บางประเทศเริ่มใช้วัคซีนป้องกันโควิดกันแล้ว ไทยยังต้องรอถึงกลางปีหน้า และกว่าจะคุมได้ผลอย่างแท้จริงก็คงอีกเกือบ 2 ปี ระหว่างที่รอโควิดยุติอยู่นี้ ระบบเศรษฐกิจฐานรากของเราพังเกือบหมดแล้ว คนว่างงานเยอะมาก อยู่เมืองใหญ่ค่าครองชีพสูงไม่ได้ พอกลับไปอยู่ชนบทก็หนีไม่พ้นต้องทำการเกษตร แต่พอไม่มี “น้ำ” ก็ทำการเกษตรไม่ได้ประเทศไทยมีพื้นที่ทำเกษตรกรรม 130 ล้านไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ในเขตชลประทาน 30 ล้านไร่ คิดเป็นสัดส่วน 23% ส่วนอีก 100 ล้านไร่ หรือ 77% อยู่นอกเขตชลประทาน ทำนาได้เฉพาะฤดูฝน 5 เดือน พอเข้าแล้ง 7 เดือนก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว สิ่งสำคัญที่รัฐบาลควรเร่งช่วยชาวบ้านคือจัดหาแหล่งน้ำ เพราะถ้าไม่มีน้ำก็ไม่มีอาชีพผมเคยแลกเปลี่ยนความเห็นกับ คุณอภิชาติ โตดิลกเวชช์ รองประธานคณะกรรมาธิการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา ได้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า ความต้องการน้ำเพื่อการเกษตรของไทยอยู่ที่ 113,960 ล้าน ลบ.ม. ขณะที่แหล่งน้ำทั้งประเทศมีความจุเต็มที่เพียง 83,440 ล้าน ลบ.ม. ยังขาดแคลนน้ำอีก 30,520 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งตามแผนแม่บท (2560-2580) ของ สำนักงาน ทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) วางแผนจะพัฒนาแหล่งเก็บน้ำได้ 13,439 ล้าน ลบ.ม. จัดหาน้ำในพื้นที่เกษตร (น้ำฝน) ได้ 13,860 ล้าน ลบ.ม. พัฒนาระบบผันและเชื่อมโยงน้ำ 2,596 ล้าน ลบ.ม. รวมทั้งหมดเสร็จตามแผนในปี 2580 จะได้น้ำเพิ่มมาอีก 29,895 ล้าน ลบ.ม. เกือบเท่า กับปริมาณน้ำที่ขาดแคลนแหล่งน้ำทั้งประเทศมีความจุ 83,440 ล้าน ลบ.ม. แบ่งเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่และกลาง 697 แห่ง ความจุ 78,097 ล้าน ลบ.ม. หรือประมาณ 93% ส่วนแหล่งน้ำขนาดเล็ก (ความจุต่ำกว่า 2 ล้าน ลบ.ม.) มี 142,234 แห่ง ความจุเพียง 5,343 ล้าน ลบ.ม. หรือ 7% เท่านั้น เป็นสัดส่วนที่น้อยมาก ทั้งที่แหล่งน้ำขนาดเล็กนั้นเกษตรกรใช้น้ำได้โดยตรง และกระจายอยู่ทั่วตามพื้นที่ต่างๆเมื่อปี 2544 กรมชลประทานทยอยโอนมอบภารกิจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดูแลแหล่งเก็บน้ำขนาดเล็ก ผ่านมาเกือบ 20 ปีแหล่งน้ำเหล่านี้เกิดความชำรุดเสียหายถึง 141,000 แห่ง และไม่ได้รับการซ่อมบำรุง จะหวังพึ่ง อบต.ก็ยาก เพราะ อบต.ส่วนใหญ่มีงบฯเฉลี่ยปีละ 12 ล้านบาท หักเงินเดือนกับค่าครุภัณฑ์ดำเนินงาน ก็เหลือเป็นงบลงทุนแค่ 2 ล้านบาท เอาไปซ่อมสร้างถนนก็แทบไม่พออยู่แล้วส.ว.อภิชาติเสนอว่า รัฐบาลน่าจะเปลี่ยนมุมมองใหม่ จากที่ทุ่มงบฯไปกับแหล่งน้ำขนาดใหญ่และกลาง ควรหันให้ความสำคัญกับแหล่งน้ำขนาดเล็ก สร้างและบำรุงรักษาให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด กระจายไปให้เข้าถึงชุมชนให้มากที่สุด ชาวบ้านไม่ได้ต้องการน้ำมาก แค่ต้องการเป็นหย่อมๆ แต่ว่าทั่วถึงผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง เคยเขียนเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งซ่อมแอ่งเก็บน้ำขนาดเล็กก่อนจะถึงหน้าแล้ง ก็ยังไม่เห็นมีความคืบหน้าอะไร งบปกติในปี 64 ลงไปที่แหล่งน้ำขนาดเล็กขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่ถึง 4,500 ล้านบาท แม้แต่เงินกู้เยียวยาโควิด 4 แสนล้านบาท องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเสนอโครงการทำแหล่งน้ำขนาดเล็กมากว่า 9 พันโครงการ แต่เชื่อไหมครับว่า ได้รับอนุมัติในชั้นต้นแค่ 8 โครงการ ให้มาแค่นี้ไม่เพียงพอต่อความอยู่รอดของชาวบ้านในชนบทหรอกช่วงหยุดปีใหม่นี้ขอฝากนายกฯบิ๊กตู่เอาข้อมูลเหล่านี้ไปพิจารณาด้วยครับ แอ่งน้ำขนาดเล็กใช้งบน้อย สร้างเสร็จเร็ว ช่วยคนฐานรากได้มากหลายครับ.ลมกรด