วิบากกรรมทางการเมืองของ พรรคการเมืองไทย ที่อยู่ภายใต้แรงกดดันของ ประชาธิปไตยเสียงข้างมาก และรัฐธรรมนูญ เลือกข้าง ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใหญ่ พรรคการเมืองเก่าแก่ ไปจนถึงพรรคการเมืองพรรคเล็กพรรคน้อย ไม่มีโอกาสที่จะอยู่ภายใต้ วิถีประชาธิปไตย ที่สมบูรณ์ นับวันจะถอยหลังลงคลองระหว่าง ไทย กับ เมียนมา ถูกนำมาเป็นบทศึกษาทดสอบของระบอบประชาธิปไตยในภูมิภาคนี้ ระหว่างการพัฒนากับถอยหลัง มีเส้นบางๆของคำว่า ประชาธิปไตย กั้นกลางอยู่เท่านั้นเองยกตัวอย่างของพรรคการเมืองที่เก่าแก่อย่าง ประชาธิปัตย์ เป็นพรรคการเมืองในตำนาน มีแบบอย่างและอุดมการณ์ที่ยึดโยงกับประชาธิปไตยเป็นหลัก แต่พอมาถึงยุคที่การเมือง แพ้ไม่ได้มีการละเมิดกฎของประชาธิปไตย ใช้มือของ กองทัพ เข้ามาเอาแพ้ เอาชนะกันจนในที่สุดพรรคการเมืองและนักการเมืองถูกจับเป็นตัวประกันเสียเองการที่กองทัพ เข้ามาชิงอำนาจโดยตรงเท่ากับเป็น การทำลายรากฐานของประชาธิปไตย ที่ถูกปลูกฝังแนวคิดทางการเมืองและบ้านเมืองอย่างยั่งยืน คือเปลี่ยนแปลงไม่ได้ตลอดไปถ้านักการเมืองไม่ปรับตัวให้ อยู่เป็น ก็จะสูญหายไปจากสารบบทางการเมือง ตั้งแต่การเลือกตั้งใหญ่ การเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มาจนถึงการบริหารงานของพรรคประชาธิปัตย์ทั้งภายนอก และภายในต้องยอมรับความจริงว่าถูกแทรกแซงวันนี้เสาหลักของประชาธิปัตย์ คือ คนรุ่น ชวน หลีกภัย, บัญญัติ บรรทัดฐาน หรือแม้แต่ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคคนปัจจุบันที่ถือว่าเป็นศิษย์ก้นกุฏิ ยังยากที่จะรับมือกับพายุใหญ่ที่กำลังโถมเข้าหาการอภิปรายเที่ยวนี้ จุรินทร์ ในฐานะรองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ โดนเต็มเปา เก็งข้อสอบการอภิปรายไม่ไว้วางใจ น่าจะเป็นปมทุจริตจากข้อกล่าวหากรณี การทุจริตกักตุนหน้ากากอนามัย และ เรื่องการจัดซื้อถุงมือยาง แม้แต่เจ้าตัวจะยืนยันความบริสุทธิ์ในการปฏิบัติหน้าที่อย่างไรก็ตามแต่ข้อมูลที่อยู่ในมือฝ่ายค้านดูคุ้นๆชอบกลหรือกรณีที่ นิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ถูกจองกฐิน การอนุมัติโครงการ นิคมอุตสาหกรรมท่าจะนะ จ.สงขลา ในฐานะที่ นิพนธ์ เคยเป็นผู้บริหารการเมืองท้องถิ่น ทั้งที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการคิดนโยบายหรืออนุมัติโครงการก็ตาม เรื่องนี้เกี่ยวข้องไปถึงการแก้กฎระเบียบ เรื่องของความมั่นคงในภาคใต้ เรื่องของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและนักธุรกิจคนดังบางคนแต่ นิพนธ์ เป็นแกนนำคนสำคัญใน จ.สงขลา ที่เผอิญมีปัญหากับการเมืองในพื้นที่กับคนกันเอง ก็เลยต้องรับหน้าเสื่อชิ้นนี้ไปชี้เป้าว่าการอภิปรายครั้งนี้ เป็นการเริ่มต้นของการล้างบางและชิงอำนาจทางการเมืองของแท้ว่ากันว่า มีหลักฐาน และ ใบเสร็จ ส่งตรงไปถึง ฝ่ายค้าน เป็นเรื่องราวไม่ชอบมาพากลใน กระทรวงคมนาคม ที่จะเอาผิดได้ทั้ง อาญา และ ถูกร้องถอดถอนออกจากตำแหน่ง บทสรุปของเรื่องราวทั้งหมดเป็นการชักน้ำเข้าลึกชักศึกเข้าบ้านของคนในทั้งสิ้น.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.th