วันนี้เป็น “วันรัฐธรรมนูญ” วันระลึกถึง รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พ.ศ.2475 ซึ่ง พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 พระราชทานให้เป็นรัฐธรรมนูญถาวรฉบับแรกของไทยเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2475 หลังจากยกเลิก “ธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พ.ศ.2475” หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง แต่รัฐธรรมนูญ 2475 ก็ไม่สามารถอยู่ถาวรได้ ตลอดระยะเวลา 89 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีการปฏิวัติรัฐประหารถึง 13 ครั้ง มีการเปลี่ยนรัฐธรรมนูญใหม่ถึง 20 ฉบับการปฏิวัติครั้งล่าสุดเกิดขึ้นวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติ ครองอำนาจตั้งแต่บัดนั้นจนถึงบัดนี้เป็นเวลา 7 ปี 6 เดือน 18 วันแล้ว และได้ยกร่าง “รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560” ขึ้นมาต่อท่ออำนาจ เป็นรัฐธรรมนูญที่ขึ้นชื่อว่าแก้ไขยากที่สุดในโลก ฉบับหนึ่งหลังจากพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับแรกแล้ว ต่อมา พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงตัดสินพระทัยสละราชสมบัติเมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ.2478 โดยมีพระราชหัตถเลขาว่า “ข้าพเจ้ามีความเต็มใจที่จะสละอำนาจอันเป็นของข้าพเจ้าแต่เดิม ให้แก่ราษฎรทั่วไป แต่ข้าพเจ้าไม่ยินยอมยกอำนาจทั้งหลายของข้าพเจ้าให้แก่ ผู้ใด คณะใด โดยเฉพาะ เพื่อใช้อำนาจนั้นโดยสิทธิขาด แต่โดยไม่ฟังเสียงอันแท้จริงของราษฎร...”เป็นพระราชปณิธานอันแน่วแน่ของ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ที่ทรงสละพระราชอำนาจของพระองค์ “ให้แก่ราษฎรทั่วไป” แต่ไม่ยินยอมยกอำนาจของพระองค์ให้กับ “ผู้ใด คณะใด” ที่จะ “ใช้อำนาจโดยสิทธิขาด” และ “ไม่ฟังเสียงอันแท้จริงของราษฎร”รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ที่คณะปฏิวัติ คสช.ยกร่างขึ้นมา ได้บัญญัติไว้ใน มาตรา 3 ว่า “อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุข ทรงใช้อำนาจนั้นทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ” และได้บัญญัติไว้ในวรรคสองอีกว่า “รัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐ ต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และหลักนิติธรรม เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวม”ตลอดเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ครองอำนาจมากว่า 7 ปี 6 เดือน ทั้งในฐานะ หัวหน้า คสช. และ นายกรัฐมนตรี อยากให้คนไทยทุกคนตั้งแต่ รัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระ หน่วยงานของรัฐ ลองถามตัวเองด้วยความซื่อสัตย์ดูว่า “อำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทย” ตามมาตรา 3 ในรัฐธรรมนูญ “ยังเป็นอำนาจของปวงชนชาวไทยอยู่จริงหรือ” แล้ว “อำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทยที่แท้จริงไปตกอยู่ในมือใคร” หรือเปล่ามีเกจิการเมืองบางท่านบอกว่า อำนาจอธิปไตยยังไม่ใช่ของปวงชนชาวไทยอย่างแท้จริง แต่ อำนาจอธิปไตยในปัจจุบันตกเป็นของชนชั้นนำที่แชร์อำนาจกับฝ่ายตุลาการผมไม่รู้ว่าชนชั้นนำมีใครบ้าง แต่ที่เห็นเป็นข่าวในทุกวันนี้ก็คือ อำนาจการตัดสินใจทุกอย่างในประเทศไทย ดูเหมือนจะอยู่ในอำนาจของ 3 ป.ผู้ร่วมปฏิวัติกันมา คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รมว.กลาโหม นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แกนนำรัฐบาล และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ถ้าสามคนนี้โอเคทุกอย่างก็โอเคแม้แต่ การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. สองปีแล้วยังไม่รู้จะได้เลือกตั้งเมื่อไหร่ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า ต้องรอให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยก่อน วันนี้บ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อยหรือวันที่ระลึก “วันรัฐธรรมนูญ” วันนี้ ก็อยากให้คนไทยทุกคนระลึกถึง “อำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทย” ที่บัญญัติไว้ใน รัฐธรรมนูญ 2560 ไม่ควรให้ “ผู้ใด คณะใด” ละเมิดหรือขโมยอำนาจไปเป็นของตัวเองตามอำเภอใจ เพราะเป็นอำนาจของคนไทยทุกคน.“ลม เปลี่ยนทิศ”