สำนวน “ผีซ้ำด้ำพลอย”...ใช้กันแต่โบราณ วันนี้ก็ยังใช้ เพียงแต่ว่าจะเข้าใจความหมายได้ลึกตื้นแค่ไหน“กาญจนาคพันธุ์” อธิบายไว้ในหนังสือ “สำนวนไทย” เมื่อถึงคราวเคราะห์ร้ายแล้ว ผีอาจบันดาลให้เกิดโทษขึ้นได้ หรือกำลังเคราะห์ร้าย ผีอาจซ้ำเติมเอาได้ในทัศนะผู้ใหญ่สมัยโบราณ พูดถึงการถืออาวุธหยอกล้อกัน เช่น จะแทง จะฟัน เป็นการล้อกันธรรมดา ท่านจึงห้ามว่า “ เดี๋ยวผีซ้ำด้ำพลอย” คือผีอาจผลักมือคนถืออาวุธ ทำให้อีกฝ่ายถูกอาวุธเข้าจริงๆได้“ด้ำ” มีความหมายถึง ด้ามอาวุธที่มือถือแต่ยังมี “ด้ำ” อีกความหมาย เสฐียร โกเศศ เขียนไว้ในหนังสือ ผีสางเทวดาว่า ผีเรือนนั้นไทใหญ่เรียกว่าผีล่ำ ไทยอีสานเรียกผีด้ำสำนวนผีซ้ำด้ำพลอยจึงหมายความว่าถูกผีอื่นทำแล้ว ยังถูกด้ำหรือผีเรือนของตนพลอยซ้ำเติมด้วย เป็นเคราะห์ร้ายซ้ำถึงสองต่อทั้งสำนวน “ซ้ำด้ามพลอย” หรือซ้ำด้ำพลอย ผู้รู้บางท่านว่า อาจจะเลือนมาจาก “ซ้ำตามพลอย” แต่ถึงอย่างไร ความหมายก็คงอยู่ในที่ว่า เมื่อถึงคราวเคราะห์ร้าย ผีอาจซ้ำเติม“ด้ำ” คำอีสานของไทย...ทำให้ผมนึกความรู้ที่ได้จากอาจารย์ เจีย แยนจอง (ยรรยง จิรนคร) ท่านว่า ผีบ้านของคนจีน เรียก “เส้อ” เรียก “เส้อบ้าน” ถ้าเป็นผู้ใหญ่มีคนนับถือมากเรียก “เส้อเมือง”คำเส้อเมือง ไทยไม่แค่เอามาใช้เป็น “เสื้อเมือง” ยังมี “พระทรงเมือง” แถมอีกองค์สมัยที่เผ่าไท...ยังนัวเนียรบรันพันตูกันอยู่กับเผ่าจีน สงครามหนึ่งที่ประวัติศาสตร์จีนเขียนไว้ อ๋อง โกวเจี้ยน เจ้าของแผน “กลหญิงงาม” ส่งไซซีไปเป็นหนอนบ่อนไส้ “อ๋องฟูไช”ถึงตอนที่ทัพเรือโกวเจี้ยนพร้อม...เปิดเกมรบรุกเอาชนะฟูไช...นักประวัติศาสตร์จีน เจอคำ “ด้ำ” ในเพลงปลุกใจทหาร...ก็งงหาคำแปลจากร้อยพันภาษาในละแวกเดียวกันไม่ได้ความรู้นี้...ผมได้ตอนไปฟังอาจารย์ทองแถม นาถจำนง อาจารย์ถาวร สิกขโกศล บรรยายที่สถาบันปัญญาภิวัฒน์ ของซีพี...ค้นกันไปคลี่กันมา ก็พบว่า “ด้ำ” เป็นคำในภาษาในตระกูลไทเป็นอันได้รู้กันว่าคำ “ด้ำ” แยกโกวเจี้ยน เข้าไปเป็นพวกเย่ว์ร้อยเผ่า...ไม่ใช่ฮั่นหรือจีนและไซซี หนึ่งในสี่สุดยอดหญิงงามของจีนนั้นเป็นคนไทรู้จักความสำคัญของคำ “ด้ำ” ที่อยู่ในสำนวน “ผีซ้ำด้ำพลอย” อีกที ชัดเจนแล้วนะครับ ด้ำ คือผีพ่อแม่ปู่ย่าตายาย...ญาติผู้ใหญ่คนเราเมื่อเคราะห์หามยามร้าย...ถึงขนาดไร้ญาติขาดมิตร หากยังมีผู้ใหญ่คอยอุปถัมภ์ค้ำจุน...เคราะห์ร้ายก็เบาลง หรือถ้าผู้ใหญ่ยังยิ่งใหญ่ ก็อาจปัดเป่าเคราะห์ร้ายให้กลายเป็นเคราะห์ดีนึกถึงคุณปารีณา ไกรคุปต์...ข่าวแรกว่า ถูกกรมป่าไม้ยึดที่ดินคืนหลวง...ไป 46 ไร่ ข่าวต่อมาเพิ่มเป็นกว่า 600 ไร่... ก็ยืนยันว่า อำนาจของด้ำหรือผีญาติผู้ใหญ่ไม่มีมาเกื้อหนุนพูดกันตรง รัฐบาลไม่ช่วยมีคนจำได้ จำนวนที่ดินที่เพิ่งถูกประกาศยึดครั้งนี้ ยังขาดไปอีกกว่าพันไร่ เพราะที่ดินที่คุณปารีณาแจ้งไว้ในบัญชีทรัพย์สิน มีถึงกว่า 1,700 ไร่ ที่ดินพันไร่ ที่มีใบภาษีบำรุงท้องที่...ผมฟังคุณดำรงค์ พิเดช แล้วก็หนาว...คุณดำรงค์ฟันธงว่าใบ ภ.บ.ท.ที่ว่าศาลท่านเห็นเป็นใบเสร็จ คำรับสารภาพรุกที่หลวง...ยึดที่ดิน จับเข้าคุกไปนับไม่ถ้วน จำนวนไม่ถ้วน ที่ว่า มีกว่า 6-7 หมื่นรายถ้ารายคุณปารีณายังมีที่ดินอีกพันไร่ ไม่ถูกยึด ไม่ถูกจับ ก็แสดงว่า งานนี้แม้ผีจะซ้ำ แต่ด้ำ หรือผู้ใหญ่ก็ยังไม่พลอย คือยังแอบขยิบตา ช่วยกันอยู่งานนี้ผมสงสารคุณปารีณาจับใจ แต่สงสารยิ่งกว่า คือรัฐบาล...แผลนี้เป็นแผลเรื้อรัง ถ้าไม่รีบรักษาแผลนี้ถึงตาย อาการขั้นรัฐบาลล่มทีเดียว.กิเลน ประลองเชิง