“วัชรินทร์” นั่งอธิการบดี ชี้บทเรียนแย่งชิงอำนาจวอนทุกฝ่ายรวมพลังจากกรณีที่มหาวิทยาลัยบูรพาถูกควบคุมโดยประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 2/2559 ตามอำนาจมาตรา 44 รัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) ตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 39/2559 เรื่องการจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษา เนื่องจากปัญหาการสรรหาอธิการบดีจนนายกสภาฯต้องลาออก และแต่งตั้งคณะกรรมการทำหน้าที่แทนกรรมการสภามหาวิทยาลัย มาตั้งแต่ปี 2559 นั้นเมื่อวันที่ 6 ก.ค. รศ.ดร.วัชรินทร์ กาสลัก อธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพา เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนได้รับการสรรหาและโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้เป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพา เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2563 หลังจากนี้จะเป็นการสรรหานายกสภามหาวิทยาลัย และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ขณะนี้อยู่ระหว่างการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหานายกสภาฯ และกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิ สิ่งที่กรรมการสรรหาฯต้องระวังคือ ต้องหาผู้ที่ทำประโยชน์ให้กับมหาวิทยาลัย ไม่ใช่คนที่ต้องการตำแหน่ง หรือหาผลประโยชน์จากมหาวิทยาลัย เราไม่อยากกลับไปสู่วังวนเดิม เมื่อกรรมการสรรหาฯกำหนดคุณสมบัติแล้ว ก็ต้องส่งให้คณะ สำนัก พิจารณาเพื่อเสนอชื่อให้กรรมการสรรหาฯพิจารณาคัดเลือก เมื่อได้รายชื่อแล้วก็เสนอเพื่อโปรดเกล้าฯ ซึ่งทั้งกระบวนการใช้เวลาไม่น้อยกว่า 3-4 เดือน จากนั้นทุกอย่างจะกลับคืนสู่ภาวะปกติ และ ม.บูรพาก็จะเดินหน้าต่อ ซึ่งตนเชื่อว่าถ้า ม.บูรพารวมกำลังกันแล้วเราจะไปได้ไกลผู้สื่อข่าวถามว่าได้รับบทเรียนอะไรจากการถูกควบคุมในครั้งนี้ รศ.ดร.วัชรินทร์กล่าวว่า ปัญหาของ ม.บูรพา ที่เกิดขึ้น คนส่วนใหญ่ในมหาวิทยาลัยไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เกิดจากคน 2 กลุ่ม แย่งชิงอำนาจกัน เกิดเป็นปัญหาการเมืองภายใน เล่นพรรคพวก เกิดความแตกแยก แบ่งฝักแบ่งฝ่าย เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญของมหาวิทยาลัยคือ คนในมหาวิทยาลัยจะต้องกล้าที่จะลุกขึ้นมาต่อต้านผู้บริหารที่ทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งขณะนี้ตนเชื่อว่าทุกคนได้บทเรียนแล้ว.
