOCAในจำนวน 176 คนนี้ จัดแบ่งเป็นคนที่สมองปกติ 40 ราย มีลักษณะถดถอย โดยตนเองสังเกตและรายงานว่ามีความผิดปกติทางด้านความจำ (subjective cognitive decline) จำนวน 58 ราย และที่มีความผิดปกติแบบก้ำกึ่ง หรือจะเรียกว่า ขั้น 0.5 ก็ได้ จากการตรวจ (amnestic mild cognitive impairment) จำนวน 37 รายผลการศึกษาพบชัดเจนว่าการผ่าตัดทำให้เกิดมีความผันผวนของประชากรจุลินทรีย์ในลำไส้และมีผลกระทบต่อเยื่อบุผนังลำไส้ ทั้งในกลุ่มคนที่สมองปกติ และกลุ่มคนที่สมองเริ่มมีการเสื่อมแม้แต่เล็กน้อย โดยทั้งสองกลุ่มที่มีสมองเริ่มผิดปกติแล้วนั้น การผ่าตัดจะยิ่งทำให้ความผันผวนของประชากรจุลินทรีย์ที่มีผิดปกติอยู่แล้ว รวมทั้งภาวะรั่วของเยื่อบุผนังลำไส้เป็นรุนแรงมากขึ้น นอกจากนั้นการตรวจสอบต้นทุนสมองหลังผ่าตัด พบมีความสัมพันธ์กับระดับของการอักเสบระดับของการรั่วของผนังลำไส้และการผันแปรของจุลินทรีย์เป็นตัวเลวในคนที่เริ่มมีสมองเสื่อม เป็นที่ทราบกันมานานพอสมควรในปรากฏการณ์ที่มีจุลินทรีย์เลวและการขาดความหลากหลายในชนิดของจุลินทรีย์รวมทั้งกลุ่มที่เรียกว่าเป็นตัวดีนั้นลดลง และเอื้ออำนวยให้สมองเสื่อมมีการพัฒนารุนแรงขึ้นและสมองมีความเปราะบางเมื่อถูกกระทบ จากความเครียดทางกาย รวมถึงการผ่าตัดดังที่แสดงให้เห็นในการศึกษาวิจัยครั้งนี้โมเลกุลของแบคทีเรียแกรมลบ และเอนโดท็อกซิน พบเกาะติดกับโปรตีนอมีลอยด์เบต้า ในตะกอนของเนื้อสมองและรอบเส้นเลือดในสมองของคนที่เป็นอัลไซเมอร์ความหลากหลายของจุลินทรีย์ในลำไส้จะเป็นปราการด่านสำคัญที่ป้องกันการเกิดสารอักเสบซึ่งนำต่อไปยังการเกิดรูรั่วของเยื่อบุผนังลำไส้ โดยคนที่อายุมากขึ้น จะเริ่มขาดความหลากหลายนี้ และถ้ายิ่งมีหรือเริ่มจะมีสมองเสื่อมแม้แต่น้อยนิด ความหลากหลายเหล่านี้จะเริ่มหดหายไปแทนที่ด้วยจุลินทรีย์หรือแบคทีเรียน่ากลัว และเตรียมพร้อมที่จะปะทุและเกิดเป็นกระบวนการต่อเนื่องไปทั่วร่างกายและกระทบสมองอีกต่อผลของการศึกษานี้ตอกย้ำว่าการผ่าตัดถ้าไม่จำเป็น ยิ่งไม่ควรทำและคงไม่ได้จำกัดเฉพาะที่การผ่าตัดกระดูกและข้อเท่านั้น แต่หมายรวมถึงการผ่าตัดต่างๆในร่างกาย ซึ่งแน่นอนจะมีผลกระทบของการดมยาที่มีต่อสมองด้วย...ทั้งนี้ถ้าย้อนกลับไปจะพบว่าอาหารการกินที่ไม่เอื้อต่อสุขภาพกายและสมอง อันประกอบไปด้วยเนื้อสัตว์หรือเนื้อแดงที่ผ่านกระบวนการปรุงแต่ง รวมทั้งเครื่องดื่มหลากหลาย (ultraprocessed food) หรือแม้แต่เนื้อแดงที่แม้ไม่ผ่านกระบวนการก็ตาม ส่งผลตรงไปยังลำไส้เป็นทอดๆสมองเสื่อมป้องกันได้ และแม้แต่เมื่อเป็นแล้ว ชะลอได้ ดังในบทต่างๆที่ได้เคยเรียนให้ทราบก่อนหน้า ทั้งอาหารมังสวิรัติ แต่ทานปลาได้ การเดิน 10,000 ก้าว ถูกแสงแดด อบร้อน การนอนที่มีคุณภาพ ไม่งีบหลับกลางวันเกินครึ่งชั่วโมง สิ่งเหล่านี้ไม่เหลือบ่ากว่าแรง ไม่เสียสตางค์และยังดีต่อหัวใจเส้นเลือดและลดความเสี่ยงของมะเร็งอีกด้วย มีข้อแม้ว่าผักผลไม้กากใยที่ทานวันละครึ่งกิโลกรัมนั้น ควรปราศจากสารเคมีหรือจำกัดให้น้อยที่สุดเป็นห่วงทุกคนครับ.หมอดื้อ