มีคำถามว่า เครื่องแบบตำรวจส่งผลต่อการสอบปากคำผู้เสียหายที่เป็นเด็กหรือไม่พ.ต.ต.หญิง ศุภรัตติยา อุ้ยหา สว. (สอบสวน) สภ.ปลวกแดง จ.ระยอง ตอบทันทีว่า “มีผลอย่างมาก”หลังจากตัวเองประสบมาเมื่อครั้งสวมเครื่องแบบสอบปากคำเด็กที่ตกเป็นเหยื่อ พบบางครั้งทำให้เด็กรู้สึกอึดอัด ไม่อยากเล่าเหตุการณ์บางอย่างเท่าที่ควร บางครอบครัวมีอคติกับอาชีพตำรวจ ชอบปลูกฝังว่า “อย่าดื้อนะ อย่า...นะ เดี๋ยวตำรวจจับ” เป็นเหตุให้ความลื่นไหลในการสอบปากคำสะดุดไม่ต่อเนื่องกระทั่งวันหนึ่งเธอไปสอบปากคำครั้งแรกในตัวจังหวัด มีพนักงานอัยการถามว่า ทำไมไม่ใส่เครื่องแบบ เจ้าตัวตอบไปตามเหตุผลดังกล่าวข้างต้น พนักงานอัยการทำหน้างง แต่ไม่ได้ว่าอะไรคงสงสัยว่าเหตุใดพนักงานสอบสวนใส่ “เสื้อยืดลายการ์ตูน” มาพบถึงกระนั้น ปกติตำรวจจะสอบปากคำผู้เสียหายรอบแรกที่โรงพักแล้วพิมพ์คำให้การมานั่งอ่านคำให้การ ถามเด็กผู้เสียหายอีกครั้งต่อหน้าพนักงานอัยการ นักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยาแต่สำหรับเธอเลือกจะสอบปากคำตรงหน้าของ “ทีมสหวิชาชีพ” ครั้งเดียว พิมพ์คำให้การตรงนั้นเพื่อไม่ให้เด็ก “บอบช้ำ” จากกระบวนการยุติธรรม ลดขั้นตอนไปสักรอบก็ยังดีก่อนหน้าจะสอบปากคำ เธอพอทราบว่า เด็กไม่อยากอยู่กับพ่อเนื่องจากอาจจะเคยโดนพ่อทำอะไรบางอย่าง แล้วข้อสันนิษฐานของเธอก็ไม่คลาดเคลื่อน เด็กถูกพ่อกระทำชำเราตอน ป.5 เล่าให้ญาติฟัง แต่ไม่พาเด็กมาแจ้งความ ปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปนานหลายปีสุดท้ายเด็กยอมให้ปากคำที่ตำรวจอย่างเธอยังกระอักกระอ่วน เป็นประโยคติดค้างอยู่ในหัว“หนูเป็นลูกพ่อนะ ทำไมพ่อทำกับหนูแบบนี้”ภาพสายตาที่เศร้าของเด็กน้อยยังติดตาเธอตอกย้ำแนวคิดว่า เราไม่ควรสร้างความรุนแรงจากกระบวนการยุติธรรมด้วยการข่มขืนเหยื่อซ้ำ!!!สหบาท