ความผูกพันใกล้ชิดระหว่างสมาชิกครอบครัวของชาวอิตาเลียนมักอยู่ใต้หลังคาเดียวกัน หรือไม่ก็บ้านใกล้เรือนเคียง เพื่อจะได้อยู่แบบพร้อมหน้าพร้อมตา แต่เดี๋ยวนี้นับหัวแล้วจะพบว่า ในจำนวน 5 คนมี 1 คนที่วัยเลย 65 และเกือบครึ่งหนึ่งจะมีชีวิตโฮม อะโลน เพราะคนรุ่นใหม่มีวิถีชีวิตเร่งรีบ ต่างคนต่างอยู่มากขึ้นมร.จิออร์จิโอ แอนเจโลซซี คนวัยแปดสิบ ผู้คุ้นเคยบรรยากาศญาติพี่น้องรวมกันเป็นหมู่คณะนานถึง 4 สมัย ทนว้าเหว่ต่อไปไม่ไหว ขอลงโฆษณาใน นสพ.อยากหาใครก็ได้ที่เต็มใจรับเขาไปอยู่ด้วยในฐานะ “คุณตาบุญธรรม”ทาง นสพ.คอร์รีแอร์ เดลลา เซรา ยังแถมสัมภาษณ์ขึ้นหน้า 1 ถึงชีวิตความเป็นมาว่าอยู่คนเดียวมาโด่เด่กับเจ้าเหมียวอีก 7 ตัว ที่แฟลตเล็กๆ ขนาด 2 ห้อง นอกกรุงโรม มีลูกสาวคนเดียวก็ไปทำงานการกุศลต่างแดน ส่วนเมียก็ชิงลาโลกตั้งนานแล้วไม่นานเสียงตอบรับจากครอบครัวทั่วแว่นแคว้นเข้ามาอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ยังก้าวไกลข้ามแดนไปถึงนิวซีแลนด์ สหรัฐฯ บราซิล ทำเอาคุณตาถึงกับทึ่ง อึ้ง แต่ก็ขอมีข้อแม้ว่า“ผมจะเลือกอยู่กับผู้หญิงที่มีน้ำเสียงชวนให้นึกถึงเมียเท่านั้น”จึงตอบรับสมาชิกครอบครัวของ เอลีโอ และมาร์เลนา รีวา พร้อมลูกสาววัยทีนเอจ 2 คนในเมืองแบร์กาโม ตอนเหนือของประเทศอดีตครูสอนวิชาดนตรีคลาสสิกท่านนี้บอก “ตอนนี้ผมได้เป็นตาสมใจแล้ว เพราะมาร์เลนาเรียกผมว่าพ่อ ส่วนเด็กๆก็เรียกผมว่าคุณตา บ้านหลังใหม่ก็แสนจะอบอุ่น มีสวนผลไม้ แล้วยังมีหมาชื่อพลาโบตอนแรกผมจะให้เงินไว้เป็นค่าใช้จ่ายเดือนละ 500 ยูโร หรือเกือบ 20,000 บาท แต่พวกเขาไม่รับ บอกว่าสิ่งที่พวกเขาต้องการคือคุณตาต่างหาก”หันไปถาม มาร์เลนา ซึ่งมีโทนเสียงเข้าข่ายจุดประสงค์คุณตามากที่สุด เฉลยว่า “คุณตาต้องการความช่วยเหลือค่ะ ท่านเหงามาก และเราก็ต้องการท่านด้วย คือญาติของดิฉันอยู่ที่บ้านเกิดประเทศโปแลนด์กันหมด ส่วนพ่อแม่ของสามีก็เพิ่งเสียชีวิตค่ะ”ด้านลูกสาววัย 16 ปี พูดสั้นๆว่า “หนูแค่อยากมีคุณตา เรื่องอื่นไม่สนค่ะ”โลกนี้ยังมีคนเห็นคุณค่าของการมีญาติผู้ใหญ่บุญธรรมมากกว่าเงิน.ฤทัยรัช จันทร์เพ็ญ