ผมอยากรู้เรื่องเทวรูปที่ขึ้นจากกรุใต้ปราสาทเก่า เขาปลาย บัด อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ เปิดหนังสือภูมิบ้านนามเมือง คำใคร ไทย-มอญ-เขมร (ประสิทธิ์ ไชยชมพู ค้น-เขียน ทองแถม นาถจำนง บก.) เจอหัวข้อปังกู ปังโกล ประโคนชัย ตะลุง พัทลุง ก็งง...เออ เริ่มจากประโคนชัย ไปถึงเมืองตะลุง หรือพัทลุง ได้ยังไง?ประสิทธิ์เริ่มต้นว่า ในกรุประโคนชัย ประติมากรรมสำริดที่พบส่วนใหญ่เป็นพระโพธิสัตว์ บางส่วนเป็นพระพุทธรูปศิลปะ ทวารวดี พุทธศตวรรษที่ 13-15ประติมากรรมสำริดเหล่านี้ บางองค์คล้ายที่พบที่บ้านวังปลัด ต.ปะเคียบ อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ บ้านฝ้าย ต.ไทยสามัคคี อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เป็นฝีมือหล่อจากท้องถิ่น เช่นเดียวกับเศียร พระโพธิสัตว์บ้านโตนด (ต.โตนด อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา) ไม่ได้ย้ายมาจากกัมพูชาที่ประสิทธิ์ไม่ได้บอก แต่ผมอยากบอก ประติมากรรมสำริดที่ว่าสวยงามน้อยกว่า ชุดที่ขึ้นจากเขาปลายบัด เพราะได้เห็นองค์ใหญ่สวยจับใจ ในคอลเลกชันรอคกี้ เฟลเลอร์ และอีกหลายองค์ในพิพิธภัณฑ์สหรัฐฯยอร์ช เซเดส์ ศาสตราจารย์โบราณคดี อ่านจารึกบ่ออีกา (นครราชสีมา) ลงมติว่า “จนาศะปุระ” อยู่แถบที่ราบสูงโคราช ช่วง พ.ศ.1411 ช่วงนั้นบ้านเมืองบริเวณนี้ ยังไม่ขึ้นกับอาณาจักรกัมพูชาเคยอ่านหนังสือ “ศรีจนาศะ” ของนักวิชาการรุ่นใหม่ จบเล่มรู้เพียงว่า เป็นนครหนึ่ง แถวๆโคราช ไม่ได้ยึดโยงมา เป็นเรื่องเดียวกับประโคนชัย บ้านฝ้าย วังปลัด ที่เคยรู้ๆมาก่อนอาจารย์ ฌอง บวสเซอลิเย่ บอกว่าจารึกบ่ออีกา เข้ากันดีกับประติมากรรมแบบโคราช ซึ่งมีทั้งพระพุทธรูปทวารวดี และเศียรโพธิสัตว์ คงเป็น ศิลปะแบบจนาศะแม้ไม่ฟันธงรวมเอาศิลปะประโคนชัยเข้าไปด้วย แต่พอสรุปได้ ประโคนชัยเป็นทางผ่านเผยแพร่พุทธมหายาน จากเขมรมาโคราชอย่างน้อยต้นศตวรรษที่ 14เริ่มเป็นที่ยอมรับในหมู่นักวิชาการรุ่นใหม่ แหล่งโบราณคดีประโคนชัย มีวิวัฒนาการเฉพาะตัวร่วมสมัยนครศรีจนาศะ ศูนย์ กลางน่าจะอยู่เมืองเสมา นครราชสีมาอาณาบริเวณศรีจนาศะ นี่เอง ที่เชื่อกันว่าเป็นแหล่งสะสมอำนาจอิทธิพลของราชตระกูล “มหิทธร” ต่อมารวมอาณาจักรเจนละบก และเจนละน้ำ รวมเป็นอาณาจักรกัมพูชาความรุ่งเรืองของประโคนชัยในอดีต สะท้อนจากข่าวการทวงคืนพระโพธิสัตว์สำริด 300 ชิ้น อายุราว 1,300 ปี ที่หายไปจากปราสาทปลายบัด เมื่อห้าหกสิบปีที่แล้ว และไปเปิดประมูลทางออนไลน์ ที่สหรัฐอเมริกาเมื่อไม่กี่ปีก่อนหันมาว่ากันเรื่องชื่อ “ประโคนชัย” ศัพท์วิวัฒน์ อาจผันเสียงจาก ก็วล>โกล>ปังโกล>ประโกล>ประโคนก็วล ปังโกล เรียกหลักทั่วไป เช่นหลักล่ามวัวควาย หลักผูกเรือ โกล ประโกล เน้นหลักวัด เขตพรมแดน อันเป็นที่มา ประโคนชัย ซึ่งใส่ปัจจัยคำมงคลลงท้ายสรุป ตะลุง หลักล่ามช้าง เป็นชื่อหลายหมู่บ้าน รวมทั้งเมืองพัทลุง และเป็นศัพท์เกี่ยวเนื่องเมืองประโคนชัย เมืองที่มีหลักประโคนหรือหินโคน บอกเขตเมืองโบราณความรู้ภาษามอญเขมรพม่าและกูยของประสิทธิ์ ทำให้ผมรู้ว่าชื่อประโคนชัย คลี่กลายเป็นชื่อ “ปักธงชัย” ได้ไหว้พระประโคนชัยแล้ว นึกถึงชื่อ ปักธงชัย เป็นมงคลแก่ตัวเองไม่น้อยเลย.กิเลน ประลองเชิง