วงการเพลงเศร้า สูญเสีย “เสี่ยแหบ-วิทยา ศุภพรโอภาส” ดีเจเสียงแหบเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนใคร ที่เป็นตำนานสำคัญของวงการเพลงลูกทุ่งไทย ลูกชายติดใจการตายของพ่อ เชื่อไม่ได้เกิดจากมะเร็งที่เป็น เตรียมแถลงวันเสาร์ที่ 23 เม.ย. ถึงสาเหตุการสิ้นชีวิตที่ครอบครัวข้องใจ เผยประวัติเป็นเจ้าพ่อวงการวิทยุ ปลุกปั้น “ลูกทุ่งเอฟเอ็ม” จนเป็นที่ฮือฮาส่งผลให้เรตติ้งกระฉูด เคยดึง “เพชรา เชาวราษฎร์” มาจัดรายการเพลงด้วยกันและยังสร้างประวัติศาสตร์ให้วงการลูกทุ่ง ด้วยการนำศิลปินลูกทุ่งระดับซุปเปอร์สตาร์ทั่วฟ้าเมืองไทยมาแสดงภาพยนตร์ “มนต์เพลงลูกทุ่งเอฟเอ็ม” โกยรายได้อื้อซ่ากว่า 60 ล้านบาทวงการเพลงสูญเสียบุคคลสำคัญระดับตำนาน ที่เป็นผู้บุกเบิกรายการวิทยุ “ลูกทุ่ง เอฟเอ็ม” ที่โด่งดังทั่วไทยคือ วิทยา ศุภพรโอภาส หรือ “เสี่ยแหบ” ดีเจคนดังที่มีเสียงแหบเป็นเสน่ห์และเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว เสียชีวิตในวัย 72 ปี ท่ามกลางความเศร้าเสียใจของครอบครัว ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 21 เม.ย. เป้-ศุภวิทย์ ศุภพรโอภาส ลูกชายของเสี่ยแหบ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวของพ่อแจ้งข่าวว่า พ่อได้จากไปแล้วอย่างสงบ พร้อมกับระบุกำหนดการพิธีศพว่า มีขึ้นในเวลา 15.00 น. วันที่ 22 เม.ย. ที่ศาลาเมรุ วัดราชวรินทร์ เขตธนบุรี กทม. ส่วนพิธีสวดพระอภิธรรมมีขึ้นระหว่างวันที่ 22-28 เม.ย.เวลา 19.00 น. แล้วจะบรรจุศพไว้ 100 วัน เพื่อขอ พระราชทานเพลิงศพอย่างไรก็ตาม แม้ลูกชาย “เป้-ศุภวิทย์” จะแจ้งว่าพ่อจากไปอย่างสงบก็จริง แต่เมื่อสอบถามรายละเอียด เจ้าตัวกลับบอกว่ามีความข้องใจต่อการเสียชีวิตของพ่อ กล่าวว่า มีข่าวว่าพ่อเสียชีวิตเพราะโรคมะเร็ง แต่ความจริงไม่ใช่สาเหตุการตายของพ่อจริงๆ แพทย์ระบุว่าสมองตายเพราะขาดออกซิเจน พ่อป่วยเป็นมะเร็งจริง แต่ว่ารักษาหายดีแล้ว เมื่อ 5-6 เดือนก่อน พ่อตรวจพบว่าเป็นมะเร็งที่ปอดและเข้ารับการรักษาทันทีทำเคมีบำบัด (คีโม) จนครบเซต จะเรียกว่ารักษาหายแล้วก็ได้ พ่อยังบอกกับครอบครัวว่าพ่อจะอยู่ไปอีก 10 ปี แต่เมื่อวันที่ 3 เม.ย. พ่อตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดเกี่ยวกับมะเร็งที่ปอดอีกครั้ง ไม่ใช่ว่าเพราะอาการทรุด พ่อยังแข็งแรงดีเดินเข้าโรงพยาบาลไปเอง แต่ที่ตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัด เพราะพ่ออยากให้หายขาดจากมะเร็ง หลังผ่าตัดพ่อก็ฟื้นอาการยังดีอยู่ แต่ระหว่างพักฟื้นในห้องไอซียูพ่อเกิดสภาวะสมองขาดอากาศ เนื่องจากอุปกรณ์ไม่พร้อม เรื่องนี้กำลังตรวจสอบผลการชันสูตรศพอยู่ สาเหตุการตายของพ่อ บอกเลยว่ามะเร็งนั้นขี้ปะติ๋วมาก ไม่ใช่สาเหตุการตายแน่นอน ตนติดใจมาก จะแถลงข่าวถึงรายละเอียดทั้งหมดในวันเสาร์ที่ 23 เม.ย. ตอนนี้ขอจัดการเรื่องศพพ่อก่อน สำหรับโรงพยาบาลที่รักษาพ่อ ยังขอไม่เปิดเผยชื่อ แต่บอกได้ว่าอยู่ใน กทม. เป็นโรงพยาบาลเอกชนและใหญ่มากด้วยสำหรับประวัติของวิทยา ศุภพรโอภาส หรือที่คนวงการบันเทิงเรียกติดปากว่า “เสี่ยแหบ” ถือเป็นบุคคลระดับตำนานนักจัดการวิทยุของเมืองไทย เกิดเมื่อวันที่ 14 ก.ย.2492 เริ่มต้นอาชีพนักจัดรายการวิทยุเมื่อ พ.ศ.2513 โดยระยะแรกเป็นดีเจเพลงสากลและไทยสากล กระทั่ง พ.ศ.2540 ได้ก่อตั้ง “ลูกทุ่ง เอฟเอ็ม” ขึ้นมาร่วมกับไพวงษ์ เตชะณรงค์ และสุรพงษ์ เตรียมชาญชัย จัดรายการเพลงลูกทุ่งทางคลื่นเอฟเอ็ม 90.0 ตลอด 24 ชั่วโมง ในวันที่ 1 ส.ค.2540 ถือเป็นการพลิกหน้าประวัติศาสตร์รายการวิทยุและวงการดีเจของเมืองไทยอย่างสิ้นเชิง ที่หาญกล้านำเพลงลูกทุ่งมากระจายเสียงในคลื่นเอฟเอ็มเป็นครั้งแรก ขณะนั้นยังไม่มีใครกล้าทำหรือแม้กระทั่งคิด หลังจากกระจายเสียงเพียงไม่กี่เดือน “ลูกทุ่ง เอฟเอ็ม” ได้รับความนิยมจากผู้ฟัง เรตติ้งพุ่งขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ทันที นอกจากนี้ เสี่ยแหบยังนำ “ลูกทุ่ง เอฟเอ็ม” พุ่งแรงต่อเนื่อง ทำให้เป็นนักจัดรายการวิทยุติดอันดับ 1 ยอดนิยมถึง 6 ปีซ้อน และ “ลูกทุ่ง เอฟเอ็ม” ติดอันดับ 1 ของสถานีวิทยุยอดนิยม 5 ปีซ้อน จากการสำรวจของบริษัทจัดเรตติ้งไม่เพียงเท่านี้ วิทยา ศุภพรโอภาส หรือเสี่ยแหบ ยังทำให้วงการวิทยุต้องฮือฮา ช่วง พ.ศ.2544-2545 โดยได้นำอดีตนางเอกนัยน์ตาหยาดน้ำผึ้ง “เพชรา เชาวราษฎร์” มาร่วมจัดรายการวิทยุ “ลูกทุ่ง เอฟเอ็ม” ด้วยกันและยังเป็นผู้จัดคอนเสิร์ตครบรอบ 10 ปีรำลึกราชินีเพลงลูกทุ่ง “พุ่มพวง ดวงจันทร์” โดยรวบรวมเอานักร้องเพลงลูกทุ่งทั่วฟ้าเมืองไทยมาร่วมในเวทีเดียวกัน ยังสร้างภาพยนตร์เรื่อง “มนต์เพลงลูกทุ่งเอฟเอ็ม” ร่วมกับค่ายสหมงคลฟิล์ม ถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์เพลงลูกทุ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มีการรวบรวมนักร้องลูกทุ่งมาแสดงมากถึง 168 ชีวิตสร้างรายได้ถึง 60 ล้านบาทต่อมา “ลูกทุ่ง เอฟเอ็ม” เกิดการเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา หลังย้ายจากคลื่นเอฟเอ็ม 90.0 ที่เป็นบ้านหลังแรกมาปักหลักกระจายเสียงที่คลื่นเอฟเอ็ม 95.0 ของ อสมท จากนั้นได้ย้ายบ้านไปเรื่อยๆจนมาถึงคลื่นเอฟเอ็ม 103.0 ก่อนจะปิดสถานีไป ทว่าในปี 2552 วิทยา ศุภพรโอภาส ได้นำ “ลูกทุ่ง เอฟเอ็ม”กลับมาโลดแล่นอีกครั้งที่คลื่นเอฟเอ็ม 94.5 ก่อนจะเกิดความเปลี่ยนแปลงภายในและปิดตัวลงอีกครั้งในปี 2553 จนเมื่อเดือนมกราคม 2565 วิทยาสร้างความเซอร์ไพรส์แก่วงการเพลงอีกครั้ง ด้วยการกลับมาจัดรายการเพลงแบบดั้งเดิมในช่องยูทูบ เป็นแพลตฟอร์มทางอินเตอร์เน็ตตามกระแสนิยม ใช้ชื่อแชนแนลว่า “วิทยา ศุภพรโอภาส” นอกจากผู้ฟังจะได้ฟังเพลงในยุคก่อนๆที่มีเสน่ห์มากมายแล้ว ยังมีการเล่าเกร็ดประวัติของเพลงและนักร้อง รวมทั้งเบื้องหลังเบื้องลึกวงการเพลงที่หลายคนไม่รู้อีกด้วย