กวาดเงินสดขึ้นรถขยะเผ่นหนีไปจี้ตัวประกัน ตำรวจกวดจับยิงดับ 3 ศพยิ่งกว่าภาพยนตร์ แก๊งโจรบราซิลปล้นระทึก รถขนเงินของสหรัฐฯ ปฏิบัติการอุกอาจถึงในสนามบิน มีการจุดไฟเผารถบรรทุกแล้วปิดถนนเผ่นหนี ไปจับแม่ลูกอ่อนเป็นตัวประกันถึงในบ้าน ตำรวจชิงเงินกลับมาได้ส่วนหนึ่งและวิสามัญฯ โจรดับสยองไป 2 ศพ ขณะที่โจรอีกส่วนขับรถขนขยะหนีต่อสำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อวันที่ 18 ต.ค.ถึงเหตุระทึกที่เกิดขึ้นเหมือนในภาพยนตร์ โดยคนร้ายพร้อมอาวุธ ขับรถบรรทุก 2 คัน คล้ายกับรถของพนักงานสายการบิน บุกปล้นรถขนเงินของบริษัท “บริงค์’ส์” ของสหรัฐอเมริกา โดยเหตุเกิดบริเวณโกดังอาคารสินค้าในสนามบินนานาชาติวิราโคโปส เมืองแคมปินาส ห่างจากนครเซาเปาโล ของบราซิล ราว 100 กม. เมื่อช่วงสาย 10.00 น. ของวันที่ 17 ต.ค. ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 20.00 น. ตามเวลาไทย จากนั้นคนร้ายขับรถหลบหนีไปพร้อมเงินสด แล้วจุดไฟเผารถบรรทุกปิดกั้นถนนและเกิดการยิงปะทะกับตำรวจ คนร้ายถูกยิงตาย 2 คน อีกคนหนีเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง จับแม่กับลูกอ่อนเป็นตัวประกัน แต่ถูกตำรวจที่ซุ่มอยู่ยิงตายเป็นรายที่ 3ตำรวจเผยว่า กลุ่มโจรวางแผนปล้นมาอย่างดี และเร่งไล่ล่าคนร้ายที่เหลือคาดว่ามีส่วนรู้เห็นอีกราว 12 คน ถือเป็นการปล้นเงินครั้งใหญ่สุดเป็นครั้งที่ 2 ของปีนี้ ขณะเดียวกัน ก็ได้เล่าเหตุการณ์อย่างละเอียดว่า ขณะเกิดเหตุปล้นการ์ดของเอกชนที่คุ้มกันรถขนเงิน 2 คนกับตำรวจอีก 1 นาย ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ส่วนเงินที่ถูกปล้นยึดกลับคืนมาได้แต่ยังไม่ทราบจำนวนหลังปฏิบัติการอุกอาจ คนร้ายได้ขับรถอเนกประสงค์ ที่จอดอยู่ใกล้รถบรรทุกที่ถูกจุดไฟเผาไปทิ้งไว้ โดยขนทั้งเงินและอาวุธไปขึ้นรถขนขยะอีกคัน ที่แก๊งโจรเตรียมไว้ เจ้าหน้าที่จึงเข้าสกัดรถขนขยะ จนเกิดการยิงปะทะกัน ส่วนคนร้ายหลบหนีเข้าไปในบ้านหลังหนึ่งและจับคนในบ้านเป็นตัวประกัน ตำรวจ ได้พูดเกลี้ยกล่อมคนร้าย ที่จ่อปืนที่ศีรษะแม่ของเด็กภายในบ้าน แต่ถูกพลซุ่มยิงล็อกเป้าสังหารทันที ส่วนตัวประกันถูกเศษกระสุนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยขณะที่สายการบินอาซุล เอสเอ ซึ่งมีฐานจอดเครื่องบินที่ท่าอากาศยานนานาชาติวิราโคโปส ต้องปิดสนามบินเป็นเวลา 20 นาที บางเที่ยวบินต้องล่าช้ากว่ากำหนด ก่อนสถานการณ์จะคืนกลับสู่ปกติในช่วงบ่ายของวันเดียวกันก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ก.ค. หรือช่วง 3 เดือนก่อน ก็เกิดเหตุปล้นสถานีขนถ่ายสินค้า ภายในสนามบิน กัวรุลโฮส ในนครเซาเปาโล สนามบินใหญ่ที่สุดในบราซิล โดยคนร้ายขับรถคล้ายรถตำรวจส่องปืนไรเฟิลไปที่การ์ดคุ้มกัน ได้ทองคำแท่งและของมีค่าอื่นๆ น้ำหนัก 750 กก. มูลค่า 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1,200 ล้านบาท ที่เตรียมส่งไปยังนครซูริก สวิตเซอร์แลนด์ กับนครนิวยอร์ก สหรัฐฯ จนถึงขณะนี้ ยังจับกุมแก๊งคนร้ายไม่ได้