ผมดูจากช่องยูทูบ รายการสนธิทอล์ค คุณสนธิ ลิ้มทองกุล เล่าถึงเจ้าสัวเฉลียว อยู่วิทยา ว่าเคยเจอในวัดหลวงตามหาบัว เจ้าสัวสวมเสื้อป่านคอกลม ท่วงท่าสบายๆ กวาดลานวัดตอนต้มยำกุ้งระหว่างงานผ้าป่าช่วยชาติ เจ้าสัวออกปากช่วยหลวงตาเต็มที่ แต่หลวงตาตั้งใจให้เป็นผ้าป่าสามัคคี เจ้าสัวจึงถวายเงินสร้างกำแพงวัดยาวแสนยาวแทนเรื่องที่คุณสนธิเล่า เจ้าสัวกระทิงแดง ซึ่งตอนนี้ล่วงลับไปแล้ว และคนในครอบครัวเป็นคนใจบุญจึงไม่แปลกที่ระหว่างคดีขับรถชนคนตาย คุณสนธิได้ข่าวหลานชายเจ้าสัว อยู่ในพิธี “ตัดลูกนิมิต” โบสถ์หลังใหม่ในวัดที่ครอบครัวนี้ศรัทธาสร้างขึ้นการสร้างวัด สร้างโบสถ์วิหาร ศาลาการเปรียญ ถือเป็นงานบุญใหญ่ พิธีตัดลูกนิมิต ถ้าเปรียบก็เป็นบุญน้อยนิด ผู้ตัดต้องการเคล็ดจากบุญนี้ “ตัดเวรตัดกรรม” โดยเฉพาะคดีความที่กำลังผจญเรื่องพิธีตัดลูกนิมิต ตัดเวรตัดกรรม ที่คุณสนธิเล่า ทำให้ผมนึกถึง เรื่องหนึ่งในหนังสือชุดทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ของ ท.เลียงพิบูลย์ ที่คนรุ่นเก่ารู้จักกันดีเรื่องเล่าเรื่องนี้เกิดขึ้นตอนญี่ปุ่นยึดไทย...ขอโทษ ถ้าจะพูดเป็นทางการ ยืมประเทศไทยเป็นทางผ่านบุกพม่าเมื่อไทยยอมเป็นฝ่ายอักษะ ที่ทำสงครามกับฝ่ายสัมพันธมิตร กรุงเทพฯจึงเป็นเป้าทิ้งระเบิดจากเครื่องบินสัมพันธมิตร คนมีช่องทาง ก็อพยพหนีไปต่างจังหวัด คนใจสู้ คนที่ไม่มีทางไปก็ต้องอยู่ในบรรยากาศ ที่ท่านผู้นำ จอมพล ป.พิบูลสงคราม รณรงค์ให้คนไทยศิวิไลซ์ เริ่มแต่คนกินหมากต้องเลิกกินหมาก เจอหน้ากันต้องใช้คำสวัสดี ฯลฯ ไปไหนมาไหนต้องใส่รองเท้า ต้องใส่หมวกใส่หมวก เหมือนตอนนี้เราต้องใส่หน้ากากตอนออกจากบ้านนี่แหละตัว “ข้าพเจ้า” เจ้าของเรื่อง เพื่อนชวนไปดูหมอ เล่าลือกันว่า พระท่านดูแม่นมากพระทำนายโชคชะตาสองเพื่อนแล้ว ถึงคิวข้าพเจ้า...ท่านทำนายแบบฟันธง บอกวันขึ้นแรม...เพียงแต่ไม่บอกเวลาว่า ชะตาจะขาด ข้าพเจ้าไม่มีพื้นความเชื่อเรื่องหมอดู จึงไม่เชื่อ ไม่ตกใจราวเดือนสองเดือน เพื่อนสองคนบอก ทุกเรื่องที่พระท่านดูแม่นมากๆ เตือนข้าพเจ้าให้ “เชื่อไว้บ้าง” และควรไปหาพระหมอดูรูปนั้น หาคำแนะนำอีกครั้งข้าพเจ้าเริ่มคล้อยตาม ไปถามก็ได้คำแนะนำ พยายามทำบุญทำกุศลเอาไว้นับแต่วันที่พระหมอดูแนะ ข้าพเจ้าเริ่มหมั่นเข้าวัดฟังธรรม มีอะไรที่เห็นว่าช่วยได้ก็ช่วยจนถึงหัวค่ำคืนนั้น คืนเดือนหงาย ข้าพเจ้าเดินอยู่ในย่านจอแจ... ทันทีก็มีเสียงหวอ...เสียงนี้คือสัญญาเตือนว่า เครื่องบินทิ้งระเบิดกำลังมา ทุกคนในละแวกนั้นวิ่งเข้าหาหลุมหลบภัยข้าพเจ้ากำลังหนุ่มแน่น วิ่งตะบึง อีกไม่กี่ก้าวก็ถึงปากหลุมหลบภัย...แต่ก็ต้องชะงัก เด็กผู้หญิงคนหนึ่งคงถูกคนที่มาด้วยกันตกใจทิ้ง วิ่งเข้าหลุมหลบภัยไปแล้ว นั่งร้องไห้กับพื้นข้าพเจ้าเปลี่ยนที่หมาย วิ่งเข้าไปก้มลงอุ้มเด็กหญิงคนนั้น...ทันทีที่เสียงระเบิดตูมสนั่น ฝุ่นควันคลุ้งไม่เห็นใครเป็นใคร พอฝุ่นจาง ข้าพเจ้ากับเด็กผู้หญิงปลอดภัย เพียงแต่หมวกบนศีรษะปลิวหายไปข้าพเจ้ารู้ว่าถ้าไม่ก้มลงไปอุ้มเด็ก ก็คงตายไปแล้วนึกได้ทีหลัง วันที่รอดชีวิตเป็นวันที่พระหมอดูทำนาย...ผลบุญช่วยต่อชีวิตได้จริง ข้าพเจ้าไม่สงสัยอีกต่อไปเลยส่วนเรื่องผลกรรม พิธีตัดลูกนิมิตจะช่วยตัดกรรมได้หรือไม่ เรื่องที่รู้กันวันนี้...ไม่ ผู้รู้การเมืองอธิบายอำนาจแห่งกรรม เศรษฐกิจก็แย่ การเมืองก็เลว กระบวนการความเป็นธรรมก็ซ้ำนี่คือกระแสคลื่นใหญ่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสำคัญของบ้านเมือง.กิเลน ประลองเชิง