พ.ร.ก. เงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาท 3 ฉบับ เพื่อเยียวยาฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 คลอดออกมาแล้ว วันนี้รัฐบาลมีเงิน 1.9 ล้านล้านบาทอยู่ในมือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะต้องใช้เงินอย่างระมัดระวังตามเป้าหมาย ด้วยความซื่อสัตย์โปร่งใส ไม่ให้คนเลวคอร์รัปชันไปในระหว่างทาง เพราะรัฐบาลจะต้องใช้เงินอีกมหาศาลในการฟื้นฟูประเทศในทุกภาคธุรกิจที่เสียหายจากไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้การเยียวยาฟื้นฟูเป็นเรื่องที่ปลายเหตุ แต่เรื่องต้นเหตุสำคัญที่ผมจะเรียน นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไว้ตรงนี้ก็คือ “การป้องกัน” ไม่ให้ไวรัสกลับมาแพร่ระบาดอีกวันนี้ประเทศไทยได้เปรียบประเทศอื่นหลายก้าว เพราะผลการทดลอง “ยาฟ้าทะลายโจร” ที่เป็นยาสมุนไพรของไทยพบว่า มีฤทธิ์ฆ่าไวรัสโควิด-19 ได้ และสามารถยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสโควิด-19 ได้ แต่ไม่สามารถใช้ป้องกันการติดเชื้อได้ นอกจากนี้ “ทีมวัคซีนไทยแลนด์” ซึ่งมี สถาบันวัคซีนแห่งชาติ เป็นแม่งานใหญ่ สามารถผลิตวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ต้นแบบได้แล้ว และได้ทดลองวัคซีนที่พัฒนาขึ้นกับสัตว์ทดลองแล้ว 2 ครั้ง ต่อจากนี้ไปจะเป็นการทดลองกับมนุษย์เป็นขั้นตอนสุดท้าย ก่อนจะเริ่มผลิตวัคซีนนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า สัปดาห์ที่ผ่านมามีการพูดถึงความก้าวหน้าการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในหลายประเทศ ทั้ง สหรัฐฯ ยุโรป จีน ญี่ปุ่น หากวัคซีนมีประสิทธิภาพ ฉีดให้ทุกคน จะช่วยให้มีภูมิคุ้มกัน สามารถกำจัดไวรัสโควิด-19 ได้ วันนี้ไทยมีทางเลือก 3 ทาง 1.วิจัยและผลิตวัคซีนเอง ตั้งแต่ต้น จนจบ 2.ร่วมมือกับประเทศที่ผลิตวัคซีนแล้ว ในการวิจัยและพัฒนา 3.ซื้ออย่างเดียว ไม่ต้องทำอะไร ข้อนี้จะเจอปัญหาประเทศที่ผลิตได้ จะฉีดให้คนของเขาก่อน และมีราคาแพง ไม่รู้เมื่อไหร่จะถึงไทย ทางเลือกของเราจึงต้องทำวิจัยและพัฒนาเอง และ ร่วมมือกับประเทศที่เขามีการผลิตอยู่แล้ววันอาทิตย์ที่ผ่านมา นพ.พอล สตอฟเฟิลส์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิทยาศาสตร์บริษัทผลิตยายักษ์ใหญ่สหรัฐฯ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันเปิดเผยว่า บริษัทได้ลงทุนกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ (33,000 ล้านบาท) ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาและวิจัยยาชีวภาพขั้นก้าวหน้าของสหรัฐฯ (BARDA) วิจัยและพัฒนา วัคซีนต้านโควิด-19 มาตั้งแต่เดือนมกราคม 63 โดยบริษัทตั้งเป้าจะทดลองในมนุษย์เฟสแรกในเดือนกันยายนนี้ และตั้งเป้าจะผลิตวัคซีนออกมา 600-900 ล้านโดส เพื่อใช้ฉุกเฉินในต้นปีหน้า 64 แน่นอนว่า สหรัฐฯต้องใช้เองก่อนขายให้คนอื่นแต่วันนี้สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กระทรวงสาธารณสุข สามารถผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 ต้นแบบได้เองแล้ว โดย ทีมจุฬาฯ ได้ทดลอง วัคซีนกับสัตว์ทดลองเพื่อดูระดับภูมิคุ้มกัน 2 ครั้งแล้ว โอกาสที่ไทยจะ ผลิตวัคซีนได้เองในเร็วๆนี้ จึงเป็นไปได้สูงยิ่งรัฐบาลจึงควรสนับสนุนเต็มที่นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เปิดเผยว่า กลไกของวัคซีนจะไปสร้างแอนติบอดี เพื่อเข้าไปจับกับตุ่มของไวรัส ทำให้ไวรัสเข้าเซลล์ไม่ได้ จนเสียสภาพและตายไปเอง เพราะไม่สามารถเข้าไปเพิ่มจำนวนไวรัสได้ ขณะนี้ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ร่วมกับ บริษัทไอโอเนท เอเชีย ได้เริ่มทดลอง วัคซีน mRNA ในสัตว์ทดลองแล้ว กลยุทธ์วัคซีนของไทย คือ เอาวัคซีนศักยภาพสูงมาทดสอบในไทย รับการถ่ายทอดเทคโนโลยี แล้วพัฒนาวัคซีนเอง เพราะ การระบาดของโควิด-19 จะไม่สงบ จนกว่าประชากรจะมีภูมิคุ้มกันมากกว่า 60% หรือ กว่า 42 ล้านคน ซึ่งจะกินเวลานานมาก จะทำให้สูญเสียเศรษฐกิจสังคมมหาศาลวันนี้ผมจึงขอเสนอ นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ ไว้ตรงนี้ รัฐบาลกู้เงินมา 1.9 ล้านล้านบาท ก็เพื่อต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 ผมจึงขอให้เจียดเงินสัก 10,000 ล้านบาท เพื่อใช้วิจัยพัฒนาและผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ฉีดฟรีให้คนไทยทุกคน เพื่อกำจัดโควิด-19 ให้สิ้นซากไปจากประเทศไทย หลังจากนั้น ไทยยังสามารถส่งวัคซีนไปขายได้ทั่วโลก หาเงินเข้าประเทศทดแทนการท่องเที่ยว รีบตัดสินใจด่วนตั้งแต่วันนี้เลยครับ มีแต่ได้กับได้ ไม่มีเสีย.“ลม เปลี่ยนทิศ”