ผมยังติดค้างบุญคุณ อาจารย์ปรัชญา ปานเกต ต่อไป เมื่อเจอเรื่อง “แก่งคอย” ในหนังสือ “ศัพท์สรรพรรณนา” (สำนักพิมพ์สถาพรบุ๊คส์ พ.ศ.2565) หลังจากลอกเอา เรื่อง “คน กง เมืองเพชร” ลงในคอลัมน์ไปแล้วมีข้อผิด ที่ผมเชื่อว่าน่าจะมีคนรู้สองคน คนแรกท่านผู้เขียน อาจารย์ปรัชญา ตั้งใจเขียนคำว่า“ตี่น”(สะกดด้วยสระอี เติมไม้เอก) ตามสำเนียงเพชร ผู้รู้คนที่สองคือผมผมเข้าใจความนัย พิมพ์ “ตี่น” เข้าไป น้องๆพิสูจน์อักษร คงเข้าใจว่าเขียนผิด จึงเมตตาแก้เป็น “ตีน” ให้ ผมมีปกตินิสัยเขียนผิดให้น้องต้องช่วยแก้ประจำ เคยแต่เอ่ยคำขอบคุณ จะทักน้องก็กลัวเสียน้ำใจนักเลงหนังสือ เขารู้ๆกัน ถ้าได้อ่าน คำแรก ตี่น แล้วตามอ่านคำสอง “ตีน” น้ำหนักของเรื่องนุ่มละมุนกว่านี่คือความผิด ที่น้อยคนจะรู้ว่าผิด เหมือนเนื้อเพลงแม่กลอง ท้ายท่อนแรกที่ชาลี อินทรวิจิตร แต่ง“พี่ลอยรักให้ฝากไปตามสายแม่กลอง ขอเชิญให้น้องกรองความรักไว้เถิดหนา...ผมเชื่อว่าครูชาลี ใช้คำว่า “กรอง” ล้อคำ “กลอง” ไม่ใช่ “ครอง” ตามที่ล้อมกรอบไว้ในศิลปวัฒนธรรมย้อนกลับมาหาเรื่อง “คอย” อาจารย์ปรัชญา นิยามความหมาย คอย หมายถึงรอสำนวนโบราณสมัย ร.2 ใช้ทั้งคอยเคร่า และเคร่าคอย สำหรับผมได้ความรู้พื้นฐานแต่พอถึงตอน นิยามหนึ่งของคอย หมายถึงหอสูงสำหรับดูเหตุการณ์ กลอนนิราศลอนดอนว่า “คนที่คอยส่องกล้องมองเขม้น พอแลเห็นเรือไฟใบสล้าง” อีกนิยาม “คอย” ความหมายเหมือนกับคำว่าด่าน คือที่คอยระวังเหตุปรากฏหลักฐานคำว่า ด่าน และคอย ในเอกสารประวัติศาสตร์ พระอายการอาญาหลวง ตอนหนึ่ง “แลตั้งนายขนอนคอยด่านทาง ให้หมั่นดูผลูร่องรอยรอบด่านแดน อย่าให้ข้าศึกศัตรูเข้ามาแปลกปลอมได้”สำเนาท้องตราปีมะเมีย พ.ศ.2317 ฉบับที่ 9...หนังสือนายควรรู้อัฏ นายเวนมหาดไทย มาเถิงผู้รักษาเมือง กรมการพระหลวง ขุนหมื่น นายบ้าน นายอำเภอ ด่าน คอย ทุกตำบลตำแหน่งนี้ ใหญ่ไม่ใช่เล่น...เสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน...สั่งกำชับกรมการด่านคอย อายัติซ่องใหญ่น้อยไว้แน่นหนา...ในนิราศท่าดินแดน ด่านคอย ใช้ร่วมกับค่าย...แตกยับกระจัดพลัดพราย ทั้งค่ายคอยน้อยใหญ่ไม่ต่อตีในวรรณคดีเก่า ใช้กันตั้งแต่นายด่าน ชาวด่าน นายคอย ชาวคอยประชุมคำพากย์รามเกียรติ์เล่ม 1 นายด่านหอคอยมีกลอง นั่งเมียงมุ่งมอง บ่ให้อริแปลกปนเห็นภาพการทำงานของนายด่านนั่งบนหอคอย มีเครื่องมือสำคัญคือกลอง ไว้ตีบอกข่าวความรู้นี้ ทำเอาสะดุดกึก...ไปต่อไม่ได้ ต้องตั้งสติคิดนาน เชื่อมโยงไปถึงชื่อแม่น้ำแม่กลอง ที่มีเรื่องเล่าชาวบ้านว่าเรียกชื่อแม่น้ำแม่กลอง เพราะเจอกลองใบใหญ่ลอยน้ำมาผมไม่เชื่อเรื่องเล่าแบบนิทานพรรณนี้ หันไปเชื่อว่า ต้นน้ำแม่กลองที่อุ้มผาง มีลำน้ำ เรียกแม่กลองคี ฟังมาว่าเป็นภาษามอญโบราณ และเรื่อง แม่กลอง เป็นชื่อเรียกที่เพี้ยนจาก “แม่คลอง” คลองใหญ่เหมือน “แม่โขง” หรือ “แม่ของ” มากกว่าแหม! แต่เมื่อนึกถึง ต้นแม่น้ำไกลไปถึงอุ้มผาง จังหวัดตาก...ไม่มีจุดไหนเชื่อมโยง พอมาถึงปากอ่าว ก็เอาคำเรียกต้นน้ำ มาเรียก “แม่กลอง” เฉยเลย มันยังไงๆอยู่!จนมาเจอเรื่อง นายคอย...นั่งระแวดระวังบนหอคอย มีหน้าที่ตีกลอง ผมก็ตาสว่าง จุดที่ตั้งหอกลอง วัดใหญ่ วัดที่สมุหนายกสร้างถวาย ร.4 อยู่ตรงชัยภูมิด่านคอย ปากคลองแม่กลอง ชนแม่น้ำแม่กลอง พอดียังไม่มีผู้รู้คนไหน...พูดถึงเรื่องนายด่านคอย นั่งบนหอสูง คอยตีกลองเอาไว้ เพราะถ้ารู้ก็คงคิดให้เข้ารูปเข้ารอยว่า ที่แท้ชื่อแม่กลอง น่าจะมาจากจุดที่เคยเป็นที่ตั้งนายด่านคอย นี่แหละ!ขอบคุณอาจารย์ปรัชญาที่ให้ความรู้เรื่องที่ไม่เคยรู้ และขอร้องอีกที อย่าเผลอขอบคุณผม ยิ่งอ่านหนังสือมากเล่มขึ้นเท่าใด ผมสารภาพยิ่งโง่มากขึ้นเท่านั้น.กิเลน ประลองเชิง