ภาพ : AFPนางซูจีเรียกโรฮิงญาว่าเบงกาลี ข้าราชการและพวกในกองทัพของเมียนมาก็เรียกโรฮิงญาว่าเบงกาลีเช่นกัน หลายคนสงสัยว่าเบงกาลีเป็นใคร ขอเรียนครับว่า เบงกาลีเป็นคำที่ใช้เรียกภาษาและคนของรัฐเบงกอล ซึ่งเป็นทั้งแคว้นและรัฐทางตะวันออกของสาธารณรัฐอินเดียที่มีความเจริญมาตั้งแต่โบราณ มีอารยธรรมผสมระหว่างฮินดู พุทธ อิสลาม และตะวันตก ตอนที่อังกฤษปกครองอินเดีย อังกฤษใช้เบงกอลนี่แหละครับเป็นศูนย์กลางการปกครองบางคนเรียกเบงกาลีในลักษณะดูหมิ่นถิ่นแคลน เหมือนกับว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่ถูกมองในแง่ลบ โดยแท้ที่จริงพวกเบงกาลีมีปัญญาชนมากครับ ผู้อ่านท่านคงจะเคยได้ยินชื่อ ราม โมฮัน รอย และรพินทรนาถ ฐากอร์ ทั้ง 2 ท่านนี้เป็นชาวเบงกาลี2,300 กว่าปีก่อน เบงกอลคือดินแดนสุดเขตตะวันออกของจักรวรรดิเมารยะ คนส่วนใหญ่ในดินแดนนี้นับถือศาสนาพุทธ ภายหลังราชวงศ์ปาละปกครองเบงกอลก็ขยายอาณาจักรนี้ยิ่งใหญ่มาก ราชวงศ์ปาละส่งเสริมศาสนาพุทธ ต่อมาราชวงศ์เสนะโค่นราชวงศ์ปาละลงไปได้ก็ฟื้นฟูศาสนาฮินดู หมดราชวงศ์เสนะ ผู้คนในดินแดนนี้ครึ่งหนึ่งก็หันไปนับถือศาสนาอิสลามอยากจะรู้ว่าเบงกอลในอดีตเป็นยังไง ต้องไปอ่านบันทึกของภิกษุจีนฟาเฉียน ซึ่งจาริกแสวงบุญมาอินเดียระหว่าง ค.ศ. 400–411 ท่านบันทึกว่าเบงกอลเจริญร่ำรวยมาก อีกท่านหนึ่งที่กล่าวถึงเบงกอลในงานเขียนที่ชื่อ Periplus of the Erythrian Sea คือ พโตเลมี นักภูมิศาสตร์ชาวกรีกโบราณที่บอกว่าเบงกอลมีการค้าทางบกที่รุ่งเรืองกับดินแดนต่างๆ ภายในอนุทวีปอินเดียภิกษุฟาเฉียนมาเยือนเบงกอลเป็นรูปแรก หลังจากนั้นก็มีภิกษุจีนฉวนซางหรือพระถังซำจั๋งมาเยือนเบงกอลในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 7 ก็บันทึกว่า ในแคว้นนี้มีโบสถ์วิหารพุทธมากมายถึงแม้จะมีผู้ปกครองบางราชวงศ์ต่อต้านพุทธศาสนา วัดในพุทธศาสนาเป็นศูนย์ศึกษาที่ยิ่งใหญ่ในสมัยราชวงศ์ปาละหลายท่านเข้าใจว่ามุสลิมเติร์กและอัฟกันเข้ามารุกรานเบงกอลซึ่งนับถือศาสนาพุทธ ขอเรียนว่า ไม่น่าจริงครับ เพราะศาสนาพุทธยิ่งใหญ่ในสมัยราชวงศ์ปาละ พอถึงราชวงศ์เสนะเบงกอลก็สั่งให้ฟื้นฟูศาสนาฮินดู จนไม่เหลือร่องรอยการนับถือพระพุทธศาสนาในหมู่คนชั้นนำของเบงกอลเมื่อตอนที่ศาสนาอิสลามเข้ามาเจ้ามุสลิมราชวงศ์ต่างๆ หมุนเวียนปกครองเบงกอลอย่างอิสระจนถึงสมัยมุคัล เมื่อจักรพรรดิอัคบาร์มหาราชของมุคัลสามารถตีเบงกอลได้สำเร็จเมื่อ ค.ศ.1575คนเบงกอลเปลี่ยนจากนับถือศาสนาฮินดูไปนับถือศาสนาอิสลามเพราะปีร์ที่คือครูลัทธิซูฟีผู้เข้ามาเผยแผ่ศาสนาอิสลามในรูปแบบที่เรียบง่าย เน้นความศรัทธามากกว่าหลักการ เน้นความสันโดษและการเจริญภาวนาซึ่งคนอินเดียคุ้นเคยอยู่แล้ว ครูลัทธิซูฟีเหล่านี้พยายามสร้างความกลมกลืนกับวัฒนธรรมดั้งเดิม มีการแปลมหากาพย์สันสกฤตของฮินดูเป็นภาษาเบงกาลี สร้างมัสยิดในรูปทรงสถาปัตย์พื้นเมือง การเปลี่ยนจากศาสนาฮินดูหันมาเข้ารับอิสลามจึงเกิดอย่างรวดเร็วในแคว้นนี้ แต่ก็ยังมีชาวฮินดูในแคว้นนี้ครึ่งต่อครึ่ง พวกที่สร้างความยุ่งยากในดินแดนทางแถบนี้และซ่อนปัญหาไว้จนถึงปัจจุบันก็คือบริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษและของฮอลันดาที่ค้าขายในเบงกอลได้โดยไม่ต้องเสียภาษีตอนอังกฤษเข้ามาในเบงกอลได้สร้างป้อมวิลเลียมซึ่งต่อมา กลายเป็นศูนย์กลางการค้าของอังกฤษในเบงกอลแล้วขยายออกเป็นเมืองกัลกัตตาตอนหลังอังกฤษยกทัพบุกเบงกอลรบชนะ ผู้นำเบงกอลต้องบริหารแคว้นเบงกอลตามความต้องการของบริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษ ผู้ปกครองคนไหนยึกยักก็จะถูกบริษัทปลด สุดท้ายอังกฤษส่งข้าหลวงเข้ามาบริหารเองกัลกัตตากลายเป็นศูนย์กลางการปกครองและศูนย์กลางความเจริญแบบตะวันตกของอินเดีย อังกฤษส่งเสริมการศึกษาแบบตะวันตกเพื่อคัดเลือกคนอินเดียที่ความรู้ดีเข้ารับราชการ ชาวเบงกอลจึงมีหัวก้าวหน้าและทันสมัยกว่าชาวอินเดียในแคว้นอื่นๆเรื่องของเบงกอลยังน่าสนใจครับ พรุ่งนี้ขออนุญาตมาว่ากันต่อ.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.com