หากคิดว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาใหญ่ในยุคนี้ เราอาจต้องทบทวนความเชื่อใหม่เนื่องจากมีการศึกษาที่น่าสนใจของนักวิจัยของมหาวิทยาลัยโคลอมเบีย ในสหรัฐอเมริกา ได้เปิดเผยเมื่อเร็วๆ นี้ว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาจเป็นสาเหตุที่อยู่เบื้องหลัง ทำให้การอพยพของไดโนเสาร์บางชนิดล่าช้าก่อนหน้านี้มีความเชื่อกันว่าไดโนเสาร์กินพืชน่าจะมาถึงซีกโลกเหนือเป็นเวลาหลายล้านปีหลัง จากไดโนเสาร์ชนิดกินเนื้อ แต่เมื่อใช้วิธีใหม่ในการคำนวณอายุของซากดึกดำบรรพ์หรือฟอสซิลของไดโนเสาร์ เผยให้เห็นว่าไดโนเสาร์กินพืชก็คือซอโรโพโดมอร์ฟ (sauropo-domorphs) มี อายุ 215 ล้านปี ซึ่งไม่ถึง 228 ล้านปีตามที่เคยเชื่อกันมาก่อน สิ่งนี้ได้เปลี่ยนความเชื่อเดิมและชี้ให้เห็นว่าอาจไม่มีตระกูลไดโนเสาร์กินพืชในซีกโลกเหนือที่มีอายุมากกว่า 215 ล้านปี แต่ในทางกลับกันมีการค้นพบซากฟอสซิลไดโนเสาร์ชนิดกินเนื้อย้อนหลังไปอย่างน้อย 220 ล้านปีก่อนนักวิจัยเชื่อว่าไดโนเสาร์ที่กินพืชน่าจะเป็นสัตว์ที่เกิดมาในซีกโลกเหนือ จากการวิจัยมุ่งไปที่ยุคไทรแอสซิกเมื่อเกือบ 230 ล้านปีที่แล้ว ระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นั้นสูงกว่าปัจจุบัน 10 เท่า บรรยากาศร้อนขึ้นโดยไม่มีแผ่นน้ำแข็งที่ขั้วโลกเหนือและใต้ ความแห้งแล้งอาจทำให้พืชที่เป็นอาหารของซอโรโพโดมอร์ฟน้อยลง จึงยากที่ไดโนเสาร์กลุ่มนี้จะอยู่รอดในการเดินทาง ขณะที่ไดโนเสาร์ชนิดกินเนื้อกินแมลงซึ่งมากพอที่จะทำให้มันอยู่รอดได้ ในเวลาต่อมาเมื่อระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลดลงเหลือครึ่งหนึ่งเมื่อเกือบ 215 ล้านปีก่อน พืชพรรณต่างๆก็เริ่มเติบโตในพื้นที่แห้งแล้งเหล่านั้นนำไปสู่การเกิดขึ้นมาของซอโรโพโดมอร์ฟในพื้นที่ดังกล่าว.