ก่อนหน้าที่ไทยจะแสดงความสนใจ เรื่องการจัดซื้อฝูงบินรบสมรรถนะสูง “เอฟ-35” นั้น ก็มีรายงานมาตลอดว่าเพื่อนบ้านอาเซียนอย่าง “อินโดนีเซีย” มีความพยายามที่จะเสริมฝูงบินมานานแล้วโดยช่วงนั้นอินโดนีเซียมีความสนใจที่จะจัดหาเครื่องบินรบอเนกประสงค์ซูคอย-35 จากรัสเซีย เพื่อมาเสริมทัพกับซูคอยรุ่นเก่าฝูงเดิม หรือเครื่องบินรบยูโรไฟเตอร์ไต้ฝุ่นมือสองจากออสเตรีย หรือเลือกระหว่างเอฟ-35 เอ กับเอฟ-16 บล็อค 72 จากบริษัทล็อคฮีด มาร์ติน สหรัฐฯอย่างไรก็ตาม รายชื่อดังกล่าวได้ถูกโละทิ้งไปในที่สุด เปลี่ยนเป็นแผนจัดซื้อเครื่องบินรบอเนกประสงค์ “เอฟ-15 อี” ของบริษัทโบอิ้ง สหรัฐฯ หรือเครื่องบินรบ “ราฟาล” ของบริษัทดาสซอลท์ ฝรั่งเศสแทน โดยกรณีนี้สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างแหล่งข่าวในรัฐบาลอินโด นีเซียว่า ถูกกดดันจากสหรัฐฯให้พับข้อตกลงกับรัสเซีย มิฉะนั้นอาจเจอ “CAATSA” หรือกฎหมายการต่อต้านศัตรูของอเมริกาผ่านการคว่ำบาตรด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา กองทัพอินโดนีเซียได้ยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า จะทำการจัดซื้อเครื่องบินรบอเนกประสงค์ “ราฟาล” ของฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ โดยเริ่มจากการซื้อลอตแรกก่อน 6 ลำ และให้คำมั่นว่าจะซื้อเพิ่มอีก 36 ลำ เพื่อให้ครบทั้งหมด 42 ลำ เป็นดีลทั้งหมด 8,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 275,400 ล้านบาท ตกแล้วลำละกว่า 6,550 ล้านบาทด้านนักวิเคราะห์ความมั่นคงสหรัฐฯ มองว่ามีความเป็นไปได้ที่การจัดซื้อครั้งนี้จะเป็นราฟาลรุ่นเอฟ 4 เจเนอเรชันล่าสุด ซึ่งจะได้รับการปรับปรุงระบบเรดาร์ ระบบเล็งเป้าด้วยสายตานักบิน และการซื้อขายรุ่นเอฟ 4 ที่ผ่านมา ยังพ่วงมาด้วยจรวดต่อต้านอากาศไมกา พิสัยทำการสูงสุด 80 กิโลเมตร และระเบิดนำวิถีด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์เอเอเอสเอ็ม ขนาด 2,200 ปอนด์แม้จะยังไม่มีไทม์ไลน์ชัดเจนว่า อินโดนีเซียจะได้ครอบครองราฟาลเมื่อใด แต่สิ่งที่แน่นอนคือกองทัพอากาศของชาติอาเซียนรายนี้จะมีความลูกผสมสุดๆ โดยมีทั้งเอฟ-16 สหรัฐฯ ที-50 เกาหลีใต้ ซูคอย-27 และซูคอย-30 ของรัสเซีย ตามมาด้วยสมาชิกใหม่ราฟาลจากฝรั่งเศส.ตุ๊ ปากเกร็ด