นอกจากบ่มเพาะความคิดชักจูงผู้บริสุทธิ์ไปใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา โลกโซเชียลมีเดีย ยังเต็มไปด้วย “อาชญากรไซเบอร์” อาละวาดเป็นภัยอาชญากรรมรูปแบบใหม่ที่ตำรวจต้องตามให้ทันสำหรับ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มองว่า นอกจากเพิ่มความเข้มข้นการปราบปรามแล้ว ที่สำคัญคือการป้องกันด้วยการให้ความรู้แก่ประชาชนแต่ยอมรับว่าความยากลำบากในการพิสูจน์ตัวบุคคลผู้กระทำความผิดเป็นเรื่องที่ตำรวจต้องพัฒนา ทีมงานด้าน “ไอที” โชคดีได้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้ทุนการศึกษาระดับปริญญาโทไปเรียนในต่างประเทศ 4 ทุน เพื่อเสริมทักษะเรื่องเทคโนโลยีให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตรียมให้นักเรียนนายร้อยตำรวจที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยี 1 ทุน ที่เหลือเป็นส่วนของผู้ปฏิบัติหน้าที่ในสายงานเฉพาะด้านของหน่วยรับผิดชอบโดยตรงนอกจากนี้ กำลังผลักดันสร้าง ศูนย์ปฏิบัติการพิสูจน์พยานหลักฐานดิจิทัล (Digital Forensic Lab) ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจยึด “แม่แบบ” มาจากสถานฝึกอบรมของสำนักงานสอบสวนกลางในเมืองควอนติโก รัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกาวัตถุประสงค์เพื่อสร้างบุคลากรตำรวจเลือดใหม่รองรับ “อาชญากรรมทางอินเตอร์เน็ต” ในอนาคต“เราจะใช้รองสารวัตร สารวัตร รองผู้กำกับทำงานเหล่านี้ และพวกเขาต้องอยู่กับเรื่องนี้ต่อไปบนเส้นทางการเจริญเติบโตในชีวิตราชการที่เหมาะสมกับตำแหน่งถนัด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ฝากความหวังนำเอาระบบ “แจ้งความออนไลน์” เข้ามาบริหารจัดการควบคู่กันไปในทางเดียวกัน เนื่องจากคดีบนโลกโซเชียลมีเดียไม่มีพื้นที่ชัดเจน เขตอำนาจการสอบสวนไม่ใช่เป็นของโรงพักนั้น โรงพักนี้ แตกต่างจากคดีธรรมดาทั่วไป ตำรวจต้องพัฒนาและนำหน้าคนร้ายให้ไกลกว่าแค่ก้าวเดียว.สหบาท