เช้าวันอาทิตย์ผมลืมตาตื่นมาฟังข่าว รัฐบาลสลายม็อบหมู่บ้านทะลุฟ้า ข้างทำเนียบเรียบร้อย ก็เชื่อมโยงเอาตามประสา ไม่นึกว่าโรคระบาดจากทหารพม่าจะแพร่มาถึงไทยได้เร็วขนาดนี้ระหว่างง่วงขี้ตา ผมเปิดยูทูบสะเปะสะปะ เจอรายการการเมืองน่าสนใจ ลองแตะดูเห็นหน้า “คุณเป้” เลขาฯพรรคเสรีรวมไทย เป็นคนใกล้ตัวคุณเสรีฯ ผมเชียร์พรรคนี้ครับ ตามประสาคนรักคนชอบกัน ก็ตั้งใจฟังคุณเป้วิจารณ์นายกรัฐมนตรี ว่าเล่นการเมืองในสภาแบบไร้น้ำใจไมตรี เอาชนะฝ่ายค้านทุกทาง จนไม่เหลือทางหนี ฝ่ายค้านจึงจำเป็นต้องเปิดเกมบนถนนน้ำเสียงคุณเป้จับความได้ แม้ว่าม็อบสามนิ้วจะโรยแรงลง หรือม็อบหมู่บ้านทะลุฟ้าจะถูกทลาย ม็อบอื่นๆ ก็จะต้องมีต่อไปคนรักม็อบฟัง ก็มีความหวังยังมีช่องทางเดินต่อ คนเบื่อม็อบก็ถอนหายใจ วันหยุดจะไปไหนมาไหน ก็ต้องดูทางหนีทีไล่ให้ดีผมชอบมากประโยคที่คุณเป้ นักการเมืองเด็ก ต่อว่า นายกฯนักการเมืองรุ่นใหญ่ ไม่ควรต้อนสุนัขให้จนตรอกประโยคนี้เป็นสำนวนชาวบ้าน หากเป็นในตำราพิชัยสงคราม ฉบับซุนวู บทที่หนึ่ง เขาเขียนว่า การล้อมตีข้าศึกนั้น ต้องเปิดช่องให้ถอย หรือจะเขียนให้สั้น ล้อมทัพพึงเปิดช่องใน “ฉางต่วนจิง” ศาสตร์แห่งการยืดหยุ่นและพลิกแพลง (เจ้าหยุย รจนา อธิคม สวัสดิญาณ เรียบเรียง สำนักพิมพ์เต๋าประยุกต์ พิมพ์ครั้งที่ 4 พ.ศ.2549) ยกตัวอย่างสามก๊กตอนแรกๆฮั่นตง ขุนพลกองทัพโพกผ้าเหลือง ยกทัพเข้ายึดเมืองอ้วนเซีย ฝ่ายรัฐบาลส่ง จูฮี และเตียวเฉียว คุมกองทัพเข้าล้อมเมืองไว้หลายชั้น ระหว่างนั้น ก็สร้างหอพูนเนิน เพื่อสังเกตสภาพในเมือง(ศึกปราบโจรโพกผ้าเหลือง ตอนนี้ นิยายสามก๊ก ฉบับล่อกวนตง เขียนให้เล่าปี่ กวนอู เตียวหุย ร่วมรบด้วย)กองทัพรัฐบาลวางกลอุบายสังลั่นรัวกลอง แสร้งทำทีจะบุกตีทางตะวันตกเฉียงใต้ ไพร่พลม้าศึกโจรโพกผ้าเหลือง ไม่รู้ทันจึงเทกำลังไปทางนั้น แต่ฝ่ายรัฐบาล กลับโจมตีทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งกำลังฝ่ายกบฏเบาบางยกนี้ ฝ่ายกบฏแพ้ หนีไปตั้งหลักที่เมืองเซียวเสีย พร้อมส่งคนมาต่อจูฮี และเตียวเฉียว ผู้นำทัพรัฐบาล ขอยอมจำนน พวกขุนพลรัฐบาลต่างแสดงความยินดี ที่ไม่ต้องรบเหนื่อยแรงต่อไป มีแต่จูฮีคนเดียวที่ไม่เห็นด้วย “อันการศึกนั้น ลักษณ์คล้ายสภาวะต่าง” จูฮีให้เหตุผล “ ก่อนนี้ เซี่ยงหวี่ก่อการ ราษฎรยังไร้เจ้านายที่แน่ชัด จึงใช้นโยบายตกรางวัลแก่ผู้จอมจำนนแต่เวลานี้ แผ่นดินเป็นปึกแผ่น มีแต่กองทัพโจรโพกผ้าเหลืองก่อกบฏ ทำให้แผ่นดินวุ่นวาย นโยบายสนับสนุนให้พวกเขายอมจำนน จึงไม่อาจทำให้พวกเขากลับตัวได้มีแต่จะต้องใช้นโยบายบำราบให้ถึงที่สุด จึงจะกำจัดความวุ่นวายให้หมดไปครั้งนี้ หากเรายอมรับการจำนนของพวกเขา จะทำให้พวกเขา กำเริบเสิบสานมากยิ่งขึ้น วิธีก่อให้กบฏกระทำการตามอำเภอใจเยี่ยงนี้ มิใช่กุศโลบายที่ดี”จูฮีแม้มีเสียงเดียว แต่มีเหตุผลฟังได้ ฝ่ายรัฐบาลจึงโหมกำลังโจมตีเซียวเสีย แต่ตีไม่แตกจูฮีขึ้นบนเนิน ดูสภาวการณ์ในเมือง แล้วบอกเตียวเฉียวว่าคนหมื่นคน จะยอมจำนนก็ไม่ได้ จะหนีก็ไม่มีทางหนี จึงต้องสามัคคีเสี่ยงชีวิตสู้ตาย สู้ใช้วิธีถอนวงล้อม เปิดช่องให้พวกกบฏหนี แล้วเราค่อยโจมตีตามดีกว่าฝ่ายรัฐบาลทำตามนั้น ก็เอาชนะโจรโพกผ้าเหลืองได้โดยง่ายสรุปบทเรียนกลยุทธ์ที่หนึ่ง ของซุนวู ล้อมทัพพึงเปิดช่อง ผ่อนหนักเป็นเบา สรุปกลยุทธ์แบบชาวบ้าน อย่าต้อนสุนัขให้จนตรอก เพราะอาจถูกสุนัขกัดเอา ถ้าเป็นสุนัขบ้า รักษาไม่หายนะเธอ.กิเลน ประลองเชิง