ถ้าย้อนไปสักร้อยปี เอาคดีครูจุ๋ม ผู้ช่วยครูโรงเรียนสารสาสน์ ตีเด็กอนุบาล ถูกจับขึ้นโรงพัก ข้อหาทำร้ายร่างกาย ไปเล่าสู่กันฟัง คงไม่มีใครเชื่อ คนไทยโบราณนับถือครูมาก ไม้เรียวของครู ถือกันว่าเป็นไม้ศักดิ์สิทธิ์ สร้างเด็กให้เติบโตเป็นเจ้าคนนายคน ลำดับความสัมพันธ์ของครูอยู่สูงมาก ลองอ่านโคลงโลกนิติบทต่อไปนี้ “คุณแม่หนาหนักเพี้ยง พสุธา คุณบิดรดุจอากาศกว้าง คุณพี่พ่างศิขรา เมรุมาศ คุณพระอาจารย์อ้าง อาจ สู้สาคร”คุณของครู ตามขนบโบราณนั้นเปรียบได้กับผืนน้ำ ระดับเดียวกับคุณแม่ คุณพ่อ และพี่เอาทีเดียวการสอนที่จะให้ศิษย์ได้ดี เรื่องการตี จึงถือเป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องน่ายกย่อง โคลงโบราณอีกบทเปรียบเปรยไว้ “ช่างหม้อตีหม้อใช่ ตีฉาน แตกนา ตีเพื่อเอางามงาน ชอบใช้ ดุจศิษย์กับอาจารย์ ตีเพื่อสอนแฮตีใช่จักตีให้ สู่ห้วงอบาย”ถ้าอยากได้หม้อใบสวย ช่างหม้อก็ต้องลงแรงตี เหมือนครูตีเด็ก ก็เพื่อไม่ให้เด็กโตไปเป็นโจรผมมีประสบการณ์ตรงที่อยากถ่ายทอดต่อ...ตอนที่มีลูกก็ไปหาตำรามาอ่าน เล่มแรก ก่อนจะถึงอนุบาล ก็สายเสียแล้ว เล่มที่สอง โรคแม่ทำ จะเป็นเล่มเดียวกับ “พ่อแม่รังแกฉัน” หรือเปล่าไม่แน่ใจเนื้อหาจำได้ว่า เด็กจะแสดงปาฏิหาริย์ สั่งโรค...โรคหวัด โรคหอบ โรคลมชัก โรคเลือดกำเดาไหล โรคอ้วก ฯลฯ โรคอะไรก็ได้ ถ้าหากโรคนั้นเป็นขึ้นแล้ว พ่อแม่ยอมทำตามใจทุกอย่างปัญหาของผม เจ้าตัวเล็กจะอ้วกทุกครั้งที่ถูกขัดใจ แรกๆ ก็คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่ยิ่งนานๆไป โรคอ้วกก็ยิ่งกำเริบ เข้าอนุบาลโรงพยาบาลพระมงกุฎฯ ไม่กี่วันครูโทร.มาว่า เจ้าตัวเล็กอ้วกเอาๆ จนครูรับมือไม่ไหว ขอให้คุณพ่อไปรับกลับบ้านต้นเหตุ มีน้องใหม่เข้ามาเรียนวันแรก เอาแต่ร้องไห้ๆ เธอก็มีน้ำใจเข้าไปปลอบ เจอเขาผลักโครมเดียว หงายท้องตึง... ที่อ้วกเอาๆ ก็คงเสียใจวันหนึ่งดื้อมาก พี่เลี้ยงงอนเข้าห้องชั้นบนปิดประตู ไอ้ตัวเล็กก็อ้วกบนพื้นบ้านชั้นล่าง บนบันได หน้าห้องน้ำ จนถึงประตูห้องพี่เลี้ยง ผมกลับถึงบ้าน เจออ้วกเต็มบ้าน ก็ตกใจเปิดตำรา หาวิธีแก้..ตำราเขาว่า เด็กดี เสริมด้วยเงื่อนไขเชิงบวก ชมเชยให้รางวัล แต่ถ้ามีปัญหา ต้องดัดนิสัย ด้วยเงื่อนไขเชิงลบใช่เลย...ทุกครั้งเธออ้วก คุณแม่ก็จะเข้ามาลูบหน้าลูบหลัง พาเข้าห้องน้ำ นี่เท่ากับใช้เงื่อนไขเชิงบวก เสริมให้ออกฤทธิ์อ้วกยิ่งขึ้นแล้วก็ถึงวันนั้น...ทันทีที่เธออ้วก...ผมก็อาละวาด คว้าไม้ท่อนใหญ่ทุบเปรี้ยง สั่งห้ามแม่พี่เลี้ยงเข้าไปโอ๋ บ้านทั้งบ้านเงียบกริบ คุณเธอเจอไม้นี้ ก็นั่งอึ้งจมอยู่กับกองอ้วกราว 45 นาที นานทีเดียว ผมก็ยอมให้พาเธอเข้าห้องน้ำไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ นับแต่วันนั้น โรคอ้วกก็หายขาดไปเลยย้อนไปเรื่องครูตีเด็กอนุบาลโรงเรียนสารสาสน์ จนวันนี้ ผมยังไม่ได้ยินใครกล้าพูดถึงข้อดีของการตีเพื่อสั่งสอนเด็ก กระแสเด็กเป็นศูนย์กลาง แตะต้องไม่ได้ กลบความเป็นจริงอีกด้านความจริงด้านที่ลึกซึ้งละเอียดอ่อน ความจริงด้านควรทำความเข้าใจให้มากๆหรือใครคิดว่า เด็กที่กล้าก่อการใหญ่ระดับชิงเมือง ล้วนเป็นเด็กที่โตมาในกระแสไม่เคยเจอไม้เรียว ถือเป็นข้อดีที่ควรส่งเสริมต่อไป ถ้ายังอดทนและเมตตากันได้ ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน.กิเลน ประลองเชิง