ฤดูเปลี่ยนผัน ได้เวลาตัดแต่งต้นไม้รับพายุฤดูร้อนซัดกระหน่ำต้นไม้ใหญ่สำนักสิ่งแวดล้อม กทม. รายงานผลการสำรวจต้นไม้ในพื้นที่เขตจตุจักร ปทุมวัน วัฒนา บางซื่อ พระนคร และดุสิต มีความเสี่ยงต้นไม้หักโค่นล้มที่จะต้องได้รับการดูแลจำนวน 1,925 ต้นไม่เพียงแต่ต้นไม้ในที่สาธารณะเท่านั้น ต้นไม้ที่ปลูกกันตามบ้านเรือน ในพื้นที่ส่วนบุคคล ต้องตัดแต่งป้องกันไม่ให้หักโค่นมาทำร้ายทรัพย์สินของตัวเองและบุคคลอื่นเช่นกันจะตัดแต่งกันแบบไหน อย่างไร ถึงจะถูกต้องตามหลักวิชา...รุกขกรรม “ต้นไม้ในเมืองทุกวันนี้เหมือนระเบิดเวลา ไม่จำเป็นต้องมีลมแรง มีพายุฤดูร้อน ต้นไม้สามารถโค่นล้มลงมาได้เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เพราะต้นไม้ที่ปลูกกันในเมืองอยู่ในสภาพไม่ต่างคนตัวโตแต่ขาเล็กลีบ”ดร.พรเทพ เหมือนพงษ์ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รุกขกร (Arbori-culture) หนึ่งเดียวของไทย ที่ได้ใบรับรองอาชีพรุกขกร สมาคมรุกขกรรมนานาชาติ (ISA) บอกว่า...โดยธรรมชาติของต้นไม้จะมีรากขยายไปด้านข้าง 2-3 เท่าของทรงพุ่ม เพื่อประคับประคองต้นให้ยืนหยัดอยู่ได้แต่ต้นไม้ที่ปลูกกันในเมือง รากถูกบีบด้วยถนน ตึก รั้วบ้าน ฯลฯ ทำให้รากฐานของต้นไม้ไม่แข็งแรง (ตัวโตขาลีบ) เลยเป็นเหตุให้เสี่ยงโค่นล้มลงมาสร้างความเสียหายได้ง่าย วิธีสังเกตต้นไม้ที่สุ่มเสี่ยงล้ม...ต้นไม้เอน อันนี้แน่นอนรอวันล้ม ตัดทิ้งไปเลยก่อนสร้างความเสียหาย... ต้นไม้ที่มีเรือนยอดทรงพุ่มขนาดใหญ่ทึบ มีทรงแผ่กว้างเกินลำต้นออกไปข้างละ 5 เมตร กลุ่มนี้ควรตัดสางกิ่งออกไป 1 ใน 3 ส่วน...ต้นไม้ที่รากไม่แข็งแรง มีรอยผุ โคนมีโพรง รากถูกถนน กำแพง ปูนซีเมนต์ บีบอัดให้ต้นไม้มีสภาพเป็นตัวโตขาลีบ ควรจะต้องรีบจัดการรื้อออก หรือตัดทิ้งก่อนจะโค่นล้มต้นไม้กิ่งไม่แข็งแรง มีกิ่งตายแห้งค้าง กลุ่มนี้รอการเขย่าด้วยแรงลมหรืออะไรก็ตาม และต้นไม้ที่ถูกปลวกกินแกนกลางต้นจนเหลือแต่เปลือกนอก เหมือนคนอ่อนแอรอวันล้ม ต้นไม้พวกนี้อย่าไปอยู่ใกล้ๆและสาเหตุหลักที่ต้นไม้ในเมืองตัดกิ่งแล้วมักจะตายลงไป 99% ดร.พรเทพบอกว่า ส่วนใหญ่มาจากการตัดที่ผิดวิธี เลยทำให้เชื้อราเข้าไปทำลายกิ่งก้าน และการตัดยอดทำให้ต้นไม้หัวกุด ทำให้เรือนยอดหรือใบมีน้อยไม่เพียงพอต่อการปรุงอาหารเลี้ยงตัวเอง“การตัดแต่งที่ถูกวิธีต้องสังเกตตรงคอกิ่ง หรือจุดแยกระหว่างลำต้นไปยังกิ่ง จะมีจุดที่เป็นวงแหวนนูนๆรอบกิ่ง นี่คือจุดรวบรวมอาหาร พลังงาน เซลล์เนื้อเยื่อ ที่จะช่วยเยียวยาแผลที่หักหรือถูกตัด แต่คนตัดไม่มีความรู้มักจะตัดจนชิดลำต้น เอาส่วนที่เป็นคอกิ่งออกไป เลยทำให้ไม่มีพลังงานจะไปรักษาแผลสร้างเซลล์เนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมา แม้จะมีการทาแผลด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อราก็ไม่ค่อยได้ผล แผลของต้นไม้ต้องปล่อยให้เขารักษาตัวเอง จึงจะอยู่รอดปลอดภัย” ขั้นตอนการตัดที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะตัดกิ่งไหน ให้เลือกจุดที่ห่างจากคอกิ่ง จุดสะสมพลังงานอย่างน้อย 1 ฝ่ามือ ให้ใช้เลื่อยตัดด้านล่างของกิ่งให้ลึกไปครึ่งหนึ่ง จากนั้นให้ใช้เลื่อยตัดด้านบนของกิ่งห่างจากจุดที่ตัดไปแล้วอีก 1 ฝ่ามือ แล้วกิ่งจะหักลงมาเองโดยไม่ฉีกขาดไปถึงเปลือกเพราะถ้าตัดจากด้านบนก่อน มาตัดด้านล่างทีหลัง นอกจากกิ่งจะบีบรัดใบเลื่อยแล้ว การตัดด้านบนก่อนกิ่งจะฉีกขาดลงไปถึงเปลือก กลายเป็นช่องทางให้เชื้อราเข้าไปทำลายได้ง่ายเป็นเทคนิคง่ายๆของชาวรุกขกร ไม่เพียงจะนำมาใช้จัดการกับการตัดแต่งต้นไม้ในเมืองเท่านั้น ยังสามารถนำไปใช้กับสวนเกษตรได้เช่นกัน.ไชยรัตน์ ส้มฉุน