งานนักข่าวทำให้ผมได้เรียนรู้ ชีวิตผู้คนหลากหลาย เจ้าพ่อตะวันออก “เสี่ยจิว” จุมพล สุขภารังษี ก็เคยไปรู้จัก ตั้งแต่ปี 2518 ระหว่างสัมภาษณ์ นั่งกินน้ำพริกปลาทู สำรับข้าวเดียวกัน ที่บ้านบางทราย ชลบุรีกินข้าวไม่ทันอิ่ม แขกสามสี่คนก็มาหา ถามสั้นๆ เลือกตั้งที่ตำบล ...นั้น...“เฮียจะให้ใคร”รู้ยิ่งขึ้นตอนนั้น “เสี่ยจิว” ใหญ่จริงที่แม่กลอง สมุทรสงคราม บ้านผม ร้านกาแฟเจ๊กโป้ย ริมทางรถไฟ ก็บริเวณตลาดร่มหุบ วันนี้ เป็นที่ชุมนุมนักเลงพระ กำนันชาติ นาโคก ก็เคยเจอกันอีกคน กำนันปลิว ดอนมะโนรา (อ.บางคนที) พี่ชาย “เฮียเหลา” แคล้ว ธนิกุล ก็คุ้นหน้า เรื่องพระเครื่องเฉพาะ “เฮียเหลา” เจอตอนข่าวระเบิดฆ่ากันเวทีมวยลุมพินี นักข่าวส่งข่าวตีห้าบอก เฮียมักอารมณ์ดี เวลาบ่อนเลิกผมไม่เคยเจอเฮียเหลา...ซึ่งหน้า แต่พอจะตีซี้กันได้ ด้วยเรื่องข่าว หรือเวลามีพายุน้ำท่วมใหญ่ เฮียก็บริจาคช่วย เป็นเงินครั้งละหลายแสนส่วนทหารใหญ่...หลายท่าน ผมคุ้นตอนนั่งรับข่าว สมัยป๋า (พลเอกเปรม ติณสูลานนท์) ช่วงที่ท่านพูดไม่ค่อยกี่คำ พูดแต่คำ “กลับบ้านเถอะลูก”ป๋าไม่พูด แต่รัฐมนตรีมหาดไทย พลเอก สิทธิ จิรโรจน์ ท่านขยันพูด จนถูกกระแหนะกระแหน สิทธิรายวันครั้งหนึ่งนักข่าวถามปัญหา ผู้มีอิทธิพล พลเอกสิทธิ พูดสั้นๆ “คอยดูก็แล้วกัน ผมจะต้องทำอะไรสักอย่าง”ผมคาใจ ประโยคนี้ไว้นาน มาเข้าใจในเวลาต่อมา เจ้าพ่อ มาเฟีย หลายๆจังหวัดถูกฆ่า เสี่ยจิวก็ตายคราวนี้นี่คือบทเรียนใหม่...“อำนาจรัฐ” นั้น เหนือสิ่งใด ชาวบ้านไม่ว่า ใหญ่แค่ไหนก็ต้านไว้ไม่อยู่ถึงรัฐบาลพลเอกสุจินดา คราประยูร ผมจำคำ “ตอนนี้ คันหัวแม่เท้า” ได้ไม่กี่วัน ผู้นำสหภาพแรงงานคนหนึ่งซึ่งเคลื่อนไหวรุนแรงทางการเมือง ก็กลายเป็นสิ่งที่ไม่ใช่สสาร สูญสลายหายไปจากโลกนี้เสียเฉยๆรัฐบาลทหารนี้...มีข่าวขึ้นบัญชี 7 เจ้าพ่อ...ข่าววงในเจ้าพ่อวิ่งกันวุ่น ...6 เจ้าพ่อเคลียร์ได้ เหลือหนึ่งเดียว ไม่มีธุรกิจทางบัญชีแสดง ดูเหมือนว่า เฮียแกใช้เวลาทั้งคืนอยู่ในบ่อน ขึ้นชื่อว่าบ่อน บ้านเมืองไหนก็ไม่เคย มีใบเสร็จชั่วเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อนั้น “เฮียเหลา” ก็มีข่าว จะสมัคร ส.ส.สมุทรสงคราม...ประเด็นพาดหัวยักษ์ “ผมแพ้ไม่ได้” วันต่อมา เฮียเหลา มีนัดคุยกำนันหัวคะแนนใหญ่แถวๆบางขันแตกระหว่างเดินทาง ก็ถูกใครไม่รู้ รุมยิงเอาถึงตายภาพบาดหัวใจเซียนพระ พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ คาอยู่ในปากที่มีเลือดกบเพื่อนที่เป็นหลานเฮีย จากแม่กลอง โทร.มาถาม “ใครสั่ง” ผมก็บุ้ยใบ้ไปตามประสา “เรื่องขนาดนี้ ใครหน้าไหนจะสั่งได้วะ! นอกจากอำนาจรัฐ”ระหว่างคุยปัญหาขัดแย้งคาใจในพรรคร่วมรัฐบาล นักข่าวรุ่นพี่ก็คุยให้รุ่นน้องระดับอดีตนายกสมาคมนักข่าวฟัง...อำนาจรัฐรุ่นเก่าๆนั้น...เขาใช้ ผู้มีอิทธิพล ไม่ว่าจะเรียก เจ้าพ่อ มาเฟีย นักเลงโต กุ๊ย หรือโจรเป็นบันไดไต่เต้าสร้างความชอบธรรมในการอยู่ในอำนาจจะมีก็แต่อำนาจรัฐรุ่นใหม่ บางยุคบางสมัยล่ะกระมัง ที่เอาผู้มีอิทธิพลมาเป็นหอกข้างแคร่ ทิ่มตำตัวเองผมคิดว่าประเด็นน่าจะอยู่ที่การนิยาม คำว่า โจร หรือคำว่า ทหาร สับสน มากกว่าคนบางคน น่าจะพ้นขอบเขตความเป็นทหาร เพราะประพฤติตนเป็นโจรมานานเมื่อเอาอำนาจยื่นใส่มือโจร...ประโยคหนึ่งที่สมพล กงสุวรรณ เล่นบทพ่อ พูดในหนังทีวี “ไอ้ตี๋ มึงจะทำให้ชาวบ้านเขาเดือดร้อน” ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า อำนาจรัฐเองก็พลอยสั่นคลอน ชนิดเอาตัวแทบไม่รอดไปด้วย.กิเลน ประลองเชิง