จัดแสดงการอยู่ร่วมกันของมนุษย์กับธรรมชาติอย่างสมดุลองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จ.ปทุมธานี เตรียมเปิด “พิพิธภัณฑ์พระรามเก้า” โครงการเฉลิมพระเกียรติในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 5 ธันวาคม 2550 ในเดือน มิ.ย.นี้ โอกาสนี้จึงได้เชิญ 3 ผู้เชี่ยวชาญ ดร.ริชาร์ด เลน อดีต ผอ.ฝ่ายวิทยาศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา ลอนดอน ประเทศอังกฤษ พร้อมทั้ง นายกอร์ดอน แรงค์มอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารพิพิธภัณฑ์ และ นายแกเร็ธ วิลเลียมส์ ผอ.โครงการบริษัท เฟรเซอร์ แรนเดลล์ ซึ่งทั้ง 3 คนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพิพิธภัณฑ์ระดับโลกและเป็นที่ปรึกษาพิพิธภัณฑ์พระรามเก้า เดินทางมาเยี่ยมชมและติด ตามความคืบหน้าการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์พระรามเก้า ที่ตั้งอยู่ คลอง 5 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ในการนี้ นายรวิน ระวิวงศ์ ผอ.อพวช. กล่าวว่า พิพิธภัณฑ์พระรามเก้าถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ด้านนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อมที่ใหญ่ที่สุดของอาเซียนและติด 1 ใน 3 ของเอเชีย เนื้อที่กว่า 27,000 ตารางเมตร จะเปิดให้ชมในช่วงต้นเดือน มิ.ย.นี้ ขณะที่มีความพร้อมเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ มีการนำเสนอเสมือนจริงเกือบทุกโซน ถือเป็นสถานที่เรียนรู้ขนาดใหญ่ที่สำคัญของประเทศไทยด้านนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญจะเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต มีเนื้อหาสาระที่นำเสนอผ่านนิทรรศการที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม นำเสนอผ่านหลักการทรงงานของในหลวงรัชกาลที่ 9 ใน 3 ส่วนสำคัญ ประกอบด้วย 1.บ้านของเรา นำเสนอการก่อกำเนิดจักรวาล ระบบสุริยะและโลก วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตจนถึงกำเนิดมนุษย์ 2.ชีวิตของเรา นำเสนอสิ่งแวดล้อมและการปรับตัวของมนุษย์ให้เข้ากับระบบนิเวศ และ 3.พระราชาของเรา เพื่อแสดงให้เห็นถึงหลักคิด วิธีการทรงงาน และกระบวนการค้นหาคำตอบตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของพระองค์ที่ทรงนำไปแก้ปัญหาหรือพระราชทานแก่พสกนิกรพื้นที่ต่างๆ เพื่อการอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติอย่างสมดุลและยั่งยืน พร้อมกันนี้ อพวช.จะดำเนินการผลักดันยกระดับให้พิพิธภัณฑ์พระรามเก้ากลายเป็นศูนย์กลางหรือฮับ (Hub) การเรียนรู้ด้านนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อมของอาเซียน รวมทั้งยังมีความร่วมมือกับพิพิธภัณฑ์ทั่วโลก เชื่อมโยงเป็นเครือข่ายการเรียนรู้ขนาดใหญ่ผ่านระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งจะทำให้เกิดการหมุนเวียนแลกเปลี่ยนระหว่างพิพิธภัณฑ์ทั่วโลกอีกด้วย หลังจากที่ได้ชมความก้าวหน้าของพิพิธภัณฑ์แล้ว “ดร.ริชาร์ด” ผู้เชี่ยวชาญ เปิดเผยว่า พิพิธภัณฑ์พระรามเก้าเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ด้านนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีความสมบูรณ์ในการนำเสนอเนื้อหาที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก โดยเฉพาะนิทรรศการวิวัฒนาการของมนุษย์ (Human Odyssey) ถือว่ามีความครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุดในโลก เพราะมีการสร้างหุ่นจำลองของมนุษย์ สายพันธุ์หลักของโลกอย่างครบถ้วน และมีมากที่สุดถึง 6 สายพันธุ์ นอกจากนี้ ยังนำเสนอเนื้อหาว่าเผ่าพันธุ์ของมนุษย์จะวิวัฒนาการอย่างไรต่อไป ผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ เหมือนย้อนเข้าไปอยู่ในยุควิวัฒนาการของมนุษย์ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน ที่สำคัญหุ่นจำลองสายพันธุ์มนุษย์มีความเหมือนมนุษย์จริงๆมาก ทำขึ้นโดยช่างชาวไทยใช้เวลาสร้างหุ่นจำลองแต่ละตัวประมาณ 2 ปี และที่สำคัญ ที่โดดเด่นที่สุดคือการน้อมนำแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยเฉพาะเรื่องการอยู่ร่วมกันและความสัมพันธ์ของมนุษย์กับธรรมชาติมาเป็นแกนหลักของพิพิธภัณฑ์ ทำให้พิพิธภัณฑ์พระราม เก้าแตกต่างจากพิพิธภัณฑ์อื่น โดยเฉพาะการจัดแสดง ระบบชีวนิเวศของโลกที่หลากหลายและระบบนิเวศป่าเขตร้อนที่ให้บรรยากาศและประสบการณ์เสมือนจริงของประเทศไทย จากยอดเขาถึงท้องทะเล ถือเป็นพิพิธภัณฑ์แรกๆของโลกที่มีทั้งพิพิธภัณฑ์และสวนพฤกษศาสตร์อยู่รวมกัน ทำให้ผู้เข้าชมไม่เฉพาะชาวไทยจะได้พบกับความตื่นตาตื่นใจและได้รับประสบการณ์ที่จะประทับใจ แต่ผู้ชมต่างชาติก็จะทึ่งและเป็นความทรงจำที่ดีด้วย.