โลดแล่นบนเส้นทางสายดนตรี จนมีคำว่า “นักร้องคุณภาพ” แปะการันตี อยู่ที่หนุ่ม “หนึ่ง-อภิวัฒน์ พงษ์วาท” หรือ “หนึ่ง อีทีซี” ล่าสุดเจ้าตัวร่วมเป็นหนึ่งในศิลปิน คอนเสิร์ต “MQDC presents Master of Voices ตำนานเพลงรัก 3 รุ่น” บทเพลงอมตะจากรุ่นสู่รุ่น รวบรวมบทเพลงลูกกรุงมากมายในอดีตถ่ายทอดโดยนักร้องเสียงต้นฉบับระดับศิลปินแห่งชาติและนักร้องคุณภาพในปัจจุบัน 3 เจเนอเรชัน พุธที่ 5 ธ.ค. นี้ ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ เลยชวน “หนึ่ง” เผยถึงความเป็นนักร้องที่อยู่ในตัวเริ่มจากคอนเสิร์ตนี้ว่า...“งานนี้เหมือนรวมหลายรุ่น แบ่งเป็น 3 รุ่น มาร้องด้วยกัน ตั้งแต่รุ่นอาๆ ตาๆ รุ่นตำนานอมตะ สุเทพ วงศ์กำแหง, ชรินทร์ นันทนาคร, ธานินทร์ อินทรเทพ, เศรษฐา ศิระฉายา รุ่นกลางลงมาคือรุ่นฮิต สุเมธ องอาจ, เท่ห์ อุเทน, อ๊อด คีรีบูน, ฟอร์ด สบชัย แล้วก็มีอีกรุ่น มีรุ่นใหม่ มีนนท์ ธนนท์, ต้น ธนษิต, โอ ศิร์ภูมิ และผม ถ่ายทอดเพลงอมตะเป็นส่วนใหญ่และเพลงปัจจุบัน มีหลายเพลงที่เคยร้องติดหูและมีทั้งมาเรียนรู้ใหม่” กดดันมั้ยต้องเทียบอีก 2 รุ่น?“น่าจะสนุก ไม่ได้กดดัน อาๆน่ารักดูแลลูกๆ หลานๆ รุ่นพี่ไอดอลอย่างพี่ฟอร์ดก็สนิทอยู่แล้ว เหมือนเป็นการรวมญาติ เจอเครือต้นไม้แต่ละรุ่นของวงการ มีการแจมกัน น่าจะเป็นคอนเสิร์ตที่มีความสุขทั้งครอบครัว ไม่น่าจะได้มี บ่อยๆ เพราะคิวแต่ละท่านด้วย ศิลปินอาๆบางท่านก็นั่งร้องเพลงกันแล้ว”เท่าที่เห็นความเก๋าของรุ่นใหญ่และรุ่นกลางให้อะไรเราบ้าง?“สมัยก่อนเทคโนโลยีมันไม่ง่าย จะอัดเพลงแก้ไขยาก ต้องเทกเดียวผ่าน อัดกันเป็นวัน ทำให้เราเห็นว่าศิลปินสมัยก่อนนี่เก่งกันจริงๆ สมัยนี้มีเครื่องทุ่นแรงเยอะ เรื่องการทำงานผมก็ได้มาเยอะ อย่างรุ่นพี่ฟอร์ด ตอนที่ผมยังไม่รู้ว่าตัวเองร้องเพลงยังไง ก็ชอบเค้ามาก ชอบสำเนียงการร้อง เลยแกะร้องตามเค้าเพลงช้าสำเนียงอาร์แอนด์บี ชอบพี่สุเมธด้วย สำเนียงหวานๆ พี่เท่ห์อีก เพลงพวกพี่เค้าเป็นเพลงครูทั้งนั้น ทำไมเค้าร้องคำว่าเสียใจเพราะจัง เราก็เอาเทคนิคมา เหมือนได้เจอรากเหง้าของตัวเอง (ยิ้ม)”มองรุ่นอมตะแล้วเห็นภาพตัวเองเป็นแบบนั้นมั้ย?“ก็เห็นตัวเองนะ เค้าดูมีความสุขได้ทำสิ่งที่มีแพสชันมาตลอดชีวิต”เรียกว่าขออยู่กับตรงนี้?“น่าจะเป็นหลักครับ ถ้าจะขยายก็คงอยู่ในวงการนี้ นักแต่ง เพลง นักดนตรี” เส้นทางนักร้องของหนึ่งถือว่ายากมั้ย?“สำหรับผมออกอัลบั้มแรกก็ปี 2007 ทุกวันนี้ก็ 11 ปี เหมือนจะนานแต่ถ้ามองเป็นไทม์ไลน์ชีวิตนักร้องมันก็ไม่นานหรอก มันก็มีประสบการณ์เยอะ แต่เดี๋ยวนี้มีคนเก่งเยอะมาก พอคนเก่งเยอะ มันก็ผลักดันให้เราทำงานให้ดีขึ้น กว่าจะได้เพลงก็ทำงานหนัก เพราะเราเหมือนอยู่ในสนามฝึกตลอด”มีช่วงที่ดูถูกแซวว่านักร้องขี้อาย?“ตอนนี้ก็โอเคขึ้น ก็ยังมีความเขินอาย ตอนไปฝึกละครเวทีได้ฝึกอะไรมากขึ้น พื้นฐานเป็นคนขี้อายผ่านเวทีได้เจออะไรเยอะที่ทำให้อยู่บนเวทีแล้วเรารีแล็กซ์ขึ้น เมื่อก่อนร้องเพลงกังวลว่าจบเพลงจะพูดอะไร เคยมีนะประสบการณ์เวลาขึ้นคอนเสิร์ตต่อจากศิลปินที่เค้าพูดเก่งมาก เหงื่อแตกเลย ไม่รู้จะพูดอะไร”เส้นทางนักร้องมีช่วงอยากหันเหไปทางอื่น?“ไม่มีนะครับ อาจจะมีช่วงนึงที่หมดไฟบ้างแต่ก็กลับมาได้ ช่วงนึงหมดสัญญากับค่ายเก่า ไม่ได้มีค่ายใหม่ จะปล่อยเพลงใหม่ก็ไม่ได้ ใช้เวลา 2-3 ปี ก็กดดันนะ เราเลยเริ่มคิดไอเดียไซด์โปรเจกต์ เลยคิดว่าอยากทำแล้วปล่อยเพลงมาเรื่อยๆดีกว่า อย่างงานวงอีทีซี มีหลายคนมีหลายปัจจัย แต่ของตัวเองอยากทำเมื่อไหร่ก็ทำ เพื่อนๆในวงก็เข้าใจนะ ปีหน้าวงอีทีซีออก 4 เพลง ทำเพลงที่สามารถฟังเพลงได้ตลอด อยู่ได้ทุกยุค เอาความรักดนตรีของเราใส่ไปให้สุด เอาความรู้สึกที่เรามีความสุขปีนี้ผมเลยทำเพลงเราปล่อยช่วงที่วงว่างนี่ล่ะ ปล่อยเพลงตัวเอง 5 เพลง เพลงเดี่ยวจะไม่ใช่เพลงแนวเดียวกับวง ผมก็จะทดลองทำหลายๆอย่างที่ไม่เคยทำ”อยู่นานๆมีวิธีรีเฟรชการทำงานยังไง?“ฟังเพลงเรื่อยๆ ศิลปินเก่าๆก็เป็นแรงบันดาลใจให้เรา คนที่เค้าอยู่นานแล้วยังออกเพลงยังประสบความสำเร็จก็มีเยอะ อย่างฟาร์เรล วิลเลียม ยังเป็นไอคอนไอดอล”ชีวิตส่วนตัวก็ใกล้มีข่าวดีกับสาวเก๋ แฟนสาวนอกวงการ?“ก็กำลังคุยกันเยอะขึ้น น่าเป็นปีหน้า เพราะคบกันมา 8-9 ปี”แปลว่าแฟนอยู่ในช่วงชีวิตนักร้องของเรามาตลอด?“ใช่ครับ อยู่ตั้งแต่ช่วงเละมาถึงช่วงประคองตัวได้ (หัวเราะ) ด้วยความที่เราอยู่เงียบๆ ชีวิตส่วนตัวไม่ได้เปิดเผยอะไรมาก แต่แฟนเพลงก็รู้นะ”อะไรทำให้เค้าอยู่กับเรานาน?“ก็ผ่านอะไรมาเยอะ เค้าก็ทนเราได้เยอะเหมือนกัน มองย้อนกลับไปสมัยที่เรา ติสต์ๆ อะไรก็อ้างทำเพลง ทำงาน (ยิ้ม) แต่เค้าคงเห็นว่าเราก็พยายามปรับตัวให้ดีขึ้น เค้าก็ยังอยู่”.