ความสัมพันธ์ระหว่าง “อังกฤษ” กับ “จีน” กำลังอยู่ในช่วงเลวร้ายสุดๆ ต่างจาก 5 ปีก่อนลิบลับ!เมื่อปี 2558 นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน แห่งยูเค ปูพรมแดงต้อนรับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนอย่างยิ่งใหญ่ มีการจัดขบวนรถม้าทองคำไปต้อนรับ ทั้งคู่ยังไปนั่งดื่มเบียร์ด้วยกันในผับ สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ก็จัดงานเลี้ยงอาหารค่ำสี จิ้นผิง ในพระราชวังบั๊กกิ้งแฮมทั้งสองฝ่ายยังบรรลุข้อตกลงความร่วมมือด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ ลงนามข้อตกลงด้านการค้าการลงทุนหลายฉบับมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ คาเมรอนถึงกับบอกว่าเป็น “ยุคทอง” ของความสัมพันธ์แต่จากนั้นความสัมพันธ์ก็แย่ลง โดยเฉพาะยุคนี้ที่บอริส จอห์นสัน เป็นนายกฯ เพราะนักการเมืองพรรครัฐบาลอนุรักษนิยมจำนวนมากมองจีนอย่างหวาดระแวง เนื่องจากไม่พอใจพฤติกรรมต่างๆของจีนไล่ตั้งแต่กรณีที่จีนเร่งแผ่อิทธิพลทางทหารในทะเลจีนใต้ ถูกกล่าวหาละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวมุสลิมอุยกูร์ที่มณฑลซินเจียง ยิ่งหลังเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งมีต้นตอจากจีน ทั้งสหรัฐฯ อังกฤษ และชาติพันธมิตรรุมกล่าวหาว่าจีนปกปิดข้อมูลและรับมือโควิด-19 ไม่โปร่งใส ทำให้ระบาดใหญ่ไปทั่วโลกจนควบคุมไม่ได้ความสัมพันธ์มาถึงจุดแตกหักเมื่อจีนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ใน “ฮ่องกง” เมื่อ 30 มิ.ย. ซึ่งอังกฤษชี้ว่าจีนละเมิด “ปฏิญญาร่วมจีน-อังกฤษ” ที่ระบุว่าจีนจะให้เสรีภาพและสิทธิปกครองตนเองในระดับสูงกับฮ่องกงอย่างน้อย 50 ปี หลังอังกฤษส่งมอบฮ่องกงคืนจีนในปี 2540อังกฤษถึงกับขู่จะตอบโต้จีนด้วยการเปิดช่องทางพิเศษให้ชาวฮ่องกงที่ถือพาสปอร์ตชาวอังกฤษในต่างแดน (บีเอ็นโอ) ยื่นขอสัญชาติอังกฤษได้ในท้ายที่สุด โดยปัจจุบันมีชาวฮ่องกงถือพาสปอร์ตบีเอ็นโอแล้วราว 3.5 แสนคน และมีสิทธิยื่นขอบีเอ็นโอทั้งสิ้นรวมเกือบ 3 ล้านคนสัปดาห์ก่อน รัฐบาลอังกฤษก็ประกาศตัดบริษัท “หัวเว่ย” ของจีนออกจากโครงข่ายการสื่อสารไร้สายความเร็วสูง “5 จี” หลังถูกสหรัฐฯกดดันหนัก เพราะหวั่นเป็นสายลับให้รัฐบาลจีน เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ขณะที่อังกฤษเองก็กลัวว่ามาตรการคว่ำบาตรหัวเว่ยของสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบต่อโครงข่าย 5 จี ของตนในอนาคตอย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งกับจีนอาจไม่เป็นผลดีต่ออังกฤษที่กำลังจะตัดสัมพันธ์กับชาติต่างๆในสหภาพยุโรป (อียู) หลังอังกฤษถอนตัวจากอียู หรือ “เบร็กซิต” และต้องการหุ้นส่วนการค้าการลงทุนจากที่อื่นมาทดแทน โดยเฉพาะจีน ซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลกอังกฤษจึงต้องคิดให้รอบคอบว่าจะคบกับจีนอย่างไรต่อไปในอนาคต!บวร โทศรีแก้ว