ร่วมทริปลงใต้ไปกับสมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทยในภารกิจ “ฟอร์ดแกร่งทุกงานเกษตร” มีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจหลายอย่าง โดยเฉพาะกับหลากหลายผลงานของนักศึกษาและคณาจารย์วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีชุมพร ทำให้ต้องมาตั้งคำถามจากตัวเองว่าแค่ที่นี่ที่เดียวมีผลงานมากมาย แล้ววิทยาลัยเกษตรฯ อีก 49 แห่งทั่วประเทศจะมีอะไรอีกบ้างที่ตื่นตาตื่นใจที่สุด ถือเป็นไฮไลต์ที่หลายคนยังไม่ทราบ ที่นี่มีสัตว์น่าจะเรียกได้ว่า เป็นลูกผสมข้ามสายพันธุ์ชนิดเดียวของโลก ที่สามารถสืบสายพันธุ์ต่อได้ จนขณะนี้ได้เจเนอเรชันที่ 3 ต่างจากฬ่อ (ลาผสมม้า) ไลเกอร์ (สิงโตผสมเสือ) ที่ไม่สามารถให้ลูกหลานได้ “ต้นปี 2555 ชาวบ้านพบเห็นกระทิงป่าวัยรุ่นร่างกายกำยำบึกบึนในพื้นที่สวนปาล์มของวิทยาลัย คาดการณ์ว่าเป็นกระทิงป่ารุ่นกระทงจากเทือกเขาตะนาวศรี หากินข้ามไปมาระหว่างฝั่งไทยกับพม่า ที่พ่ายแพ้จากการชิงจ่าฝูง จึงถูกขับออกจากฝูง เลยหากินตัวเดียว จึงถูกขนานนามว่าเจ้าโทน จากนั้นชาวบ้านครูอาจารย์มักนำอาหาร ผลไม้ไปให้บ่อยครั้ง จึงค่อนข้างคุ้นชินกับมนุษย์ กระทั่งปี 2558 กระทิงหนุ่มได้ผสมพันธุ์กับแม่วัวลูกผสมพื้นเมืองจนเกิดลูกผสมกระทิงกับวัว ที่ปกติแล้วเปอร์เซ็นต์ติดลูกแทบจะเป็นศูนย์ แล้วสืบวงศ์วานต่อมาจนปัจจุบันเจ้าโทนมีลูกหลานรวมแล้วกว่า 200 ตัว”ว่าที่ร้อยตรี ดร.นิพนธ์ ภู่พลับ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีชุมพร เล่าถึงความเป็นมาของเจ้าโทน กระทิงป่าวัยกระทง ที่แม้จะยังไม่ทิ้งสัญชาต ญาณ สัตว์ป่าไปเสียหมด แต่ด้วยความเชื่อง คุ้นชินกับมนุษย์เลยกลายเป็นขวัญใจชาวบ้านในที่สุด ด้วยเหตุที่เจ้าโทนไม่สามารถกลับไปยังฝั่งพม่าได้ เพราะมีรายงานว่ายังคงมีการล่าจากพรานป่าอยู่ แต่ฝั่งไทยถือเป็น สัตว์ป่าอนุรักษ์ ขณะที่แม้จะลดสัญชาตญาณสัตว์ป่าไป แต่เจ้าโทนก็ไม่ยอมถูกสนตะพาย และไม่ยอมอยู่ในคอก จึงยังคงหากินแบบอิสระในพื้นที่กว่า 2,000 ไร่ของวิทยาลัย กลายเป็นมิตรกับผู้คน จนสามารถป้อนกล้วยป้อนหญ้าให้กินได้ต่อมาเมื่อแผนกวิชาสัตวศาสตร์พบว่าเจ้าโทนผสมพันธุ์กับวัวพันธุ์ผสมพื้นเมือง แม้ยังไม่ทราบว่าแม่วัวจะตกลูกได้หรือไม่ แต่ก็มีชาวบ้านจำนวนไม่น้อยนำแม่วัวหลากหลายสายพันธุ์มาผูกกับต้นไม้เพื่อให้เจ้าโทนผสมพันธุ์ หวังว่าจะได้ลูกผสมวัวและกระทิง ที่ดึงเอาลักษณะเด่นของกระทิงที่ตัวใหญ่ กำยำ บึกบึน เขาโค้งสวยงาม แล้วก็เป็นไปตามนั้น กระทั่งลูกตัวแรกของเจ้าโทนถือกำเนิด พบว่ามีลักษณะสมบูรณ์ แข็งแรง ร่างกายกำยำ บึกบึน ค่อนไปทางกระทิง ทนต่อโรค โตเร็วกว่าลูกผสมทั่วไป “ไม่นานแม่วัวหลายตัวก็ตกลูก มีรูปร่างและลักษณะนิสัยต่างกัน เช่น ลูกที่ได้จากแม่วัวลูกผสมชาโลเล่ จะตื่นตกใจง่าย แต่แข็งแรง มักชอบหนีไปอยู่ตัวเดียว ไม่ชอบเข้าฝูง อีกแม่กลับได้ลูกวัวที่ขี้เล่น กินเก่ง โตเร็วกว่าลูกผสมทั่วไป ส่วนในแม่วัวพื้นเมืองได้ลูกที่ร่าเริง แข็งแรง ขี้เล่น ชอบเป็นจ่าฝูง แต่ลูกผสมที่ได้ทุกตัว แม้จะไม่ได้เหมือนกับกระทิงไปเสียหมด แต่ก็ยังคงลักษณะบึกบึนกำยำ แสดงให้เห็นถึงความแข็งแรงแบบฉบับกระทิง ขณะที่บางตัวก็ผสมต่อไปได้ บางตัวก็ผสมต่อไม่ได้ แสดงให้เห็นว่าสายพันธุ์ยังไม่นิ่ง”ผู้อำนวยการวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีชุมพรทิ้งท้ายไว้ว่า ในธรรมชาติเรื่องแบบนี้เป็นไปไม่ได้เลย เพราะในวัวมีโครโมโซม 30 คู่ กระทิงมีโครโมโซม 28 จะผสมพันธุ์กันได้จนติดลูก กลายเป็นลูกผสมวัว–กระทิง ที่มีโครโมโซม 29 คู่ แถมยังสามารถสืบพันธุ์ต่อได้อีก จึงถือเป็นอุบัติการณ์ทางธรรมชาติโดยแท้จริงแต่ก็เป็นที่น่าเสียดาย เมื่อเดือนสิงหาคม 2561 มีผู้พบเจ้าโทนตายอย่างไม่ทราบสาเหตุบริเวณสวนปาล์มของวิทยาลัย แม้เจ้าโทนจะได้จากไปแล้ว แต่ก็ยังทิ้งลูกหลานไว้ให้เป็นตัวอย่างการทดลองวิจัยของวิทยาลัยแห่งนี้ รวมถึงนักวิจัยจากหน่วยงานอื่นต่อไปดีไม่ดีในอนาคตข้างหน้าเราอาจเห็นโคทิงที่สายพันธุ์นิ่ง กลายเป็นอีกสัตว์เศรษฐกิจชนิดใหม่ ที่ทั้งสวยงาม ตัวใหญ่ แข็งแรง บึกบึน เนื้อเยอะ แถมทนต่อโรคอีกด้วย. กรวัฒน์ วีนิล