สองเพื่อนซี้ พิมพ์-พิมพ์ชนก (พลางกูร) สุภัทรพันธุ์ และ ท็อป-ณัฐเศรษฐ์ พูนทรัพย์มณี ได้นำประสบการณ์ร่วมที่เติบโตในฐานะนักเรียนอังกฤษมาด้วยกันตั้งแต่สมัยวัยเรียน ทั้งความชอบและความสนใจ บ่มเพาะออกมาเป็นแฟลกชิปสโตร์แห่งแรกของ “51 AVENUE” (ฟิฟตี้วัน อเวนิว) ทีซาลอนที่ต้องการรวบรวมประสบการณ์ดื่มชาจากทั่วทุกมุมโลก และถ่ายทอดมาในรูปแบบที่ทั้งคู่เคยได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งที่เคยพบเจอขณะที่เคยใช้ชีวิตอยู่ที่อังกฤษ และเมืองต่างๆจากทั่วโลก พร้อมเสิร์ฟประสบการณ์การดื่มชาในรูปแบบที่ทุกคนสามารถสัมผัสได้ โดยจัดงาน “51’AVENUE The Exclusive Bottomless Afternoon Tea” เพื่อเป็นการแนะนำแหล่งแฮงก์เอาต์ ที่เป็นหมุดหมายใหม่ล่าสุด ให้ทุกคนได้มาสัมผัสกันที่ โครงการ Velaa Sindhorn Village ถนนหลังสวน จุฬาลักษณ์ ผลภิภม ผู้นำแชมเปญมาแพริ่งกับชา.ในงาน พิมพ์-พิมพ์ชนก (พลางกูร) สุภัทรพันธุ์ ผู้ก่อตั้งร้าน 51 AVENUE เกริ่นว่า จากวันแรกที่เริ่มต้นทำแบรนด์ชาในปี 2006 ณ ขณะนั้นเรามีความต้องการยกระดับมาตรฐานชาของแบรนด์ไทยให้ทัดเทียมสากล ซึ่งเราอาศัยการได้ไปชิมตามสถานที่ต่างๆ สมัยได้ไปใช้ชีวิตการเรียนที่อังกฤษ และนำความชอบของเรามาเริ่มต้นตรงจุดนั้น เกิดเป็นแบรนด์ชาของเราขึ้น ตอนนั้นเองรู้สึกดีใจมาก เพราะชาของเราถูกรับเลือกให้ไปจำหน่ายในห้างฮาร์วี่นิโคลส์ และแฮรอดส์ ประเทศอังกฤษ ตอนนั้นเพื่อนสนิทก็คือ คุณท็อป-ณัฐเศรษฐ์ เป็นคนช่วยดีไซน์ทุกๆอย่างให้ จากวันนั้นมาถึงวันนี้เราได้เห็นวัฒนธรรมการดื่มชาที่แตกต่างออกไป อย่างคนยุโรปจะอาศัยช่วงที่ทานชา เป็นช่วงเวลาได้พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ในขณะที่คนญี่ปุ่นเอง จะตั้งใจดื่ม ใช้ความเงียบเพื่อสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย พอเราได้เห็นวัฒนธรรมหลายๆแบบ เลยอยากให้เกิดพื้นที่ที่ทุกคนได้มานั่งแลกเปลี่ยนผ่านวัฒนธรรมของทีซาลอนแห่งนี้ ท็อป-ณัฐเศรษฐ์ ต้อนรับเพื่อนๆ เฉลิมชัย มหากิจศิริ, ปวริศา เพ็ญชาติด้าน ท็อป-ณัฐเศรษฐ์ พูนทรัพย์มณี ผู้ร่วมก่อตั้งร้าน 51 AVENUE เล่าว่า มีโอกาสได้ช่วยตั้งแต่ทำแบรนด์ชาในสมัยนั้น ด้วยความที่เราเป็นคนที่ชอบดื่มชาอยู่แล้ว บวกกับอาศัยความชอบในการดีไซน์ จึงได้ริเริ่มโปรเจกต์นี้ และพยายามช่วยวางแนวทางการตกแต่งร้าน ให้มีภาพบรรยากาศที่เข้ามาแล้วเหมือนนั่งอยู่กลางกรุงปารีส จึงจำลองประตูสีม่วงที่อยู่หน้าบ้านคุณพิมพ์สมัยเรียนที่อังกฤษ หรือแม้กระทั่งต้นแมกโนเลีย ที่เป็นสายพันธุ์เดียวกับชามาไว้ในร้านของเรา การตกแต่งพยายามให้นั่งสบายแต่ก็ได้บรรยากาศที่ผ่อนคลาย นอกจากนั้น จุดเด่นคือเรื่องของชา ที่เรามีมากกว่า 200 ชนิดจากทั่วทุกมุมโลก มาผนวกกับเมนูที่เป็น All Day Breakfast ที่ครีเอตมาในช่วงนี้โดยเฉพาะในงานเปิดตัว 51 AVENUE ครั้งนี้ ยังได้มีการจัดเมนูพิเศษนำวัฒนธรรมการดื่มชาแบบ Royal Family ของชาวอังกฤษ ที่มีการแพริ่งการดื่มชาคู่แชมเปญมาให้ลิ้มลอง ซึ่งหอมหวานเข้ากันอย่างลงตัวมากๆ.