ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน วัย 44 ปี 3 ปีก่อนยังเป็นดาราตลกที่ไม่มีประสบการณ์ทางการเมือง แต่กลับได้รับเลือกจากชาวยูเครนให้เป็นผู้นำประเทศด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น วันนี้ โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ขึ้นชั้นเทียบเท่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียที่ครองอำนาจมานานถึง 22 ปี ในฐานะผู้นำประเทศ คู่สงคราม โดยมีประเทศมหาอำนาจตะวันตก สหรัฐฯ ยุโรป เยอรมนี อังกฤษ ฝรั่งเศส หนุนหลังเซเลนสกีอย่างเต็มที่ ด้วยการแซงก์ชันรัสเซียทางเศรษฐกิจการเงิน ตัดรัสเซียออกจากระบบการเงินโลก ปิดน่านฟ้ายุโรปห้ามสายการบินรัสเซียบินผ่าน แก้กฎหมายส่งอาวุธช่วยเหลือยูเครน โดยยูเครนไม่ได้เป็นสมาชิกนาโตและไม่ได้เป็นสมาชิกสหภาพยุโรปชีวิตของดาราตลก โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี จึงน่าศึกษาเป็นอย่างยิ่งเซเลนสกี ได้รับเลือกตั้งเป็น ประธานาธิบดียูเครน ในปี 2019 ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 73.2% เอาชนะ เปโตร โปโรเชนโก ประธานาธิบดีในขณะนั้น อย่างไม่เห็นฝุ่น เซเลนสกีจบการศึกษาด้านกฎหมายแต่ในชีวิตจริงเขาพบว่า เขาอยากเป็นนักแสดง เซเลนสกีเกิดที่เมือง Kryvyi Rih ในภาคกลางของยูเครน พ่อแม่เป็นชาวยิว เขาเคยเล่าเรื่องในครอบครัวให้ฟังว่า พี่น้องสามคนของปู่ถูกนาซีที่เข้ามายึดครองสังหาร แต่ปู่ของเขาเอาชีวิตรอดมาจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เซเลนสกี เล่าว่า เขาตัดสินใจลงสู่การเมืองเพียงไม่กี่เดือนก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี เขาไม่มีประสบการณ์ทางการเมือง และ ไม่มีนโยบายอะไรที่จะใช้ในการหาเสียง แต่เขาให้สัญญากับชาวยูเครนว่า “เขาจะซื่อสัตย์ต่อประเทศชาติที่เขาเป็นผู้นำ” ซึ่งยูเครนสมัยนั้นเต็มไปด้วยการทุจริตคอร์รัปชันจนประชาชนเบื่อระอาเต็มที คล้ายกับบางประเทศแถวเอเชียวาทะเด็ดของ เซเลนสกี ในการหาเสียงคือ “คุณไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์เพื่อเป็นประธานาธิบดี แต่คุณต้องการคนที่มีความดีงามแบบมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง” ด้วยประสบการณ์ด้านบันเทิง ทำให้เซเลนสกีสามารถพูดคุยกับคนได้ทุกชนชั้น เซเลนสกีเป็นคนที่มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนทั่วไป สิ่งเหล่านี้ทำให้เซเลนสกีประสบความสำเร็จทางการเมือง ในวันที่ ประธานาธิบดีปูติน สั่งกองทัพรัสเซียบุกโจมตียูเครนทุกทิศทุกทาง เซเลนสกี ได้เปลี่ยนบทบาทตัวเองขึ้นเป็น ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เปลี่ยนตัวเองเป็น ผู้นำประเทศในภาวะสงคราม ซึ่งยังไม่เคยมีผู้นำยูเครนคนไหนเคยเจอมาก่อน เซเลนสกี ตอบโต้การรุกรานของรัสเซียด้วยการสู้เต็มที่ และใช้กลยุทธ์ เรียกร้องกลับไปยังชาวรัสเซียโดยตรง ว่า ชาวยูเครนต้องการสันติภาพและความสงบสุข และ กระตุ้นให้ชาวรัสเซียลุกขึ้นมาต่อต้านสงคราม ซึ่งก็ได้ผล มีชาวรัสเซียหลายเมืองลุกขึ้นมาประท้วงการรุกรานยูเครนตามที่เป็นข่าวภาพของ เซเลนสกี ที่น่าประทับใจที่สุดก็คือภาพที่ เซเลนสกีใส่เสื้อยืดคอกลมและเสื้อกันหนาวแบบชาวบ้าน ยืนแถลงข่าวกับสื่อที่กรุงเคียฟ ดูแล้วเหมือนชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่ง ไม่เหมือนประธานาธิบดีผู้ทรงอำนาจที่กำลังนำทัพต่อสู้กับกองทัพรัสเซียเพื่อเอกราชของประเทศ เซเลนสกีได้โพสต์ภาพตัวเองลงในโซเชียลมีเดีย เพื่อให้ประชาชนเห็นว่าเขายังอยู่ที่ทำเนียบประธานาธิบดี ใจกลางกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ล้อมรอบด้วยคณะรัฐมนตรี เซเลนสกีพูดกับชาวยูเครนว่า “พวกเราทั้งหมดยังอยู่ที่นี่ เรากำลังปกป้องเอกราชของประเทศของเรา” โดยไม่หนีเอาตัวรอดเหมือนผู้นำประเทศอื่นจนถึงเช้าวันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ กองทัพรัสเซียก็ยังยึดกรุงเคียฟไม่ได้จากดาราตลกที่เรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชมทางทีวี ประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี พลิกโฉมตัวเองเป็น ผู้นำที่เข้มแข็ง ยืนหยัดต่อสู้กับกองทัพรัสเซียที่เหนือกว่าอย่างไม่กลัวตาย ไม่ยอมถอยและไม่ยอมหนีแม้จะถูกล้อม พร้อมสู้ตายกับประชาชน เพื่อปกป้องเอกราชของชาติบ้านเมือง นักการเมืองไทยควรศึกษาเซเลนสกีไว้เป็นแบบอย่างครับ.“ลม เปลี่ยนทิศ”