ขณะที่กดแป้นเขียนคอลัมน์ ที่สหรัฐฯวันเดียวมีคนตายจากโควิด-19 ถึง 1,224 คน ยอดติดเชื้อเกิน 3 แสนรายแล้ว เป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากที่สุดในโลก ดูจากการให้สัมภาษณ์ของประธานาธิบดีทรัมป์แล้ว แกเริ่มใจเสียเหมือนกัน นอกจากใจเสียแล้วก็ยังอารมณ์เสีย ทะเลาะกับสื่อวุ่นวายขายปลาช่อนไปหมด ไม่เคยเจอประธานาธิบดีสหรัฐฯคนไหนที่มีลักษณะอย่างนี้มาก่อนผู้นำสหรัฐฯ แต่ละท่านที่ผ่านมา สง่า มีเกียรติ และมีความเป็นสุภาพบุรุษอยู่ในระดับมาตรฐานตอนที่ทรัมป์ขึ้นมาสู่อำนาจใหม่ๆ แกฟาดหัวฟาดหางประเทศโน้นชาตินี้ สร้างศัตรูทั้งคำพูดและการปฏิบัติอย่างไม่จำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับจีนและรัสเซีย ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีที่ขึ้นบัญชีดำบริษัทชาติคู่แข่งมากที่สุด วันหนึ่งเมื่อตัวเองมีปัญหา ก็ได้ชาติที่ตัวเองเคยคว่ำบาตรนี่แหละช่วยถึงขณะนี้ เฉพาะนิวยอร์กเพียงรัฐเดียวมีผู้ติดเชื้อมากถึง 114,775 คน และมีผู้ตายวายชนม์มากถึง 3,565 คน สถานการณ์ในนิวยอร์กซิตี้ขณะนี้เหมือนอู่ฮั่นตอนที่เกิดโรคระบาดใหม่ๆ วันเสาร์ที่ผ่านมา ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กออกมาแถลงขอบคุณรัฐบาลจีนที่ช่วยเหลือรัฐนิวยอร์กด้วยการบริจาคเครื่องช่วยหายใจ 1,000 เครื่องปูตินส่งเครื่องบินที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์มากมายหลายชนิดให้สหรัฐฯช่วยรับมือกับผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่จำเป็นที่สุดก็คือเครื่องช่วยหายใจ ทว่าอนิจจา เครื่องช่วยหายใจที่จะไปช่วยคนอเมริกันดันผลิตโดยบริษัทลูกของกลุ่มบริษัทที่ถูกอดีตประธานาธิบดีโอบามาของสหรัฐฯขึ้นบัญชีดำไว้เมื่อ พ.ศ.2557ผู้ที่ซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มอบให้สหรัฐฯในครั้งนี้คือกองทุนความมั่งคั่งของรัสเซีย กองทุนนี้ก็ถูกสหรัฐฯขึ้นบัญชีดำเมื่อ พ.ศ.2558 ตอนนี้ก็เกิดปัญหาอิหลักอิเหลื่อ มีคนออกมาวิจารณ์กันมากมายหลายกระบุง จนโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียต้องออกมาบอกว่า “หากเครื่องช่วยหายใจทั้งหลายทั้งปวงนี้ไม่เป็นที่ต้องการของสหรัฐฯ อ้า รัสเซียก็ยินดีรับกลับ”ฝ่ายสหรัฐฯไม่พูดอะไร มีแต่โลกได้ภาพของเจ้าหน้าที่ที่สนามบินเจเอฟเค ก้มหน้าก้มตาขนอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมทั้งเครื่องช่วยหายใจทั้งหลายทั้งปวงที่ว่าลงจากเครื่องบินของรัสเซีย เห็นภาพนี้แล้วก็ทั้งเห็นใจและสงสาร ต่อไปในอนาคต ประชาชนคนอเมริกันคงต้องพิจารณาเลือกผู้นำที่มีเมตตาธรรมต่อคนทั้งโลก ไม่ใช่อะไรก็อเมริกาคัมเฟิสต์ อะไรก็ต้องอเมริกาก่อน คนทั้งโลกเท่ากัน ความรู้สึกนี้กำลังสถาปนาลงไปในจิตใจของมนุษย์ในยุคที่ต้องผ่านวิกฤติโควิด-19เรือรบและเรือบรรทุกเครื่องบินอเมริกันทรงพลานุภาพมหาศาล เยื้องกรายไปน่านน้ำใด ศัตรูคู่แข่งขันแขยงขยาดหวาดกลัว นาวิกานุภาพของสหรัฐฯยิ่งใหญ่ไม่มีใครเทียบ ทว่าเรือของกองทัพเรืออเมริกันผู้ยิ่งใหญ่ก็ยังแพ้ภัยโควิด-19 ผู้บัญชาการเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ยูเอสเอส ธีโอดอร์ รูสต์เวลต์ ส่งหนังสือด่วนมายังกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ขอให้ช่วยโปรดเมตตากรุณาอนุเคราะห์ อนุมัติให้ทหารที่ประจำอยู่บนเรือลำนี้ 4 พันกว่านายได้ออกไปจากเรือด้วยเถิด เพราะเกิดการติดเชื้อโควิด-19 และกำลังระบาดไปทั้งลำเรือแล้วผู้เชี่ยวชาญสหรัฐฯและตะวันตก รวมทั้ง ผอ.โครงการภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขขององค์การอนามัยโลกเคยยืนยันว่าคนที่ยังไม่ได้ติดเชื้อโควิด-19 ไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัย ผู้คนจากมหาวิทยาลัยโน้นก็พูด จากสถาบันการศึกษานี้ก็วิจารณ์ ตะโกนกันย้ำๆ ซ้ำๆ ว่าไม่ต้องใส่หน้ากากอนามัย เรื่องนี้ทำให้ในโลกตะวันตกติดเชื้อกันบานเบอะเยอะแยะ สหรัฐฯ (311,637) สเปน (126,168) อิตาลี (124,632) เยอรมนี (96,092) ฝรั่งเศส (89,953) อังกฤษ (41,903) ฯลฯผอ.ศูนย์ควบคุมโรคของจีนเคยให้สัมภาษณ์นิตยสาร Science ว่า “ความผิดพลาดร้ายแรงของสหรัฐฯและยุโรป ตามความเห็นของข้าพเจ้าคือ การที่ประชาชนไม่ชอบสวมหน้ากากอนามัย” ตอนนั้น ฝรั่งมังค่าหัวเราะเยาะผู้อำนวยการจีนคนนี้จนฟันกระเด็นออกมานอกปากทว่าวันนี้ วงการแพทย์ตะวันตกเปลี่ยนมาเชื่อการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ของจีนและตะวันออกกันมากขึ้นแล้ว อ้า แย่งหน้ากากอนามัยใส่กันใหญ่เลย.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.com