กรรมการมหาเถรฯแฉพฤติกรรมเจ้าคุณรุ่นหนุ่ม ประพฤติตนไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ไม่เคารพอาวุโสใช้ยศพระหรือสมณศักดิ์ที่เหนือกว่า บังคับอุปัชฌาย์ ครูบาอาจารย์ ให้มากราบ ผิดพระธรรมวินัย เป็นทั้งพระบ้านพระป่า กำลังระบาดในหลายจังหวัดพฤติกรรมพระรุ่นหนุ่มที่ไม่เหมาะสมรายนี้ เปิดเผยเมื่อวันที่ 16 ต.ค. พระธรรมกิตติเมธี (เกษม สญฺญโต ป.ธ.9) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชาธิวาส กรรมการ มหาเถรสมาคม หรือ มส.และเจ้าคณะภาค 16-17-18 (ธรรมยุต) กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับเรื่องร้องเรียนจากพระผู้ใหญ่หลายรูป หลายจังหวัด ถึงพฤติกรรมของพระหนุ่มที่มียศพระหรือสมณศักดิ์ว่าประพฤติตนไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ไม่แสดงความเคารพกับพระผู้ใหญ่ที่เป็นครูบาอาจารย์ หรืออุปัชฌาย์ที่บวชเรียนให้ ถือว่าผิดพระธรรมวินัยพระธรรมกิตติเมธีกล่าวอีกว่า ในงานวัดหรืองานของญาติโยมหลายครั้ง พระที่มีอาวุโสน้อย แต่ถือว่าตัวเองมียศพระหรือสมณศักดิ์เหนือพระผู้ใหญ่หรือครูบาอาจารย์ จะชอบไปนั่งแสดงตนข้างหน้า ประเพณีแล้วพระที่นั่งหน้าทำหน้าที่ประธานสวดมนต์ ควรเป็นพระผู้ใหญ่ ที่ถืออาวุโสเป็นหลัก ไม่ใช่ถือเอายศพระหรือสมณศักดิ์เป็นหลัก ยกเว้นในพระราชพิธี ที่จะต้องนั่งตามสมณศักดิ์ เนื่องจากเป็นเรื่องของพระราชศรัทธา คือ สมเด็จ รองสมเด็จ พระราชาคณะชั้นธรรม ชั้นเทพ ชั้นราช ชั้นสามัญ เป็นต้น แต่ในชีวิตจริงที่วัดในพระพุทธศาสนาสืบทอดกันมา คือการเคารพอาวุโสกรรมการมหาเถรฯกล่าวต่อว่า ที่ทราบมาในหลายจังหวัด เจ้าอาวาสมีความทุกข์ใจมาก วัดแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เจ้าอาวาสบวชให้เจ้าคณะปกครองในจังหวัดนั้น ตั้งแต่เป็นสามเณรแล้วให้เรียนบาลี เรียนปริยัติ จนจบขั้นสูงในจังหวัด จากนั้นส่งไปเรียนต่อในกรุงเทพฯ กลับมาได้เป็นเจ้าคุณหรือพระราชาคณะ ในจังหวัดที่เคยบวชเรียน แล้วบังคับให้เจ้าอาวาสซึ่งเป็นพระครู แต่เป็นทั้งอุปัชฌาย์ เป็นทั้งพ่อแม่ครูบาอาจารย์มากราบ พอมีพระไปทักท้วง ก็บอกว่าต้องเคารพตามชั้นยศ แต่เจ้าอาวาส ไม่ยอมกราบ แล้วลาออกจากตำแหน่งปกครองในจังหวัด มาเป็นเจ้าอาวาสอย่างเดียว แบบนี้มีหลายวัด หรือในวัดหลายแห่ง ลูกวัดได้เป็นเจ้าคุณ มีชั้นยศเหนือเจ้าอาวาส ก็นำพัดยศเดินร่อนโชว์เจ้าอาวาส เพื่อกดดันว่าได้ชั้นยศสูงกว่า ต้องได้เป็นเจ้าอาวาส เป็นต้น“พฤติกรรมไม่เคารพ ไม่เอื้อเฟื้อครูบาอาจารย์ อุปัชฌาย์ เป็นทั้งพระบ้าน พระป่า กำลังระบาดไปทั่ว ต้องเร่งแก้ไข โดยจะนำเรื่องดังกล่าวหารือในที่ประชุมมหาเถรฯต่อไป” พระธรรมกิตติเมธีกล่าว
