ตร.แถลงผลงานในรอบปี ภาพรวมอาชญากรรมคดีประทุษร้ายเกี่ยวกับทรัพย์และเพศน้อยลงแต่แจ้งเตือนประชาชนอาชญากรรมทางไซเบอร์จะเพิ่มสูงขึ้นในปีหน้า แต่ยังคุยโวปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์หมดไปจากประเทศแล้ว คดียาเสพติดจับกุมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบคืนทรัพย์สินและโฉนดที่ดินให้กับเหยื่อกว่า 14,975 ราย รวมมูลค่ากว่า 16,000 ล้านบาท ด้านดีเอสไอประชุมร่วม 7 หน่วยงาน เตรียมพร้อมรับมืออาชญากรรมไซเบอร์ปี 2562ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 ธ.ค. พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร.และโฆษก ตร. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. ร่วมกันสรุปผลงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปี 2561 พล.ต.ท.ปิยะกล่าวว่า ภาพรวมอาชญากรรมพื้นฐานลดลง เช่นคดีความผิดเกี่ยวกับชีวิต ร่างกาย เพศ มีคดีเกิด 18,923 ราย จับได้ 15,879 ราย คิดเป็น 83.91 เปอร์เซ็นต์ มีสถิติลดลงกว่า 1,000 ราย คดีความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ มีคดีเกิด 57,671 ราย จับได้ 38,696 ราย คิดเป็น 67.10 เปอร์เซ็นต์ มีสถิติลดลงกว่า 4,000 ราย เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2560 แต่ขอแจ้งเตือนประชาชนอาชญากรรมทางไซเบอร์จะเพิ่มสูงขึ้นในปี พ.ศ.2562“ปัจจุบันเทคโนโลยีต่างๆ พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเทคโนโลยีเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตมิจฉาชีพนำมาใช้ทำผิด ทำให้เกิดอาชญากรรมรูปแบบใหม่ ที่เรียกว่า “อาชญากรรมไซเบอร์” หรือ “อาชญากรรมคอมพิวเตอร์” เช่นคดีฉ้อโกงออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งรักหลอกออนไลน์ การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา คดีค้ามนุษย์ หรือคดีเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา ในรอบปี 2561 มีสถิติสูงขึ้นอย่างมากรับแจ้ง 26,659 ราย ศปอส.ตร.จับได้ 16,086 ราย ทั้งนี้ คดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ คดีเกิดขึ้น 508 ราย จับกุมทั้งหมดเรียกว่าหมดไปจากประเทศแล้ว รวมความผิดคดีอาชญากรรมไซเบอร์ ระดมกวาดล้างมีมูลค่า 428,494,744 บาท ส่งเรื่องให้ ปปง. ยึดทรัพย์แล้ว 16 เรื่อง มูลค่าทรัพย์สินที่อายัดและรออายัด 397,635,520 บาท ส่วนคดียาเสพติดมีผลจับกุมเพิ่มมากขึ้นกว่าปี 2560 จับกุม 556,502 ราย ผู้ต้องหากว่า 615,134 คน มีคดีเพิ่มขึ้นกว่า 93,140 ราย สรุปภาพรวมอาชญากรรมทั้งประเทศ ในปี 2561 รับคำร้องทุกข์ 762,890 คดี จับกุม 699,043 คดี คิดเป็น 91.63 เปอร์เซ็นต์ แนวโน้มอาชญากรรมลดลงเป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.” โฆษก ตร.กล่าวด้าน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักผาล ผบช.สตม.กล่าวว่า ศปอส.ตร. แก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา ในรอบปี 2561 รับแจ้ง 21,383 ราย เข้าไกล่เกลี่ยและคืนทรัพย์สินและโฉนดที่ดินให้กับประชาชน 6 ครั้ง ประชาชนรับคืนกว่า 14,975 ราย คืนโฉนดที่ดิน 11,805 ฉบับ จำนวน 36,990 ไร่ 3 งาน 97 ตารางวา คิดเป็นมูลค่ากว่า 16,000 ล้านบาท ทั้งนี้แนวโน้มอาชญากรรมในปี 2562 จะเห็นว่าอาชญากรรมไซเบอร์ หรืออาชญากรรมคอมพิวเตอร์จะมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงคดียาเสพติดมีผลการจับกุมที่สูงขึ้นเช่นเดียวกัน ขอแจ้งเตือนให้ประชาชน ตระหนักรู้และรู้เท่าทันภัยหลอกลวงต่างๆเกี่ยวกับอาชญากรรมไซเบอร์ เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ รวมถึงร่วมกันป้องกันอาชญากรรมภัยจากยาเสพติด ให้ลดน้อยและหมดไปจากประเทศต่อมาเวลา 10.30 น. วันเดียวกัน ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เป็นประธานการประชุมร่วม 7 หน่วยงาน อาทิ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สมาคมธนาคารไทย และกรมประชาสัมพันธ์ เพื่อหารือมาตรการในการป้องกันและปราบปรามเว็บไซต์ที่ขัดต่อความเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีต่อประชาชน พร้อมสร้างการรับรู้ในเรื่องการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าวว่า ปี 2561 ดีเอสไอสืบสวนสอบสวนคดีอาชญากรรมคอมพิวเตอร์อย่างต่อเนื่อง พบรูปแบบการกระทำความผิด 1.ฉ้อโกงในการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ 2.หลอกลวงให้เข้าเว็บไซต์ปลอมทำเลียนแบบเว็บไซต์จริง 3.หลอกลวงว่าเป็นบุคคลอื่นโดยการปลอมอีเมล 4.เผยแพร่หรือส่งต่อภาพลามกอนาจาร หรือข้อความอันเป็นเท็จฯ 5. หลอกลวงจีบผู้หญิงหรือเพศอื่นด้วยการพูดคุยผ่านโปรแกรมแชต ทำให้เหยื่อเชื่อว่าตกหลุมรัก 6.การรับจ้างเปิดบัญชีเงินฝาก ฝากถึงประชาชนให้รู้ทันถึงรูปแบบอาชญากรรมทางไซเบอร์จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ