ขับรถพาครอบครัวไปเที่ยว “ตลาดน้ำอัมพวา” เห็นการค้าขายกลับมาคึกคักอีกครั้ง แม้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติยังดูบางตา สอบถามจากคนขายทัวร์เรือหางยาว ทราบว่าที่เห็นคนไทยมาเที่ยวเยอะขึ้น เพราะได้อานิสงส์จากผู้ศรัทธา “ท้าวเวสสุวรรณ วัดจุฬามณี” พลอยทำให้บรรยากาศตลาดน้ำคลาคล่ำไปด้วยผู้คน เดินจับจ่ายใช้สอยกันขวักไขว่ ครอบครัวผมถือโอกาสนั่งเรือไปสักการะเช่นกัน ไหว้พระเสริมบารมีกันแล้ว ถึงเวลาหาของอร่อยทานกัน แม่บ้านของผมออกปากชวนไปทานอาหารริมน้ำแม่กลอง อยู่ไม่ไกลจากตลาดน้ำอัมพวา“คุณชายตะลอนชิม” สัปดาห์นี้ “คุณชายแป๊ะ” ขอแนะนำร้าน “ครัวแม่อุไร” ของ “ออย-วนิดา ศักดิ์สกุลพรเลิศ” อายุ 46 ปี เดิมทีเป็นสวนมะพร้าว แต่ปรับพื้นที่ริมน้ำแม่กลอง ปลูกสร้างตัวร้านอาหาร บรรยากาศปลอดโปร่ง ลมโกรกเย็นสบาย โต๊ะอาหารนับสิบจัดเรียงเป็นแนวยาว เพื่อให้นั่งชิดติดริมแม่น้ำทุกโต๊ะ มองทัศนียภาพและวิถีชีวิตของผู้คนนั่งเรือสัญจรผ่านไปมาได้เพลินตา ด้านข้างห้องครัวมีแปลงปลูกผักสวนครัวนานาชนิด ผักกาดหอมใบงามดูน่ากิน แถมมีบ่อกุ้งแม่น้ำหลายขนาดให้เลือกปรุงเมนูตามชอบใจ อาหารร้านนี้รสชาติอร่อยจัดจ้านตามแบบฉบับคนสมุทรสงครามจริงๆ พลาดไม่ได้ “ปลาทูซาเตี๊ยะ” ปลาทูสดปรุงรสชาติจัดจ้าน เปรี้ยว-เผ็ด-เค็ม-หวานปะแล่ม อร่อยแตกต่างจากปลาทูซาเตี๊ยะทั่วไป ที่ส่วนใหญ่มักมีรสชาติหวานแหลม แต่ร้านครัวแม่อุไรมาครบทุกรสไม่มีเลี่ยน ทานกับข้าวสวยร้อนๆยิ่งเจริญอาหาร“ข้าวผัดรวมมิตรทะเล” ก็จัดว่าเด็ด ข้าวเม็ดร่วนๆผัดกับเนื้อปู, กุ้งตัวโต และหมึกชิ้นใหญ่หั่นเป็นวง อัดแน่นไปด้วยเครื่อง เหยาะน้ำปลาพริกกับมะนาวนิดหน่อยยิ่งเพิ่มรสชาติความอร่อยที่นี่ยังมี “น้ำพริกไข่ปู” รสแซ่บเผ็ดจัดจ้านหอมไข่ปู มีส่วนผสมของไข่แดงเค็มช่วยเพิ่มความเข้มข้น ทานคู่กับชุดผักที่ปลูกขึ้นเองในร้าน มีให้เลือกทั้งมะเขือเปราะ, แตงกวา, ขมิ้น, ผักลวกจิ้ม และถั่วพลู ใครอยากหาอะไรซดร้อนๆ ต้องลอง “ต้มยำรวมมิตร” น้ำต้มยำรสชาติเด็ดดวงถึงเครื่องถึงรส วัตถุดิบที่ใช้สดใหม่ใส่ไม่ยั้ง ทั้งหอยแมลงภู่, เนื้อปลากะพงชิ้นหนา, หมึก และกุ้งสดๆ ซดแล้วหายใจคล่องโล่งคอดี อีกจานเด่นประจำถิ่นรวมถึง “หอยหลอดผัดฉ่า” หอยหลอดบ้านขนาดเล็กกว่าหอยหลอดทั่วไป เวลาเคี้ยวหนึบหนับได้ใจ ผัดกับพริกสดและพริกเหลือง ใส่กระเทียมกับพริกไทยอ่อน ทำให้กลิ่นหอมขึ้นจมูก ถูกใจคนชอบรสชาติเผ็ดร้อนผมชวนเจ้าของร้านคุยสบายๆ...“ปลาทูซาเตี๊ยะรสชาติแบบนี้ ผมไม่เคยกินมาก่อนเลยครับ อร่อยแล้วก็แปลกดี”คุณออยหัวเราะเบาๆ เล่าว่า “มันเกิดจากความไม่ชอบรสชาติเดิมของปลาทูซาเตี๊ยะ ในความคิดพี่ว่ารสมันหวานจัดเกินไป พี่ปรับสูตรใหม่ ปรุงแบบจานต่อจาน ไม่ได้ต้มเคี่ยวเป็นหม้อใหญ่ ใช้ปลาทูสดนำมาเคี่ยวลงในกระทะ น้ำราดใช้ส่วนผสมของน้ำตาล, มะนาว และน้ำมะขามเปียกนิดหน่อย ได้รสชาติแปลกใหม่ ไม่เหมือนที่อื่น แต่งหน้าด้วยกระเทียมสับและพริกสด รสชาติแบบนี้อยู่ที่คนทาน ถ้าใครลองแล้วชอบก็จะติดใจอยากทานอีก เพราะมีที่นี่ที่เดียว” นอกจาก “ปลาทูซาเตี๊ยะ” ทางร้านยังนำ “ปลาทู” สุดยอดวัตถุดิบของชาวแม่กลอง ไปรังสรรค์เมนูน่าทานอีกหลายจาน ไม่ว่าจะเป็น “ปลาทูต้มเค็ม” น้ำแกงใสใส่กับกระเทียมทุบ, “ปลาทูทอดราดน้ำปลา” คล้ายกับปลากะพงทอดราดน้ำปลา, “ปลาทูแดดเดียว” ปลาทูแกะก้าง รับประทานกับน้ำยำมะม่วง, “ปลาทูทีละคำ” ปลาทูแกะก้าง ทานกับน้ำจิ้มจัดทานเป็นคำๆ, “ปลาทูยำใบบัวบก” และเมนูขายดี “ปลาทูยำสมุนไพร” ที่ใครมาก็อยากให้ลองชิม“เดิมทีพี่เป็นนักวิชาการ ทำงานวิจัยที่มูลนิธิการแพทย์แผนไทยพัฒนา กระทรวงสาธารณสุข กระทั่งปี 2549 คุณแม่อุไรฝันอยากเปิดร้านอาหารทำกับข้าวรสชาติบ้านๆ เลยปรับที่ดินริมน้ำแม่กลองเป็นทำเลที่ตั้งร้านอาหาร ตอนเปิดร้านใหม่ๆทำท่าจะไปไม่รอด พี่เลยตัดสินใจออกจากงาน กลับมาลุยร้านอาหารที่บ้าน นำวิชาความรู้งานวิจัยด้านสมุนไพรไทย มาประยุกต์ใช้กับการปรุงอาหาร, พัฒนา และปรับรสชาติ ลูกค้าเริ่มติดใจกลายเป็นการบอกกันปากต่อปาก ทำให้ร้านครัวแม่อุไรยืนหยัดมาถึงปัจจุบัน” “ผักสดปลอดสารเคมี ปลูกไว้ในสวน ได้นำมาใช้เป็นวัตถุดิบปรุงอาหารของร้าน โดยเฉพาะเมนูน้ำพริก เราจัดผักให้ทานอย่างจุใจ “น้ำพริกไข่ปู” รสชาติแซ่บเผ็ดจัดจ้าน เทคนิคการปรุงเมนูนี้ต้องใส่กระเทียมเยอะหน่อยจะช่วยดับคาวได้ดี เพิ่มความเผ็ดร้อนด้วยพริกจินดา” ผมรู้สึกถึงความเผ็ดร้อนทันทีคุณออยบอกว่า “กุ้งแม่น้ำเผา” ก็เป็นเมนูที่ลูกค้าติดใจ แต่ช่วงฤดูฝนมันกุ้งจะน้อยหน่อย ถ้าใครชอบทานมันกุ้งเยอะๆต้องรอช่วงฤดูหนาว กุ้งแม่น้ำหาตามธรรมชาติในแม่น้ำแม่กลอง เรารับซื้อจากชาวบ้านละแวกนี้ คนหากุ้งต้องมีประสบ การณ์ดูกระแสน้ำเป็นว่าช่วงเวลาไหนสามารถหากุ้งได้ รู้ว่าตรงไหนมีกุ้งอาศัยอยู่ ส่วนวิธีการจับมีทั้งตกด้วยเบ็ด และลงไปงมในแม่น้ำ ตามความถนัดของแต่ละคน” “เรื่องการคิดค้นเมนูอาหารของพี่ ได้นำความรู้จากการเรียนและทำงานวิจัยมาต่อยอด สามารถนำมาประยุกต์ได้รสชาติอาหารใหม่ๆเสมอ ด้วยพื้นฐานแนวคิดที่อยากให้ลูกค้าได้ทานอาหารที่ดีและอร่อยในราคาเหมาะสม เพื่อให้ลูกค้ากลับมาอุดหนุนกันเรื่อยๆ” เจ้าของร้านกล่าวทิ้งท้ายสนนราคา ปลาทูซาเตี๊ยะ 150 บาท, หอยหลอดผัดฉ่า 150 บาท, ต้มยำรวมทะเลหม้อไฟ 250 บาท, น้ำพริกไข่ปู 150 บาท, ข้าวผัดรวมมิตรทะเล จานใหญ่ 220 บาท, กุ้งเผาไซส์ 4 ตัวต่อกิโลกรัม 1,250 บาท และเมนูปลาทูทุกประเภท ราคา 150 บาท ร้าน “ครัวแม่อุไร” เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 19.30 น. โทร. 08-6569-3162 และ 0-3475-2922 หรือ Facebook : ครัวแม่อุไร อัมพวา และสั่งดีลิเวอรีที่ LINE MAN.คุณชายแป๊ะ