พูดเรื่องวิกฤติราคาพลังงาน แล้วอ่อนเพลียละเหี่ยใจ ผลจากน้ำมันดิบตลาดโลกทะลุเพดานเกิน 110-120 เหรียญต่อบาร์เรล ทำให้รัฐบาลลุงตู่ปวดขมับ ต้องขยับราคาพลังงานครบวงจรขอให้พี่น้องชาวไทยเตรียมทำใจให้เป็นอุเบกขารับผลกระทบจากแก๊สหุงต้มขึ้นราคา ไฟฟ้าขึ้นราคา และน้ำมันขึ้นราคาทรีอินวัน!!เริ่มต้นจากเดือนเมษายน รัฐบาลจะปรับราคาแก๊สหุงต้ม (แอลพีจี) ที่ตรึงราคาไว้ไม่เกิน 318 บาทต่อถัง (15 กก.) เป็น 333 บาทต่อถัง (15 กก.)ทำให้ราคาแก๊สหุงต้มแพงขึ้นอีก 1 บาทต่อกิโล!!แม้รัฐบาลจะรู้ว่าการขึ้นราคาแก๊สหุงต้มจะส่งผลกระทบค่าครองชีพประชาชนโดยตรงแต่รัฐบาลอั้นต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆพอถึงเดือนพฤษภาคม รัฐบาลลุงตู่ จำเป็นต้องปล่อยผีขึ้นค่าไฟฟ้าอีกยูนิตละ 16 สตางค์ความจริงรัฐบาลรู้เต็มอกว่าการขึ้นค่าไฟฟ้าช่วงนี้ทำให้ประชาชนเดือดร้อนแน่นอน!!แต่จะทำอย่างไรได้ เพราะรัฐบาลอั้นไม่ไหวแล้วจริงๆเพราะวิกฤติพลังงานดันค่าผลิตกระแสไฟฟ้าให้กระเด้งขึ้นอย่างแรงแต่สำหรับครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 ยูนิตต่อเดือน รัฐบาลจะช่วยตรึงค่าไฟฟ้าในอัตราเดิมเป็นการชั่วคราว“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าขึ้นค่าไฟแล้ว ขึ้นค่าแก๊สหุงต้มแล้ว ก็มาถึงคิวขึ้นราคาน้ำมันดีเซลถ้าวิกฤติรัสเซีย-ยูเครน ยังรบกันคาราคาซังและถ้าราคาน้ำมันดิบตลาดโลกยังสูงกว่า 110 เหรียญต่อบาร์เรลต้นเดือนมิถุนายน รัฐบาลลุงตู่จะหมดแรงข้าวต้มตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกินลิตรละ 30 บาทอย่างแน่นอน!!แม้รัฐบาลจะรู้ล่วงหน้าว่าการขยับราคาน้ำมันดีเซลจะส่งผลกระทบต้นทุนการขนส่ง กระทบต่อต้นทุนการผลิต กระทบต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และกระทบกระเป๋าสตางค์ประชาชนอย่างจังแต่มันสุดสายป่านที่รัฐบาลจะอุ้มกระเตงน้ำมันดีเซลต่อไป!!เนื่องจากน้ำมันดีเซลที่สำรองไว้จะใช้ได้อีกไม่เกิน 2 เดือนเอวังก็มีด้วยประการฉะนี้แล“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าวิกฤติราคาพลังงานกระทบไปทั่วโลก ไม่ใช่เดือดร้อนแต่ประเทศไทยเพียงแต่เราเดือดร้อนหนัก เพราะต้องนำเข้าพลังงานมาใช้กว่า 90 เปอร์เซ็นต์และรัฐบาลเดือดร้อนหนัก เพราะอุ้มราคาน้ำมันจนริดสีดวงบานเป็นกลีบมะไฟอย่างไรก็ดี...แม้รัฐบาลนายกฯลุงตู่ จะปล่อยราคาแก๊สหุงต้มขึ้นไปอีก 1 บาทต่อกิโลรัฐบาลยังต้องควักเนื้อชดเชยแก๊สหุงต้มอีก 4 บาทต่อกิโลประเทศไทยใช้แก๊สแอลพีจี 16 ล้าน กก.ต่อวัน รัฐบาลยังต้องขาดทุนอีก 64 ล้านบาทต่อวันหรือเกือบ 2 พันล้านบาทต่อเดือน!!ยังไม่รวมที่ใช้งบอุ้มน้ำมันดีเซลอีกกว่า 2 หมื่นล้านบาทต่อเดือนวุ่นวายขายปลาช่อนกันทั้งโลก เพราะเจ้าพ่อปูตินคนเดียว.“แม่ลูกจันทร์”