กราบเรียนท่านผู้อ่านไว้ตั้งแต่เสาร์ที่แล้ว...แล้วนะครับว่า เราจะหยุดพักรายการ “เสาร์สารพัน” ชวนเที่ยวนั่นเที่ยวนี่ในทุกๆวันเสาร์เอาไว้ชั่วขณะ เพื่อให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการใช้นโยบาย “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ในการต่อสู้กับโควิด-19 ที่กลับมาระบาดรอบสองโดยจะเปลี่ยนเขียนเรื่องเบาๆอ่านสบายๆแทนสักพักหนึ่งให้เข้ากับบรรยากาศวันเสาร์ซึ่งไม่ควรจะเขียนเรื่องที่เคร่งเครียด หรืออ่านแล้วหนักสมองเกินเหตุ เพราะเป็นวันแห่งการพักผ่อนเสาร์ที่แล้วเราเริ่มกันด้วยเรื่องราวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับเหตุการณ์จลาจลที่รัฐสภาสหรัฐฯ ซึ่งนอกจากจะไม่ใช่เรื่องเบาแล้ว ยังค่อนหนักมากเอาเสียด้วยแต่จะทำอย่างไรได้ เมื่อเป็นเหตุการณ์สำคัญของโลก ที่ควรแก่การบันทึกไว้ว่า ประเทศต้นแบบประชาธิปไตย กลายเป็น “อนาธิปไตย” ไปได้ถึงขนาดนี้แล้วนะ ก็เลยต้องเขียนถึงอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงมาเสาร์นี้ก็ปรากฏว่า ตรงกับวันสำคัญวันหนึ่งของประเทศไทยเราเข้าพอดี...16 มกราคม 2564 เป็น “วันครู” หรือบางครั้งก็เรียกกันว่า “วันครูแห่งชาติ” นั่นแหละครับคงไม่ต้องกล่าวย้ำนะครับว่าคนไทยและรัฐบาลไทยให้ความสำคัญแก่ “วันครู” แค่ไหน เพราะในอดีตที่ผ่านมา เคยมีผู้เสนอให้วันที่ 16 มกราคม เป็นวันสำคัญอย่างอื่นควบคู่ไปด้วย ครม.ยังไม่ยอมเลยนั่นก็คือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เคยเสนอให้วันที่ 16 มกราคมของทุกๆปี เป็นวันโคนมแห่งชาติ ด้วย เพราะเป็นวันถือกำเนิดของกิจการการเลี้ยงโคนมในประเทศไทย เมื่อวันที่ 16 มกราคมปี 2505ครม.พิจารณาแล้วมีมติขอให้ใช้วันที่ 17 มกราคม เป็นวันโคนมแห่งชาติแทน เพราะเรามีวันที่ 16 มกราคม เป็น “วันครู” อยู่ก่อนแล้วกิจกรรมประการที่สองที่ต้องหลีกทางให้แก่ “วันครู” ก็คือ “วันออกหวย” นั่นเองครับ เพราะโดยปกติแล้วทุกๆวันที่ 1 ของทุกเดือนกับวันที่ 16 ของทุกเดือนจะเป็นวัน “ออกหวยแห่งชาติ”ยกเว้นเดือนมกราคมเพียงเดือนเดียวเท่านั้น ที่วันออกหวยแห่งชาติ งวดที่ 2 ของเดือนจะไม่ใช่วันที่ 16 มกราคม...และจะเลื่อนไป 1 วันคือ 17 มกราคมเช่นกัน เพื่อให้เกียรติแก่ “วันครู”เห็นหรือยังล่ะครับว่า คนไทยเราให้ความเคารพแก่คุณครูมากแค่ไหน ถึงขนาดยอมหลีกเลี่ยงไม่จัดกิจกรรมบางอย่างวันเดียวกับคุณครูเรื่องที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่งที่มีการพูดถึงกันอยู่เสมอได้แก่ “คำขวัญวันครู” ซึ่งหนังสือพิมพ์จะนำไปพาดหัวข่าวอยู่เสมอในอดีตดังที่เราทราบแล้วว่า “วันครู” ถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อ 16 มกราคม ปี 2500 จากความคิดริเริ่มของจอมพล ป.พิบูลสงคราม เมื่อ 63 ปีที่แล้ว แต่สำหรับ “คำขวัญวันครู” นั้นเท่าที่ค้นได้ เริ่มขึ้นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2522 หรือเมื่อ 42 ปีที่แล้วนี่เอง โดยผู้มอบคำขวัญแก่ครูจะได้แก่ ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการใน พ.ศ.ดังกล่าวจากนั้นก็เป็นประเพณีให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้มอบคำขวัญให้แก่คุณครูต่างๆติดต่อกันมาจนถึงปี 2543ได้มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ให้มีการประกวดแต่งคำขวัญวันครูขึ้นมาแทนแล้วก็นำคำขวัญชนะเลิศมาเป็นคำขวัญวันครูของปีนั้นๆเริ่มตั้งแต่ปี 2544 มาจนถึงปี 2558 ซึ่งผู้ชนะเลิศปีสุดท้ายได้แก่ เด็กหญิง อนุสรา ชื่นบาล ซึ่งแต่งคำขวัญวันครูของปีดังกล่าว ไว้ว่า “เกียรติครูยิ่งใหญ่ น้อมใจบูชา เลิศล้ำคุณค่า ศรัทธาพระคุณ”หลังจากนั้นปี 2559 ท่านนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันรับตำแหน่งมาเกือบ 2 ปี ให้ความสำคัญแก่คุณครูอย่างมาก จึงตัดสินใจเป็นผู้มอบคำขวัญวันครูด้วยตัวท่านเองมานับตั้งแต่นั้นคำขวัญล่าสุดของท่านทันสมัยมากได้แก่ “ครูวิถีใหม่ ใส่ใจดิจิทัล สร้างสรรค์คุณธรรมประจำชาติ” เป็นข่าวมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วในนามของคนไทยคนหนึ่งที่สำนึกในพระคุณของคุณครูเป็นอย่างยิ่ง...ผมขอกราบขอบพระคุณคุณครูของผมทุกท่านในอดีตและขอให้กำลังใจแก่คุณครูทั่วประเทศทุกๆท่านในปัจจุบันขอให้ปฏิบัติตามคำขวัญของท่านนายกฯอย่างเคร่งครัดนะครับ ย้ำอีกทีว่า ถ้าหาก...“ครูวิถีใหม่ ใส่ใจดิจิทัล สร้างสรรค์คุณธรรมประจำชาติ” ละก็ประเทศไทยอยู่รอดและไปโลดแน่นอนครับคุณครู.“ซูม”