ในหนังสือกฎแห่งกรรม ชุดภาษาไทยของคุรุสภา (พ.ศ.2537) เล่มชุดคนโง่ ท.เลียงพิบูลย์ เขียนไว้เป็นเรื่องสุดท้าย น่าทึ่งมาก... ความมหัศจรรย์ของวิญญาณจุดเริ่ม...เรื่องนี้ 17 ก.พ.2513 9 โมงเช้า ทีวีช่อง 7 รายการพุทธประทีป คุณเจริญ แสนเยีย ผู้ร่วมรายการขณะนั้น รับราชการอยู่ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา เล่าเรื่องเจอผีเด็กชาย ที่อำเภอยโสธร จังหวัดอุบลราชธานีเรื่องที่เล่า เกิดขึ้นเดือนเมษายน ปี 2487 คุณเจริญ ศึกษาเตรียมปริญญา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สาขาอุบลราชธานี ซึ่งเป็นบ้านเกิด ตอนบันทึกเรื่องคุณเจริญ เป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาล อำเภอแม่สอด จังหวัดตากเพื่อนชื่อสมเกตุ ณุวงศ์สรี ชวนไปเที่ยวบ้านอำเภอยโสธร คุณเจริญมีพี่สาวบ้านอยู่ในตลาด ก็ไปด้วยถึงยโสธรห้าโมงเย็น ราวทุ่มเศษ ระหว่างรอเพื่อน คุณเจริญเดินไปตามถนนสายหน้าสถานีตำรวจฯ อีกราวหนึ่งเส้นจะไปบรรจบถนนสายอุบลฯร้อยเอ็ด ตอนนั้นเป็นคืนข้างแรมอ่อน พระจันทร์ส่องสว่างพอเห็นชัดเจนเด็กชายคนหนึ่งอายุราว 12-13 ปี เดินสวนมาทางขวา คุณเจริญเดินกลางถนน ระยะห่างสองสามวา เด็กร้องถามภาษาอีสาน “พี่เริญ พี่จะไปไหน” คุณเจริญแปลกใจ นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่มายโสธร ทำไมเด็กรู้จักชื่อตัวเองปากก็ตอบ “ไปเดินเที่ยว แล้วเราน่ะ ไปไหนมา?” “ผมมาจากบ้านทุ่งครับ”“ไปมาค่ำๆมืดๆคนเดียวไม่กลัวหรือ?” “ผมไม่กลัวครับ”คุณเจริญนึกขึ้นได้ “หนูทำไม จึงรู้จักชื่อพี่ล่ะ” เด็กหัวเราะ แต่ไม่ตอบ คุณเจริญก็ไม่อยากจะคาดคั้น แต่ความสงสัย จึงถามถึงชื่อแม่ชื่อพ่อและบ้าน “แม่ชื่อศรี พ่อผมชื่อเลี่ยมครับ เป็นครู บ้านอยู่สี่แยก”เด็กตอบแล้วชี้มือ “หลังคาบ้านหลังที่สี่ มีต้นฝรั่งอยู่หน้าบ้านต้นหนึ่ง”เด็กพูดจาคล่องแคล่ว มีแววฉลาดคุยเหมือนญาติสนิท คุณเจริญชอบใจ เอื้อมมือไปจับแขน แล้วลูบหัว คุณเจริญมองเห็นเด็กสวมเสื้อเชิ้ตโปโลสีขาวแบบผ่าอก แต่ติดกระดุมผิด เยื้องไม่เป็นระเบียบคุณเจริญปลดออก กลัดกระดุมให้ใหม่ มองไปกางเกงก็เยื้อง ขาสั้นข้างยาวข้าง คุณเจริญก็ดึงให้ได้ระดับช่วงเวลาที่คุณเจริญแต่งตัวให้เด็ก มีหญิงสองคนเดินมาหยุดมอง และมอง แล้วหันไปซุบซิบกัน เมื่อเดินต่อไปก็ยังหันมามองอย่างสงสัย จนลับสายตาหัวค่ำวันต่อมา คุณเจริญนึกถึงเรื่องเด็ก ชวนเพื่อนไปบ้านครูเลี่ยม ถามครูเลี่ยม เมื่อคืนที่แล้ว มีเด็กบ้านนี้ออกไปเดินเที่ยวหรือไม่? คุยกันพักใหญ่ มีเสียงผู้หญิงสองคนร้องไห้โฮเสียงแม่กับยายของลูกชายเสียงร้องไห้ เป็นเสียงยืนยันความปลื้มใจ บุญกุศลที่ทำส่งไปให้ ถึงลูกชายจริงนิด...ลูกชายตายสองเดือนที่แล้ว มาเข้าฝันแม่ ร้องไห้บอกแม่ ไม่มีเสื้อผ้าใส่ “ขอให้แม่หาเสื้อผ้าฝากไปให้หนูด้วย” แม่ถาม “จะให้แม่ฝากไปยังไง” ลูกชายบอก “ฝากพระบัว วัดสิงห์ท่า”แม่ศรีตามไปวัดสิงห์ท่า ไม่มีลูกวัดชื่อพระบัว แต่พระบัวก็มาขออนุญาตสมภารจำวัดพอดี แม่ศรีดีใจ วันต่อมาไปซื้อเสื้อผ้าทำอาหารไปถวาย เอาเถ้ากระดูกลูกชายให้พระบัวสวดอุทิศส่วนกุศลเรื่องการทำบุญส่งต่อให้คนตาย คุณเจริญติดตามถามพระที่ชื่อบัวอยู่หลายปี ท่านไม่ตอบตรงๆแต่บอกกับญาติผู้ใหญ่ ท่านเอาเสื้อผ้าที่แม่เด็กมาถวาย ไปแจกให้เด็กจนๆ แล้วสวดมนต์ตั้งจิตอธิษฐานเจาะจงไปถึงเด็กชายนิด...ก็แค่นั้นผมใช้วิชานักข่าวตั้งใจอ่าน เรื่องนี้มีองค์ประกอบครบ ใครทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ ทำไม อย่างไร...สอดรับชัดเจน...ใคร? ผู้เล่าเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาล...ไม่มีเหตุเป็นข้อเคลือบแคลงสงสัยผมเชื่อสนิทเลยครับ ผีไม่ใช่แค่วิญญาณในเรื่องเล่า ที่เจอกันแบบวูบวับหาย...ผีมีตัวตนจริง ระดับพูดคุยจับต้องสัมผัสได้และบุญกุศลส่งถึงกันได้ ถ้าทำด้วยเจตนาดีถูกที่ถูกทาง.กิเลน ประลองเชิง