วันเสาร์และอาทิตย์ที่ผ่านมา นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ประธานวิปรัฐบาล ซึ่งมีคดีทุจริตก่อสร้างสนามฟุตซอลที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดไปแล้ว จัดสัมมนาติวเข้ม 10 รัฐมนตรีที่ถูกฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีผู้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจไปติวกันถ้วนหน้า รวมทั้ง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีมหาดไทย ยกเว้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ไปร่วมติวด้วย อาจารย์พิเศษในคอร์สนี้มี ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกฯฝ่ายกฎหมาย ไปเป็นติวเตอร์ด้วยผมอ่านข่าวแล้วก็ สงสารประเทศไทย น่าจะเป็น ประเทศเดียวในโลก ที่ฝ่ายรัฐบาลต้อง จัดคอร์สติวเข้มรัฐมนตรี และ เก็งข้อสอบฝ่ายค้าน ในการรับมืออภิปรายไม่ไว้วางใจความจริง ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ของ พรรคฝ่ายค้าน ก็ได้บรรยายถึงพฤติกรรมและเรื่องที่จะอภิปรายไว้ชัดเจนทุกคน เช่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหม เขียนไว้ยาวที่สุดว่า “บริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว ผิดพลาดบกพร่องอย่างร้ายแรง ไร้ประสิทธิภาพ ไร้ภูมิปัญญา ไร้ความสามารถ ไร้คุณธรรม จริยธรรม ไร้ภาวะผู้นำ ไร้จิตสำนึกและความรับผิดชอบ มีพฤติการณ์ฉ้อฉล ทุจริต ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตเพื่อสร้างความรํ่ารวยมั่งคั่งให้กับตนเองและพวกพ้อง ท่ามกลางภาวะที่ประชาชนดำรงชีวิตอย่างยากลำบาก และมีการระบาดของโรคโควิด-19 ยิ่งทำให้สภาพเศรษฐกิจดิ่งเหว...การบริหารราชการแผ่นดินของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศทั้งระบบเศรษฐกิจ สังคม และกระบวนการยุติธรรมอย่างร้าย”ส่วนข้อกล่าวหาที่มีต่อ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายค้านก็เขียนไว้ว่า “ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล ใช้งบประมาณของรัฐเพื่อสร้างความรํ่ารวยมั่งคั่งให้กับตนเอง ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จงใจปฏิบัติหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์...”ข้อกล่าวหาของฝ่ายค้าน เขียนไว้รุนแรงมาก อ่านแล้วไม่เผาผีกันเลย แต่ไม่ระบุเรื่องหนึ่งเรื่องใดชัดเจน ทำให้รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต่างร้อนๆหนาวๆเก็งข้อสอบตัวเอง จะถูกอภิปรายเรื่องอะไร ผมก็สงสัยเหมือนกัน การติวเข้มรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจจะมีการเก็งข้อสอบรัฐมนตรีแต่ละคนในห้องติวหรือไม่ ถ้าไม่เก็งข้อสอบแล้วจะติวคำตอบกันได้ยังไง จริงไหม? ข้อกล่าวหารุนแรงแบบนี้ ต้องเก็งเรื่องร้ายที่สุดไว้ก่อน บางคนก็พยายามหาทางแก้ล่วงหน้า เพื่อไม่ให้ถูกอภิปรายในประเด็นที่ไม่อยากให้อภิปราย?การอภิปรายไม่ไว้วางใจ 10 รัฐมนตรีครั้งนี้ มีคนกังขาฝ่ายค้านเหมือนกัน กลัวจะเป็น “มวยล้มต้มคนดู” เหมือนครั้งที่แล้วหรือไม่ จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่สมศักดิ์ศรีหรือไม่ จะมีข้อมูลเด็ด 10 รัฐมนตรีจริงหรือไม่ หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วจะมีรัฐมนตรีถูกสอบสวนดำเนินคดีอย่างที่คุยหรือไม่ เป็นเรื่องที่ ฝ่ายค้านต้องไปติวเข้มพรรคฝ่ายค้านเหมือนกัน ไม่ใช่เอาข่าวหนังสือพิมพ์มาอภิปรายให้ประชาชนร้องยี้อีกเมื่อไปดู ข้อตกลง ที่ วิปฝ่ายค้าน ไปตกลงกับ วิปรัฐบาล แล้ว โอกาสที่จะเป็น “มวยล้มต้มคนดู” อีกครั้งก็เป็นไปได้สูง การอภิปรายไม่ไว้วางใจ 10 รัฐมนตรี 4 วัน 16–19 กุมภาพันธ์ และลงมติไม่ไว้วางใจวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ฝ่ายค้านได้เวลาอภิปราย 42 ชั่วโมง มีผู้อภิปราย 38 คน หลายคนก็เป็นขาประจำแล้ว นํ้าท่วมทุ่งไร้สาระ แถมพูดไม่น่าฟังอีกต่างหากก็หวังว่าการอภิปรายครั้งนี้ ฝ่ายค้านจะไม่เป็น “ฝ่ายค้านที่ล้มเหลว” เช่นเดียวกับการกล่าวหา “รัฐบาลที่ล้มเหลว” ไม่งั้น การเมืองที่ล้มเหลว จะนำพาให้ประเทศล้มเหลวไปด้วย.“ลม เปลี่ยนทิศ”