เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา ถือว่าเป็น วันครบรอบ 50 ปี ในการรำลึกพิธีประวัติศาสตร์ระหว่าง ไทย กับ สปป.ลาว เนื่องด้วย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานในพิธีเปิดสายส่งไฟฟ้าแรงสูงจากฝั่งไทย จ.หนองคาย ข้ามไปยังฝั่งลาว นครหลวงเวียงจันทน์ ร่วมกับ สมเด็จเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนาแห่งราชอาณาจักรลาว ณ แพกลางลำน้ำโขง จ.หนองคาย ในวันที่ 16 ธ.ค.2511 ทำให้เกิดการเชื่อมระบบไฟฟ้าระหว่างทั้งสองประเทศเป็นครั้งแรก และนำมาสู่การพัฒนาระบบส่งไฟฟ้า การซื้อขายไฟฟ้า การแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านเทคนิควิชาการ การพัฒนาบุคลากรการใช้ไฟฟ้าของทั้งสองประเทศ นำมาซึ่งความเจริญพัฒนาของทั้งสองประเทศในปัจจุบัน นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นำ ครม.ของไทยไปร่วมประชุม ครม.กับ สปป.ลาวอย่างเป็นทางการ ยิ่งกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศให้แนบแน่นยิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่การพัฒนาทางด้านความเจริญของทั้งสองประเทศเท่านั้น แต่เป็นการสร้างการกินดีอยู่ดีให้กับประชาชนทั้งสองประเทศในฐานะบ้านพี่เมืองน้องในปี 2509 ประเทศไทยสร้าง เขื่อนอุบลรัตน์ ขึ้นมา ในขณะที่ สปป.ลาว เริ่มสร้าง เขื่อนน้ำงึม แต่ สปป.ลาวยังขาดแคลนพลังงานไฟฟ้าและพลังงานเชื้อเพลิงที่จะต้องใช้ในงานก่อสร้าง ศ.ดร.บุณรอด บิณฑสันต์ ผู้แทนประเทศไทยได้ขอให้รัฐบาลไทยช่วยเหลือ สปป.ลาวในรูปแบบสินเชื่อ สนับสนุนพลังงานไฟฟ้าและปูนซีเมนต์ในการสร้างเขื่อน โดย สปป.ลาวจะใช้คืนในรูปแบบของพลังงานไฟฟ้าและการขายไฟฟ้าที่เหลือให้กับประเทศไทยปี 2514 เขื่อนน้ำงึม เริ่มเดินเครื่องจ่ายกระแสไฟฟ้า นับเป็นจุดเริ่มต้นนำไปสู่ความร่วมมือทางด้านพลังงานไฟฟ้าของทั้งสองประเทศ จนกระทั่งปี 2530 กฟผ. ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจาก เขื่อนเซเสด ของรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว ซึ่ง กฟผ. เป็นผู้ลงทุนก่อสร้างสายส่งขนาด 115 กิโลโวลต์ จาก เขื่อนสิรินธร ไปยังจุดรับซื้อ และเริ่มรับซื้อกระแสไฟฟ้าจากเขื่อนเซเสด ตั้งแต่ปี 2534 เป็นต้นมานอกจากความร่วมมือในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำและการพัฒนาระบบส่งไฟฟ้าแล้วยังมีความร่วมมือด้านต่างๆที่ กฟผ.เป็นผู้ลงนามด้านวิชาการกับสถาบันการศึกษา สนับสนุนทุนการศึกษา ทุนการวิจัย การฝึกอบรม การศึกษาดูงาน ให้กับ สปป.ลาวอย่างต่อเนื่องมีการร่วมมือพัฒนาเครือข่ายคมนาคมเชื่อมโยงไปยังประเทศที่สาม ในอนุภูมิภาคนี้ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ข้ามแม่น้ำโขงทั้ง 4 แห่ง ในอนาคตจะมีสะพานมิตรภาพเพิ่มขึ้นอีก 2 แห่งคือที่บึงกาฬและอุบลราชธานีเรายังเป็นประเทศที่ มีการลงทุนมากที่สุดใน สปป.ลาว แลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนต่างชาติ จัดตั้งศูนย์ One Stop Service และระบบ E–government สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน เป็นความสัมพันธ์ในฐานะบ้านพี่เมืองน้องตลอดไปโดยจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.th