นายมณฑล ภาคสุวรรณ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวตอนหนึ่งในงานสัมมนาหัวข้อ “การแนะแนวเส้นทางการศึกษาสายอาชีพ ในยุคดิจิตอลหลังโควิด-19” จัดโดยวิทยาลัยอาชีวศึกษาสันติราษฎร์ฯ หรือ SIBA หรือ ว่า เด็กในทศวรรษที่ 21 ต้องสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปได้ เพราะว่าคนที่อยู่รอดไม่ใช่คนฉลาดหรือคนเก่งแต่เป็นคนที่ปรับตัวได้ เป้าหมายของการศึกษาตามยุทธศาสตร์ของประเทศต้องการให้เด็กได้รับการศึกษาที่มีมาตรฐานสากล และถ้าเป็นอาชีวะก็จบมามีงานทำ 100% ในเบื้องต้นสถานศึกษาจะต้องปรับตัวแล้วก็วางรากฐานที่มั่นคงให้กับเด็ก ขณะที่การเปลี่ยนแปลงความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัล หรือปัญหาของการะบาดโควิด-19 เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่สิ่งที่เราต้องทำคือ การปรับตัวการนำเทคโนโลยีดิจิทัล หรือระบบ Online มาใช้ในการเรียนการสอน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนการสอน เป็นต้นนายณรงค์ แผ้วพลสง ที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้เกิดวิกฤติของสังคมหลายเรื่อง ทำให้เราเห็นภาวะของคนตกงาน คนเจ็บป่วย ทั้งแง่บวกและแง่ลบ แต่เมื่อหันกลับมามองเรื่องของมิติการศึกษาแล้วในด้านอาชีพนั้น ถือว่ามีความสำคัญต่อสังคม ประเทศชาติเป็นอย่างมาก จะเห็นภาพที่เกิดขึ้นว่ามีลูกหลานเราหลายคนที่จบการศึกษาแต่ก็ยังหางานทำไม่ได้ ขณะที่ลูกหลานเราที่มีงานทำอยู่แล้วก็กลายเป็นคนตกงาน แต่มีกลุ่มงานหนึ่งที่มีระดับทักษะฝีมือนั้นยังคงมีงานทำ แม้ว่าจะเจอวิกฤติอย่างไร ทั้งนี้ การพัฒนาประเทศสู่ความเป็นสากลจำเป็นต้องอาศัยกำลังแรงงานในระดับทักษะฝีมือ หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า “สายอาชีพ” ซึ่งยังขาดแรงงานประเภทนี้อยู่มากดร.เบญจมาภรณ์ คุณะรังษี ผู้อำนวยการ SIBA กล่าวว่า จากการสำรวจอาชีพในอนาคตอีก 5 ปี ข้างหน้ามีอาชีพเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน และเป็นอาชีพยอดนิยมหลังมีการแพร่ระบาดของโควิด คือ 1.“Online Marketing 2.“Application Creator นักพัฒนา แอปพลิเคชัน” 3.“Social Admin ผู้ดูแลโซเชียลมีเดีย” 4.“นักกูรูออนไลน์ หรือ Youtuber” 5.“ผู้ดูแลเครือข่ายระบบคอมพิวเตอร์ หรือ Programmer” 6.“เจ้าของธุรกิจ Start Up” 7.“นักบัญชีที่เชี่ยวชาญเรื่องภาษีอากร” และ 8.“เชฟ” ซึ่งทาง SIBA มีหลักสูตรวิชาชีพที่ทันสมัย ทั้งระดับชั้น ปวช. (3 ปี) และระดับ ปวส. (2 ปี) โดยเลือกดูได้ที่ www.siba.ac.th หรือโทร. 0-2939-3000.