วันเสาร์สบายๆวันนี้ผมชวนท่านผู้อ่านไปร่วมฟื้นความหลังน้องพี่สีชมพู “50 ปีน้องใหม่จุฬาฯ CU Freshy 12” กันครับ เป็นประเพณีใหม่ของชาวจุฬาฯที่เพิ่งจัดกันในปี 2555 เป็นประเพณีที่ ศ.ดร.วันชัย ศิริชนะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง น้องใหม่จุฬาฯปี 2505 และเพื่อนร่วมรุ่นอีก 7 คณะเป็นผู้ริเริ่ม เพื่อฉลอง 50 ปีน้องใหม่จุฬาฯรุ่นของท่าน จากนั้นก็มีการจัดต่อเนื่องมาทุกปี ปีนี้ น้องใหม่จุฬาฯปี 2512 เป็นเจ้าภาพ ร่วมกันจัดงานที่ ศาลาพระเกี้ยว ใน วันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน เวลา 10.30–15.00 น. เพราะวันที่ 16 มิถุนายนเป็นวันแรกที่พวกเราเข้าเป็นนิสิตจุฬาฯเมื่อ 50 ปีก่อนผมเองก็เป็น Freshy น้องใหม่จุฬาฯปี 2512 เผลอแป๊บเดียว 50 ปีแล้วกำหนดงาน “50 ปีน้องใหม่จุฬาฯ CU Freshy 12” ในวันพรุ่งนี้ จัดกันอย่างเรียบง่าย เวลา 08.00 น. มีพิธีวางพานพุ่มถวายสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์ 2 รัชกาล พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 สองพระองค์ผู้ทรงก่อตั้ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พระราชทาน “พระเกี้ยว” ให้เป็น ตราสัญลักษณ์ของชาวจุฬาฯ และ “สีชมพู” ของชาวจุฬาฯ ก็เป็น สีประจำพระองค์ ของ พระบาท สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระราชสมภพในวันอังคาร ชาวจุฬาฯ จึงใช้ สีชมพู เป็นสีของจุฬาฯตลอดมาเมื่อวางพานพุ่มถวายสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์ 2 รัชกาล แล้ว เวลา 09.00 น. มีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เพื่อนร่วมรุ่นที่ไม่อยู่แล้ว จากนั้นเวลา 10.30 น.เป็นต้นไป น้องใหม่ปี 12 ทุกคณะ ร่วมกันสังสรรค์รำลึกถึงความหลังเมื่อ 50 ปีก่อน ที่ ศาลาพระเกี้ยว จนถึงเวลา 15.00น. ก็เลิกรา เพราะต่างอายุเยอะเลขเจ็ดนำกันแล้วเมื่อย้อนรำลึกถึงสมัยเป็น เฟรชชี่น้องใหม่จุฬาฯ ก็ต้องนึกถึงเพลง “จามจุรีศรีจุฬาฯ” ขึ้นมาทันที นอกจากจะเป็น เพลงรับน้องใหม่จุฬาฯแล้ว ยังเป็น เพลงที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตของนิสิตจุฬาฯทั้งมหาวิทยาลัยได้เป็นอย่างดี ลองไปอ่านเนื้อเพลงดูครับ“เมื่อต้นปีจามจุรีงามล้น เครื่องหมายเป็นสิ่งมงคล ทุกคนเริ่มต้นสนใจ เริ่มเวลารับชาวจุฬาฯน้องใหม่ เบิกบานสำราญฤทัย น้องเรามาใหม่หลายคนเห็นจามจุรีสีงาม ทุกยามช่างงามล้ำล้น น้องเราเข้ามาทุกคน เบิกบานกมลเริ่มต้นด้วยดี พร้อมกันในวันนี้เอง ร้องเพลงครื้นเครงเต็มที่ หมายเอาจามจุรี เป็นเกียรติเป็นศรีของชาวจุฬาฯเมื่อกลางปี ต้นจามจุรีฝักหล่น ถึงเวลาหน้าฝน ลำต้นก็ลื่นนักหนา ฝักหล่นไปทั้งยางก็ไหลลงมา ถ้าเดินพลั้งพลาดท่าจะล้มทันทีฉันใดก็ดี ยางจามจุรีเตือนใจ ว่ายางที่ไหลนั้นคือยางอายเรานี้ พลาดการศึกษา แสนอายหนักหนาทั้งตาปี จำยางจามจุรีเตือนใจเมื่อปลายปี ดอกจามจุรีร่วงหล่น ทิ้งใบเกลื่อนถนน เหลือเพียงลำต้นยืนไว้ เหล่าจุฬาฯทิ้งความสุขาทันใด พ่อแม่น้องพี่ไกลใกล้อยู่ไหนลืมพลันที่กินถิ่นนอน มิได้อาวรณ์นำพา มีความปรารถนา เหลือเพียงตำราเท่านั้น เพื่อนเชือนชักทิ้งจนคนรักสารพัน หวังมิให้ตกชั้นรีไทร์”ซึ้งไหมครับ ต้นจามจุรี นอกจากจะเป็น ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย แล้ว ยังเป็นต้นไม้ที่มีความผูกพันกับ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 อีกด้วย วันที่ 15 มกราคม 2505 ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ทรงนำ ต้นจามจุรี 5 ต้น ที่ทรงปลูกไว้ที่ พระราชวังไกลกังวลหัวหิน ตั้งแต่เกิด จนทรงเห็นว่า “โตแล้วควรเข้ามหาวิทยาลัยเสียที” พระราชทานแก่จุฬาฯ และ ทรงปลูกต้นจามจุรี 5 ต้นด้วยพระองค์เอง มีพระราชดำรัสว่า จามจุรีมีมานานตั้งแต่สร้างมหาวิทยาลัยแล้ว ทรงเน้นว่า ดอกสีชมพูเป็นสัญลักษณ์สูงสุดอย่างหนึ่งของจุฬาฯ และมีพระราชดำรัสว่า “ฝากต้นไม้ไว้ให้ห้าต้น ให้เป็นเครื่องเตือนใจตลอดกาล”ต้นจามจุรี และ ดอกจามจุรีสีชมพู จึงเป็นต้นไม้และดอกไม้ประจำมหาวิทยาลัย เป็นสัญลักษณ์ ของ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาจนถึงทุกวันนี้และตลอดไป วันพรุ่งนี้ น้องพี่สีชมพู น้องใหม่ปี 2512 ทุกท่าน อย่าลืมไปพบกันนะครับ.“ลม เปลี่ยนทิศ”