ภราดร หวังตระกูลชัย หนึ่งในคนรุ่นใหม่ ที่ขอขีดชีวิตด้วยตัวเอง ด้วยการเลือกทำในสิ่งที่ตนเองรัก เพราะเชื่อในการทำงานที่มีความสุขจะส่งให้ผลของงานออกมาได้ดี และประสบผลสำเร็จภราดร หรือ เวฟ หนุ่มวัย 27 ปี ที่กำลังเตรียมตัวเป็นคุณหมอ ได้เกริ่นแนะนำตัวว่า ครอบครัวเวฟอยู่เชียงราย คุณพ่อเป็นแพทย์ศัลยกรรมทางด้านทางเดินปัสสาวะ มีคลินิกของตัวเอง ด้วยที่มีคุณพ่อเป็นหมอ ที่บ้านเลยปลูกฝังให้เวฟเดินตามรอยที่จะเป็นหมอ พอจบจากโรงเรียนสามัคคีวิทยาคม ที่เชียงราย จึงได้เข้าเรียนแพทย์ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เวฟเพิ่งจบมาไม่นาน ตอนนี้อยู่ในระหว่างการสอบใบประกอบวิชาชีพ ในปลายปีนี้ และคงทำงานในโรงพยาบาลในต้นปีหน้า “ที่เวฟจบช้า เพราะช่วงตอนเรียน ปี 4 เวฟได้หยุดพักเรียน แล้วมาสำรวจตัวเองว่ารักในสิ่งที่ตัวเองเรียนจริงไหม หรือว่าเราเรียนเพราะสิ่งที่เราถูกปลูกฝัง ไม่มีทางเลือกอื่น ซึ่งถ้าไม่เรียนต่อ เวฟก็จบด้วยปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต ช่วงที่พักหยุดคิดอยู่ 2 ปี ก็มาถามตัวเองอีกที แต่สุดท้ายก็กลับไปเรียนต่อจนจบแพทยศาสตรบัณฑิต ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ครับ ตอนนี้อยู่ระหว่างรอสอบใบประกอบวิชาชีพ ในเดือน พ.ย.นี้ แล้วคาดว่าจะได้เริ่มงานใน รพ.ช่วงต้นปีหน้าครับ” หนุ่มเวฟบอกถึงเส้นทางชีวิต เมื่อได้หยุดสำรวจ ความต้องการของตัวเอง เวฟ บอกว่า ได้คิดหลายอย่าง และมองว่าจะเดินไปข้างหน้าอย่างไร โดยเริ่มต้นมองในสิ่งที่ตนเองถนัดและรักที่จะทำ แล้วจะทำอย่างมีความสุขและทำได้ดี ไม่มีเบื่อ โดยเวฟสังเกตจากการเรียนดนตรี อย่างเปียโนของตนเอง ซึ่ง สามารถนั่งเล่นนั่งเรียนได้ทั้งวันอย่างไม่เบื่อ และสามารถทำได้ดี เพราะไม่มีแรงกดดัน รู้สึกสนุก เลยได้ข้อสรุปว่า ถ้าเราได้ทำในสิ่งที่ชอบ ทำในสิ่งที่มีความสุข ผลจะออกมาดี“ผมเชื่อว่าผู้ใหญ่ทุกคนเลือกในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกหลานอยู่แล้ว แต่บางทีเราอาจจะไม่ชอบสิ่งนั่นแล้วทำออกมาได้ไม่ดี ผมยังอยากเป็นหมอเลยกลับไปเรียนต่อ ส่วนอนาคตคงต้องวางแผนอีกทีว่าจะทำงานอย่างไร โดยหลักการแล้วหลังจากจบผมต้องทำงานใช้ทุนที่ รพ.ต้นสังกัดคือ รพ.เชียงรายฯ แต่ตอนนี้ความสนใจของผมเปลี่ยนไป เลยต้องวางเส้นทางว่าเราจะเดินไปทางไหนดี แต่ไม่ว่าจะได้ทำในส่วนตรงไหน เวลาทำงานผมจะเป็นอีกคน ซึ่งผมจะมีกฎของตนเองอยู่ 2 ข้อ คือ ทำให้ถูก และทำให้ดี เราต้องมีจรรยาบรรณแพทย์ ทำงานอย่างถูกต้อง แล้วต้องทำให้ออกมาดี เวลาทำงานผมเอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าเราสร้างบรรยากาศในการทำงานที่ดี ยิ้มแย้มแจ่มใสให้กับคนไข้ และเพื่อนร่วมงาน พยาบาล คงสามารถบรรเทาความทุกข์ใจจากคนไข้ และการทำงานที่หนักของเพื่อนร่วมงานได้ครับ”...แนวคิดที่ดีของหมอรุ่นใหม่ที่จะออกมาเป็นกำลังของสังคมต่อไป.