พวยก๊าซพุ่งที่ออกมาจากดาวฤกษ์อายุน้อยๆนั้นเป็นผลพลอย ได้ทั่วไปของการก่อตัวดาวฤกษ์ และคาดว่าน่าจะเกิดจากการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างสนามแม่เหล็กของดาวฤกษ์อายุน้อยที่หมุนรอบตัวเอง กับจานฝุ่นก๊าซที่อยู่รอบๆ ซึ่งปฏิกิริยาเหล่านี้จะปล่อยลำก๊าซที่มีสภาพเป็นไอออนออกมาเป็นคู่ในทิศทางตรงกันข้ามเมื่อเร็วๆนี้นักดาราศาสตร์ได้เผยภาพที่ถ่ายโดยกล้องโทรทรรศน์เจมิไน เซาธ์ บนภูเขา Cerro Pachón ตรงขอบเทือกเขาแอนดีสในชิลี ซึ่งเหตุการณ์ก๊าซที่พวยพุ่งออกมาถูกเรียกว่า MHO 2147 อยู่ห่างจากโลกประมาณ 10,000 ปีแสง ในดาราจักรหรือกาแล็กซีทางช้างเผือก ใกล้กับพื้นที่ระหว่างกลุ่มดาวคนยิงธนูและกลุ่มดาวคนแบกงู โดยฉากหลัง ของเหตุการณ์ MHO 2147 นั้นเต็มไปด้วยดวงดาวพร่างพราย ทั้งนี้ MHO 2147 ถูกระบุว่ามีดาวฤกษ์อายุน้อยอยู่ตรงกลางซึ่งมีรหัสเรียกคือ IRAS 17527-2439 ฝังจมอยู่ตรงบริเวณที่เย็นและมีก๊าซหนาแน่นจนทึบแสง ก๊าซที่พุ่งเป็นเส้นโค้งเกือบจะไม่ขาดสายเหล่านี้บ่งชี้ว่า MHO 2147 เกิดจากการแผ่รังสีอย่างต่อเนื่อง จากแหล่งกำเนิดที่ศูนย์กลาง นักดารา ศาสตร์พบว่าการเปลี่ยนแปลงทิศทางและการเคลื่อนตัวของพวยก๊าซอาจเกิดจากอิทธิพลแรงโน้มถ่วงของดาวฤกษ์ที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งกระทำต่อดวงดาวที่ใจกลาง การสังเกตนี้ชี้ให้เห็นว่า IRAS 17527-2439 อาจอยู่ในระบบดาว 3 ดวงที่แยกจากกันห่างมากกว่า 300,000 ล้านกิโลเมตรนอกจากนี้ นักดาราศาสตร์ยังพบก๊าซพุ่งออกมาจากเหตุการณ์ที่เรียกว่า MHO 1502 ซึ่งอยู่ในกลุ่มดาวใบเรือที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 2,000 ปีแสง.(ภาพประกอบ Credit : NOIRLab)