ถอดบทเรียนคดีโจรโหดฆ่า 3 ศพชิงทองห้างดังเมืองลพบุรีพล.ต.ท.วิเชียร ตันตะวิริยะ ผบช.สพฐ.ตร. นำเอาไปเป็นกรณีศึกษาของสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจกับปัญหาอาชญากรรม เพื่อตามหาข้อคิด ข้อพึงปฏิบัติ และข้อเสนอแนะท่ามกลางความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ในขณะที่การก่อคดีอาชญากรรมมีความสลับซับซ้อนมากขึ้นส่งผลกระทบต่อการพิสูจน์พยานหลักฐานในการสืบหาการกระทำผิดที่เกิดขึ้นจริง และหาผู้กระทำผิดตัวจริงที่อาจจะกระทำได้ยากขึ้นดังนั้น โอกาสที่จำเลยจะหลุดรอดจากการเป็นผู้กระทำผิด ย่อมมีมากขึ้นทำให้เกิดมุมมองว่า รูปแบบของพยานหลักฐานที่จะใช้ในการพิสูจน์การกระทำผิดปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจพึ่งพิงจากพยานบุคคลได้เป็นหลักเหมือนแต่ก่อนพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเทคโนโลยี พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ นิติเวชศาสตร์เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นสอดคล้องตรรกะที่ว่า อาชญากรรมย่อมทิ้งร่องรอย และโจรผู้ร้ายต้องสยบต่อหลักฐานชิ้นสำคัญคดีสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นในเมืองลพบุรี สำนักงานพิสูจน์หลักฐานได้ออกตรวจสถานที่เกิดเหตุ รวบพยานหลักฐานจากปลอกกระสุน หัวกระสุนปืน ร่องรอยรองเท้าของคนร้ายที่ทิ้งไว้ และการตรวจพิสูจน์ทางดีเอ็นเอนำมาสู่การหาเบาะแส ร่องรอยอื่นๆ ตลอดระยะเวลาประมาณ 13 วันทำให้ “ไขปริศนา” ขอศาลออกหมายจับ นายประสิทธิชัย เขาแก้ว ผอ.ร.ร.วัดโพธิ์ชัย จ.สิงห์บุรี ผู้ต้องหา พร้อมของกลางที่ใช้กระทำความผิดสำคัญที่สุด คือความเที่ยงตรงในหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ยากที่จะบิดเบือนเป็นอื่นการให้ความสำคัญต่อกลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ เสมือนเป็น กระดุมเม็ดแรก หน่วยงานแรกที่จะลงไปสถานที่เกิดเหตุในนาม “นักรบเสื้อฟ้า” ต้องมีความจำเป็นพวกเขาพร้อมรวมพลัง “ดรีมทีม” รุกรบด้วยจิตวิญญาณเพื่อควานหาพยานหลักฐานนำไปสู่การปิดฉากคดี."สหบาท"