เมื่อพูดถึง ประเพณีงานลอยกระทง ทำนึกถึงบทเพลง “วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำก็นองเต็มตลิ่ง เราทั้งหลายชายหญิง สนุกกันจริงวันลอยกระทง” ที่เราคุ้นชินชาวไทยทุกคนต่างนำกระทงไปลอยน้ำสืบทอดความเชื่อว่า เป็นการขอขมาต่อพระแม่คงคาพร้อมอธิษฐานขอให้เกิดแต่สิ่งดีๆในชีวิต เป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าสืบทอดมาแต่ครั้งกรุงสุโขทัย ดินแดนรุ่งอรุณแห่งความสุขมากว่า 700 ปีแล้วประเพณีลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟ มีปรากฏหลักฐานในศิลาจารึกหลักที่ 1 ว่าเมืองสุโขทัยนี้มีสี่ปากประตูหลวง เที้ยรย่อมคนเสียดเข้ามาดูท่านเผาเทียนเล่นไฟ ซึ่งคำว่า “เที้ยร” หมายถึง “เทียนบูชา” และการขอขมาพระแม่คงคา ส่วนคำว่า “เล่น” หมายถึงการทำอะไรให้เป็นที่สนุกเพลิดเพลิน ผนวกกับคำว่า “ไฟ” จึงหมายถึงการทำอะไรให้สนุกสนานเพลิดเพลินด้วยไฟสำหรับงานประเพณีลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟของ จ.สุโขทัยในปีนี้ มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-11 พ.ย.2562 ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ต.เมืองเก่า อ.เมืองสุโขทัยในปีนี้ นายไมตรี ไตรติลานันท์ พ่อเมืองสุโขทัย ยังคงเน้นการนำเสนอความเป็นเอกลักษณ์ของศิลปวัฒนธรรมไทยที่ผสมผสานกับความทันสมัย นอกจากการแสดงแสงเสียง (Light&Sound) เรื่อง “ความรุ่งเรืองของอาณาจักรสุโขทัย” บริเวณวัดมหาธาตุ ซึ่งถือเป็นไฮไลต์ของงานแล้ว ปีนี้ยังได้นำเทคโนโลยีระดับโลกจากบริษัท เอปสัน ประเทศไทย จำกัด มาใช้เพิ่มเทคนิคเพื่อให้บรรยากาศดูสมจริงมากยิ่งขึ้นรวมทั้งพิธีรับรุ่งอรุณแห่งความสุขและบวงสรวงบูรพกษัตริย์สุโขทัย, การประกวดกระทงใหญ่ กระทงเล็ก โคมชัก-โคมแขวน พนมหมากและพนมดอกไม้, ตลาดแลกเบี้ย ตลาดโบราณ, กิจกรรมข้าวขวัญวันเล่นไฟและสีสันแห่งสายน้ำ, การแสดงตำนานท้าวศรีจุฬาลักษณ์, การประกวดนางนพมาศ, พิธีเผาเทียนเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาการแสดงพลุ ตะไล ไฟพะเนียง ตลอดจนพิธีรับไฟพระฤกษ์และพระประทีปพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ เพื่ออัญเชิญลอยเป็นปฐมฤกษ์ในคืนวันเพ็ญเดือนสิบสองซึ่งตรงกับวันที่ 11 พ.ย. ณ สระน้ำวัดสระศรี (ตระพังตะกวน)เชื่อว่า “งานประเพณีลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟ” ของ จ.สุโขทัย จะยังคงมีมนต์เสน่ห์ติดตาตรึงใจนักท่องเที่ยวและอยู่ในหัวใจคนไทยไม่รู้ลืม...พิษณุ ล้อมวงษ์โสภณ
