แม้การส่งยานอวกาศไปสำรวจดวงจันทร์จะดูเหมือนไม่ใช่เรื่องที่น่าตื่นเต้นอะไรอีกต่อไป ไม่เหมือนกับที่นักวิทยาศาสตร์ด้าน อวกาศกำลังมุ่งให้ความสนใจกับการส่งเทคโนโลยีทันสมัยไปยังดาวอังคารเพื่อกรุยทางสำหรับโครงการอันสุดทะเยอทะยานที่จะส่งมนุษย์ไปเดินบนดาวเคราะห์สีแดงแห่งนั้นภายใน 20 ปีข้างหน้าขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกาหรือองค์การนาซาการลงจอดบนดวงจันทร์ของยานอพอลโล 11 ของนาซานับเป็นความสำเร็จของมนุษยชาติที่ส่งมนุษย์ไปเหยียบบนดวงจันทร์ได้สำเร็จ โดยจอดบนด้านสว่างของดวงจันทร์ที่เรามองเห็นจากโลก ทว่าดวงจันทร์บริวารดวงนี้จะหมุนรอบโลกโดยหันด้านเดียวเข้าหาโลก ทำให้เราไม่เคยเห็นถึงอีกด้านไกลหรือที่เรียกว่าด้านมืดของดวงจันทร์ (Dark side of the Moon) ว่าเป็นอย่างไร มีอะไรที่น่าค้นหา ซึ่งเป็นความลึกลับที่ใครต่อใครก็คงอยากรู้ล่าสุด ความลับอีกด้านของจันทรากำลังจะได้รับการไขให้กระจ่างแจ้งในอีกไม่ช้านาน เมื่อ องค์กรอวกาศของจีนิ(China National Space Administration CNSA) ประกาศปล่อยยานอวกาศฉางเอ๋อ 4 (Chang’e 4) ไปสำรวจด้านมืดของดวงจันทร์ สร้างประวัติศาสตร์เป็นยานอวกาศลำแรกที่ส่งมนุษย์ไปยังพื้นที่ที่ยังไม่เคยมียานอวกาศลำไหนไปถึง กำหนดทะยานออกจากโลก ในวันที่ 8 ธ.ค.2561นี้ โดยจะมุ่งหน้าไปโคจรรอบๆดวงจันทร์ก่อน จากนั้นก็ลงจอดในบริเวณที่เลือกไว้เป็นพิเศษ ซึ่งมีกำหนดจอดบนดวงจันทร์ในต้นปี พ.ศ.2562นักวิทยาศาสตร์จีนเผยว่า โดยหลักๆ แล้วนักบินอวกาศของยานฉางเอ๋อ 4 จะศึกษาทางธรณีวิทยา ตรวจสอบองค์ประกอบทางเคมีของดิน วัดอุณหภูมิพื้นผิว พร้อมกับเก็บตัวอย่างดินและหินกลับมาวิเคราะห์ยังโลก นอกจากนี้ก็จะมีการทดลองทางวิทยาศาสตร์มากมายบนพื้นที่ด้านมืดของดวงจันทร์ เช่น การทดลองเพาะเมล็ดพืชการสำรวจด้านมืดของดวงจันทร์ครั้งนี้นอกจากจะสำคัญต่อวงอวกาศจีนแล้ว ยังถือเป็นก้าวสำคัญต่อการปฏิบัติภารกิจอื่นๆ ในระบบสุริยะของเรา โดยเฉพาะเป้าหมายขององค์การนาซาที่วางแผนใช้ดวงจันทร์เป็นฐานสำหรับการเตรียมตัวเดินทางสู่ดาวอังคารในอนาคต.ภัค เศารยะ